ตัวนี้แหละ ตั้งใจไปซื้อมากกว่าบลัชครีมอีก
แบบว่าบีบีที่ใช้อยู่มันก็ดีนะ (รีวีวไว้ที่ http://katereview.blogspot.com/2011/08/review-freshel-white-c-mineral-bb-cream.html) แต่พึ่งรู้ว่าค่อนข้างหนา เพราะหน้ามันหน่อยก็เริ่มเหนียว เยิ้ม หนึบหนับซะแล้ว (อ่านแล้วรู้สึกหยึยๆมั้ยล่ะ)
พอตัวนั้นใกล้หมดก็เลยมองหาของใหม่ อีกละ จนนึกถึงเพื่อนเก่าที่เคยดูๆกันไว้ ซึ่งตอนแรกยังมีบีบีอื่นๆมากมายเลยไม่ได้คบกัน ตอนนี้กลับมาหารีวิว อืมมมม มันน่าสนใจมิใช่น้อย ตรงตาม concept ใช้ได้เลย ไม่เหนียวหนักหน้า คุมมันได้ประมาณนึง สีออกเนื้อเหลือง ราคาไม่เว่อร์ โอเค ตกลงใจและ เจ้าจงไปสืบเสาะเคาะหามา!
หน้าตาเจ้าหล่อนก็เป็นเช่นนี้แล
ซื้อมาพร้อมบลัชครีมนั่นแหละ อ้ายปุกเล็กมันขอตามมาด้วยเพราะว่าลดราคาอยู่ แล้วพี่ไม่สนหนูเหรอ เอาม๊าๆ...เอาสิน้อง 5555
ตัวหลอดเรียบๆ ไม่ดึงดูดสายตาเหมือนพวกยี่ห้อเกาหลีเลย blogger บางคนถึงกะดึงไปเป็นข้อเสีย แต่เราไม่คิดมากนะ ถ้าของข้างในดีก็โอเค เดี๋ยวมาบวกค่า package ตูอีกล่ะเบื่อเลย เหอๆๆ
เอามาเปรียบเทียบกะของเดิมซะหน่อย เดี๋ยวมันหมดแล้วไม่มีดู ตอนที่บีบออกมาแบบ ตกใจมาก เฮ้ยยย มันสีเดียวกันเลยง่ะ สงสัยมาจากเครือเดียวกันนิ (คาเนโบทั้งคู่ชิมิ)
น้องเคทอยู่บน สี (OC-B) หลอดเงินอยู่ล่าง (สี NB-Nude Beige) วางตามตำแหน่งหลอดเลยนะจ้ะ ขนาดเกลี่ยแล้วยังแยกสีไม่ออกเลย ให้ตายสิ
แล้วมันต่างกันตรงไหน?
นั่นสิ ตอนแรกนึกว่า เอิ่ม ตูจ่ายแพงกว่าเพื่อได้ผลลัพธ์แบบเดิมหรือเปล่าวะเนี่ย แต่พอหันมาเห็นนิ้วที่เกลี่ยทั้งสองบีบีนี้แล้วถึงได้คำตอบ
นิ้วที่เกลี่ย freshel มันเลอะมาก เนื้อครีมติดเลอะที่นิ้วพอสมควร ทั้งสีทั้งครีม เขรอะๆเต็มเลย ยิ่งถ้าเอานิ้วเกลี่ยทั้งหน้าก็ยิ่งเลอะเต็มนิ้วชี้และนิ้วกลางไปเลย ตอนนั้นไม่มีตัวเปรียบเทียบเลยไม่ได้สนใจ เลอะก็เช็ดไปดิ อะไรงี้
แต่!!! นิ้วที่เกลี่ยเคทเนี่ยสิ พลิกขึ้นมาดูแล้วแบบ เฮ้ย!!! (จะตกใจเยอะไปไหน) เกลี้ยงสะอาด เหมือนยังไม่ได้จับอะไรเลย คือมันแทบจะไม่เลอะนิ้วเลยอ่ะนะ อยากถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานแต่ไม่ค่อยถนัดมือที่จับกล้องเลยขอผ่านจ้า
โอเค ชัดป่ะ สำหรับเรามันจบที่จุดๆนี้เลยอ่ะ แบบว่า เออ คิดไม่ผิดที่ซื้อมา หยั่งงี้มันต้องลองใช้กะหน้าจริงหน่อยซิ
เป็นงัย เริ่ดป่ะ ขอกลับคำพูดตัวเองที่บอกว่าจะไม่ขอลงหนังหน้าที่มีแต่รองพื้นหรืออะไรแนวนี้ แต่พอดีรูปนี้ถ่ายไว้เพื่อเทียบกะรูปที่ลงบลัชครีม ซึ่งมันก็แทบไม่ต่างกันเลยระหว่างมีบลัชครีมหรือไม่มี ก็เลยเอามาลงบล็อกนี้ไปเลยดีกว่า
