วันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

New & Review: Kate volume gel mascara

นึกอยากจะเปลี่ยนซะงั้น เพราะของเดิมมันค้างมาปีนึงแล้ว
เคยอ่านเจอว่าเปิดใช้แล้วให้เก็บได้แค่ครึ่งปีก็ควรทิ้ง
เพราะของมันอยู่ใกล้ตา เปิดปิดออกบ่อยๆอาจจะมีเชื้อโรคติดมาแล้วเข้าตาก็ได้
จริงๆก็เบื่อของเดิมด้วยแหละ อิอิ

แท่งที่แล้วเป็นแบบเพิ่มความยาว เพราะเราซื้อมาผิด
แท่งนี้อยากเน้นเพิ่มความหนา เลยได้อันนี้มา








อืมมม สรุปว่ามันดีขึ้นหรือแย่กว่าเดิมเนี่ย เหอๆๆ
หรือเราใช้ไม่เป็น เปิดขวดมาก็ป้ายปื้ดๆเลย
ผลก็คือ เป็นก้อนกระจุกๆ น่าเกลียดชะมัด
รู้สึกเสียดายตังตะหงิดๆซะแล้ว ตั้ง 520 บาท
อุตส่าห์ใช้แต้มลดไป 50 บาทด้วยนะ หวังกะมันมาก
ตอนนี้อยากเขวี้ยงทิ้ง 5555
แต่เอาน่ะ ซื้อมาแล้ว ต้องอยู่กันไปอีกอย่างน้อย 6 เดือนด้วย
ลองเอามาป้ายน้ำยาส่วนเกินบนกระดาษทิ้งแล้วค่อยปาดและกัน
น่าจะดีขึ้น่ะ จะได้ใช้เปลืองๆด้วย อิอิ

ตอนป้ายแรกๆ ถ้าเป็นกระจุกก็เอานิ้วเขี่ยๆได้นะ เลอะติดนิ้วไม่เป็นไร ล้างน้ำเปล่าก็ออก เลยน่ากลัวเหมือนกันว่าจะแพนด้าเอาง่ายๆ แต่สักพักก็แห้ง คราวนี้จับก็สีไม่หลุดและ เอาที่ดัดขนตาดัดซ้ำยังได้เลย

แต่ตอนปาดครั้งแรกดูดีมากเลยนะ เหมือนกับว่าเค้าทำมาให้ใช้ง่าย ปาดครั้งเดียวก็ดูหนา อะไรงั้น ครั้งต่อไปเลยว่าจะเอามั่ง ดัดขนตาให้เริ่ดๆแล้วก็ปาดครั้งเดียวพอ แต่จะได้ใช้คุ้มมั้ยเนี่ย มันขี้เกียจมานั่งดัดขนตาเนี่ยสิ เหอๆๆ

วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

Review: blush pixie pink

ลากยาวมาเลย กว่าจะได้รีวิวตัวนี้
จริงๆยังมีอีกสามพาเลตนะ แต่เราแต่งตาไม่สวยอ่ะ 
ไม่กล้าโชว์ ดูสีไปอย่างเดียวก็พอ เหอๆๆ

ยืมรูปจากตอนเปิดกล่องนิดนึงนะ



ตอนนี้หน้าบลัชไม่สวยแล้วล่ะ ฝามันแน่นมาก ตอนแรกเราเปิดแล้วมือมันพลาดไปจิ้มเนื้อบลัชเป็นรูเลย คุณชายก็เป็นเหมือนกัน มือบอนมาเปิดของเค้าเล่น จิ้มไปอีก 1 รู เหอๆๆ



ตอนที่ดูสีจากเว็บ เราก็นึกว่าสีชมพูนมน่ารักๆ แต่แค่เปิดฝามาก็ตกใจแล้ว มันชมพูแอ๋นมากเลยอ่ะ ตายๆๆ ปัดไปแล้วชั้นไม่ลิเกแย่เหรอ เลยปัดเบาๆ ได้เท่านี้แหละ อย่างรูปบนนี่ก็ดูเข้มแล้วนะ นึกแล้วยังเคืองนายเก่าไม่หาย วันนั้นเราปัดสีนี้ไปครั้งแรก ดันมาทักว่าเรากินสาเกมาเหรอ แอร๊ยยยย กะจะให้ดูเป็นลุคคุณหนู กลายเป็นลำยองไปได้งัยเนี่ย

เลยได้แต่ทำใจ คิดเสียว่าเรามี nars desire ในราคาที่ถูกกว่ามากๆ สีเข้มปัดยากเหมือนกัน แหมมมม แต่ใช้ได้ทีละนิดเดียวแบบนี้ ชาตินี้มันจะหมดมั้ยล่ะเนี่ย เฮ่ออออออ ถ้าเอามากินได้ก็ทำไปแล้วอ่ะ จะได้หมดไวๆ