จริงๆแล้วตัว freshel ก็จะได้ look ประมาณนี้นะ เพราะสีเหมือนกัน แต่มันจะดูหนาๆหน่อย เหมือนที่หลายคนเห็นตรงกันแหละ เคทจะเป็น light to medium coverage ส่วน freshel จะเป็น medium to heavy
พอมีของใหม่มาเทียบเลยปลื้มของใหม่เป็นธรรมดา ได้สีหน้าสว่างไม่วอก และก็ดูเบาๆ ไม่โบ๊ะเว่อร์ด้วย ระหว่างวันก็ไม่เป็นคราบ ไม่ทำให้มันเพิ่ม เรื่องคุมมันไม่ได้คิดไกลขนาดนั้น แต่มันก็พอถูไถเรื่องนี้ไปได้
โอ้ย รักใหม่ถูกใจง่ะ แบบว่าไม่อยากใช้บีบีหรือรองพื้นที่ยังมีอยู่เลยให้ตายสิ อยากใช้ตัวนี้ทุกวันๆ ประทับใจสุด ตอนแรกว่าจะเอาเมบาลีนแบบแท่งสีกลางมาลองยังไม่เอาเลย ขนาดมันลดราคาอยู่นะเนี่ย รู้สึกตัวนั้นเกลี่ยยากกว่า ของที่เรามีก็ยังเหลือเกินครึ่ง
สรุปว่า ซื้อต่อแน่นอนจ้ะงานนี้ อะไรจะปลื้มไปกว่านี้ ขนาดหลอดก็กระทัดรัด ไว้ที่โต๊ะก็ได้ พกเดินทางก็ได้ ครั้งต่อไปต้องซื้อราคาเต็มก็ยอม อย่าเลิกผลิตแล้วกัน คนนี้ขอคบกันยาวๆ อิอิ
ปล.ราคาเต็ม 475 ส่วนบลัชครีม 420 บาท แต่เราซื้อลด 10% ทั้งคู่จ้ะ
แบบว่าบีบีที่ใช้อยู่มันก็ดีนะ (รีวีวไว้ที่ http://katereview.blogspot.com/2011/08/review-freshel-white-c-mineral-bb-cream.html) แต่พึ่งรู้ว่าค่อนข้างหนา เพราะหน้ามันหน่อยก็เริ่มเหนียว เยิ้ม หนึบหนับซะแล้ว (อ่านแล้วรู้สึกหยึยๆมั้ยล่ะ)
พอตัวนั้นใกล้หมดก็เลยมองหาของใหม่ อีกละ จนนึกถึงเพื่อนเก่าที่เคยดูๆกันไว้ ซึ่งตอนแรกยังมีบีบีอื่นๆมากมายเลยไม่ได้คบกัน ตอนนี้กลับมาหารีวิว อืมมมม มันน่าสนใจมิใช่น้อย ตรงตาม concept ใช้ได้เลย ไม่เหนียวหนักหน้า คุมมันได้ประมาณนึง สีออกเนื้อเหลือง ราคาไม่เว่อร์ โอเค ตกลงใจและ เจ้าจงไปสืบเสาะเคาะหามา!
หน้าตาเจ้าหล่อนก็เป็นเช่นนี้แล
ซื้อมาพร้อมบลัชครีมนั่นแหละ อ้ายปุกเล็กมันขอตามมาด้วยเพราะว่าลดราคาอยู่ แล้วพี่ไม่สนหนูเหรอ เอาม๊าๆ...เอาสิน้อง 5555
ตัวหลอดเรียบๆ ไม่ดึงดูดสายตาเหมือนพวกยี่ห้อเกาหลีเลย blogger บางคนถึงกะดึงไปเป็นข้อเสีย แต่เราไม่คิดมากนะ ถ้าของข้างในดีก็โอเค เดี๋ยวมาบวกค่า package ตูอีกล่ะเบื่อเลย เหอๆๆ
เอามาเปรียบเทียบกะของเดิมซะหน่อย เดี๋ยวมันหมดแล้วไม่มีดู ตอนที่บีบออกมาแบบ ตกใจมาก เฮ้ยยย มันสีเดียวกันเลยง่ะ สงสัยมาจากเครือเดียวกันนิ (คาเนโบทั้งคู่ชิมิ)
น้องเคทอยู่บน สี (OC-B) หลอดเงินอยู่ล่าง (สี NB-Nude Beige) วางตามตำแหน่งหลอดเลยนะจ้ะ ขนาดเกลี่ยแล้วยังแยกสีไม่ออกเลย ให้ตายสิ
แล้วมันต่างกันตรงไหน?