วันพุธที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

เล่น photo hunt กัน

เหมือนว่าจะชินกับคิ้วโปร่งๆมานาน
พอลองปาดคิ้วดำแล้วถ่ายรูปออกมา...โอ้โห.......
คิ้วตันมากอ่ะ เหอๆๆ
.......
.......
.......
.......
.......
.......
ไม่เชื่อลองดูดิ สองรูปนี้ต่างกันตรงไหนจ้ะ อิอิ
 เฉลย: รูปขวา กรีด eyeliner เพิ่มอ่ะ ดูออกมั้ยเนี่ย 

เพิ่มเติม ตาใช้ op แท่งสีชมพู + palette oh so special ซ้ำตอนเย็นนิดหน่อย ออกมาช้ำเลือดช้ำหนองชอบกล อิอิ

แก้มใช้บลัชครีมทั้งสองสีบางๆ ปัดแมคทับนิดๆ กะ pixie pink นิดหน่อย มั่วไปหมด เหอๆๆ

ปากแค่ลงลิปมันแล้วก็นีเวียสีชมพูแจ๋นอ่ะ
ส่วนรูปนี้ ลอง shading แนวกรามกะข้างจมูก + highlight สันจมูกอ่ะ ถ่ายรูปแล้วดูไม่ออกเลยฟร่ะ เหอๆๆ

วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

New & Review: Cutepress milk lotion

แกะห่อเป็นชิ้นล่าสุดของชุดนี้
อยากลองมานานและ ตอนนั้นเคยใช้แบบเข้มข้น ผสมยูวีด้วย แต่ไม่ชอบเลย มันเหนียวและกลิ่นก็แปลกๆ เลยใช้ขวดเดียวเลิกกัน แต่แบบนี้ยังไม่เคย ก็ต้องจัดมาซะหน่อย

ตอนนี้ได้ลองใช้ไปครั้งสองครั้งและ จะบอกว่า กลิ่นก็เหมือนแบบที่ผสมยูวีนั่นแหละ
......แป่ววว......
ชอบกลิ่นของครีมอาบน้ำมากกว่าอ่ะ ไม่ชอบกลิ่นโลชั่นเลย
เนื้อสีขาวธรรมดาฮะ ก็ชุ่มชื่นพอสมควร
เหนียวกว่าที่คิดอ่ะ คิดว่าทาแล้วจะเหลวๆกว่านี้
แต่ก็ดีอ่ะ เหมาะกับอากาศแห้งๆช่วงนี้เลย
ราคาก็ ค่อนข้างแพง ต้องซื้อครึ่งราคาถึงจะสูสีกะพวกที่วางขายตามชั้นในซุปเปอร์
อ่ะ บอกกันตรงๆเลย ใช้ต่อมั้ย?
ไม่อ่ะ อยากลองอย่างอื่นไปเรื่อยๆก่อน
เดี๋ยวพวกยี่ห้อ mass มันต้องออกรุ่นใหม่ๆมาล่ออยู่แล้ว
หาซื้อง่ายกว่าด้วย อิอิ

วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

New & Review: Cutepress Schizo yeast

ยังไม่หมดนะจ้ะ ของโปรวันเกิด
คราวนี้รีวิว essence กะโลชั่นมั่ง
ยังเหลือกกันแดดทาหน้ากะทาตัวอีกนะ แบบว่าใช้ไม่ทันอ่ะ
อาจจะอีกนาน กว่าจะได้มารีวิว อิอิ

เลือกตัวนี้มาแบบงงๆ ตอนแรกก็อยากลอง miracle water (toner) นะ
ตั้งชื่อหยั่งก๊ะ skII
แต่ตัวเองยังใช้ฮาดะไม่หมด เราก็กลัวแพ้ด้วย
อ่านส่วนผสมทุกตัว + เทสต์เนื้อครีมแล้วเลยคว้าอันนี้มา


นึกว่าจะไม่มีแอลซะอีก ตอนที่ซื้อก็เบลอแล้วมั้ง เลยมองไม่เห็นเจ้า


เนื้อเป็นเจลใส มีน้ำหอมที่เราไม่ชอบกลิ่นเลยอ่ะ ให้ความรู้สึกเหมือนพวกสาวโรงงานยังงัยไม่รู้ เหอๆๆ ส่วนสรรพคูณที่บอกว่าทำให้ผิวหน้ากระชับนั้น เราไม่รู้เลย ไม่คาดหวังด้วย แค่เอามาลองขำๆเอง คงไม่ซื้ออีกแล้วล่ะ ถึงจะลดครึ่งนึงก็เถอะ

แต่เราค้นพบประโยชน์มันอย่าง เอามาผสมรองพื้นนี่แหล่มเลย เพราะมันเป็นเจลใส ทำให้รองพื้นละลาย เหลวขึ้น ทาง่ายขึ้น นอกจากขวดนี้ เรายังเอาน้ำตาเทียมมาผสมด้วยนะ หมอให้มาแล้วใช้ไม่หมดอ่ะ เหลือตั้งเยอะ จะหยอดตาก็ไม่ได้ หมดอายุ (สำหรับหยอดตา)แล้ว จะทิ้งก็เสียดาย มันเป็นเนื้อเจลเหมือนกันด้วย เอามาทาหน้าคงไม่เป็นไรเนอะ อิอิ