นั่นสิ ตอนแรกนึกว่า เอิ่ม ตูจ่ายแพงกว่าเพื่อได้ผลลัพธ์แบบเดิมหรือเปล่าวะเนี่ย แต่พอหันมาเห็นนิ้วที่เกลี่ยทั้งสองบีบีนี้แล้วถึงได้คำตอบ
นิ้วที่เกลี่ย freshel มันเลอะมาก เนื้อครีมติดเลอะที่นิ้วพอสมควร ทั้งสีทั้งครีม เขรอะๆเต็มเลย ยิ่งถ้าเอานิ้วเกลี่ยทั้งหน้าก็ยิ่งเลอะเต็มนิ้วชี้และนิ้วกลางไปเลย ตอนนั้นไม่มีตัวเปรียบเทียบเลยไม่ได้สนใจ เลอะก็เช็ดไปดิ อะไรงี้
แต่!!! นิ้วที่เกลี่ยเคทเนี่ยสิ พลิกขึ้นมาดูแล้วแบบ เฮ้ย!!! (จะตกใจเยอะไปไหน) เกลี้ยงสะอาด เหมือนยังไม่ได้จับอะไรเลย คือมันแทบจะไม่เลอะนิ้วเลยอ่ะนะ อยากถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานแต่ไม่ค่อยถนัดมือที่จับกล้องเลยขอผ่านจ้า
โอเค ชัดป่ะ สำหรับเรามันจบที่จุดๆนี้เลยอ่ะ แบบว่า เออ คิดไม่ผิดที่ซื้อมา หยั่งงี้มันต้องลองใช้กะหน้าจริงหน่อยซิ
เป็นงัย เริ่ดป่ะ ขอกลับคำพูดตัวเองที่บอกว่าจะไม่ขอลงหนังหน้าที่มีแต่รองพื้นหรืออะไรแนวนี้ แต่พอดีรูปนี้ถ่ายไว้เพื่อเทียบกะรูปที่ลงบลัชครีม ซึ่งมันก็แทบไม่ต่างกันเลยระหว่างมีบลัชครีมหรือไม่มี ก็เลยเอามาลงบล็อกนี้ไปเลยดีกว่า
จริงๆแล้วตัว freshel ก็จะได้ look ประมาณนี้นะ เพราะสีเหมือนกัน แต่มันจะดูหนาๆหน่อย เหมือนที่หลายคนเห็นตรงกันแหละ เคทจะเป็น light to medium coverage ส่วน freshel จะเป็น medium to heavy
พอมีของใหม่มาเทียบเลยปลื้มของใหม่เป็นธรรมดา ได้สีหน้าสว่างไม่วอก และก็ดูเบาๆ ไม่โบ๊ะเว่อร์ด้วย ระหว่างวันก็ไม่เป็นคราบ ไม่ทำให้มันเพิ่ม เรื่องคุมมันไม่ได้คิดไกลขนาดนั้น แต่มันก็พอถูไถเรื่องนี้ไปได้
โอ้ย รักใหม่ถูกใจง่ะ แบบว่าไม่อยากใช้บีบีหรือรองพื้นที่ยังมีอยู่เลยให้ตายสิ อยากใช้ตัวนี้ทุกวันๆ ประทับใจสุด ตอนแรกว่าจะเอาเมบาลีนแบบแท่งสีกลางมาลองยังไม่เอาเลย ขนาดมันลดราคาอยู่นะเนี่ย รู้สึกตัวนั้นเกลี่ยยากกว่า ของที่เรามีก็ยังเหลือเกินครึ่ง
สรุปว่า ซื้อต่อแน่นอนจ้ะงานนี้ อะไรจะปลื้มไปกว่านี้ ขนาดหลอดก็กระทัดรัด ไว้ที่โต๊ะก็ได้ พกเดินทางก็ได้ ครั้งต่อไปต้องซื้อราคาเต็มก็ยอม อย่าเลิกผลิตแล้วกัน คนนี้ขอคบกันยาวๆ อิอิ
ปล.ราคาเต็ม 475 ส่วนบลัชครีม 420 บาท แต่เราซื้อลด 10% ทั้งคู่จ้ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น