Review: Clinique Rapairwear Laser Focus

ลงทุนซื้อขวดจริงมาเลย เห็นรีวิวกันว่าดีหนักหนา







เนื้อเป็นเจลสีขาวขุ่น ไม่มีกลิ่นนะ
ส่วนใช้แล้วได้ผลรึเปล่า ไม่แน่ใจแฮะ ไม่ได้ใช้เอง
......อ่าว......
ก็ซื้อมาให้คุณชายใช้อ่ะ แต่เธอทามั่งไม่ทามั่ง เลยไม่เห็นผลชัดเจนสักเท่าไร คือรอยที่หน้าผากดูตื้นขึ้นนิดนึงอ่ะ แต่ก็ไม่รู้ว่าถ้าใช้หมดขวดอย่างต่อเนื่อง มันจะดีกว่านี้รึเปล่า

เราเลย เอิ่มมม ว่าจะใช้ด้วยเลยไม่เอาและ ว่าจะลอง estee advanced night repair ดีก่า แต่มันแพงเหลือกินเลย แล้วก็ครีมเต็มตู้ยังใช้ไม่หมดด้วย เอาไว้ก่อน อิอิ
**********************
17/01/2012
ฤกษ์งามยามดี ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ (จะทางการไปไหน?)
เท่าที่นึกออก น่าจะเริ่มใช้เมื่อ 6-7 มกราที่ผ่านมาเนี่ยแหละ พอดีจัดโต๊ะใหม่ เลยยึดขวดนี้มาใช้เองซะเลย ไหนๆคุณชายทอดทิ้งไม่ใยดีมันแล้ว

เราก็เอามาทาถูๆ เช้าเย็นมั่ง ลืมมั่งอะไรไปตามเรื่อง แบบว่าไม่ชอบกลิ่นเท่าไรอ่ะ ตอนดมจากขวดไม่มีกลิ่น แต่ทาเสร็จแล้วเหม็นตุๆ เหมือน...เอิ่มม...น้ำนั่นน่ะนะ (อะไรของแกรฟระ)

พึ่งจะวันสองวันมานี้แหละ ได้ส่องกระจกชัดๆถึงกะสะดุด เฮ้ยยยยยยยยยย รูสิวบนแก้มเรามันเล็กลงมากมายอ่ะ ผิวเลยดูละเอียดขึ้นมาก

ตะลึงไปเลย อืม เห็นผลเร็วจริงอะไรจริง แค่อาทิตย์เดียวก้รู้สึกได้ ของแพงมันดีหยั่งงี้นี้เอง แต่ว่ากับรอยย่นบนหน้าผากเรายังคงไม่เห็นผลต่อไป คิดว่าอาจจะไม่แรงพอ เหอๆๆ

ณ จุดๆนี้เลยปลื้มกับรอยหลุมสิวที่เล็กลงมากๆ คงต้องยอมใช้จนอณูสุดท้ายแน่นอน ส่วนจะซื้อใช้ต่อหรือไม่ อืมมมม ต้องถามกระเป๋าสตางค์ ณ ตอนนั้นก็แล้วกัน เจ้านี่เหนียวหนืดใช้ได้เลย ไม่ค่อยยอมปล่อยสตางค์กระเด็นหลุดรอดอออกมาหรอก เหอๆๆ

Review: น้ำหอมที่ใช้จนหมด

ขวดแรก ได้มาฟรี เริ่มใช้น้ำหอมครั้งแรกในชีวิตก็ขวดนี้แหละ หอมมาก กลิ่นออกเย็นๆ ประทับใจเลย เป็นกลิ่นพื้นๆแบบที่คนทั่วไปน่าจะชอบนะ

ขวดนี้เป็นขวดที่สอง ซื้อมาเองจาก sg แต่เหมือนเป็นน้ำหอมผสมอ่ะ มันหอมไม่ทนเท่าขวดแรกที่ใช้ เราเลยไม่ค่อยปลื้มเท่าไร ส่งต่อให้คุณชายเอาไปใช้ต่อซะ


ขวดที่สอง ทิ้งขวดที่หมดไปแล้วเลยมีแต่รูปคนอื่น นี่ก็หอมแต่ไม่ชอบเท่าขวดแรก จะฉุนกว่านิดๆ เน้นเอาไว้ฉีดออกงาน แต่ไปๆมาๆก็ฉีดทุกวันจนหมดได้เหมือนกัน

นี่ก็ได้มาฟรี เรารู้จักน้ำหอมเพราะเขาเลยนะเนี่ย ขวดนี้ก็หอม ออกแนวสดชื่น สบายๆ เลยฉีดซะหมดได้เหมือนกัน เกือบลืมไปแล้วนะเนี่ยว่าเราเคยได้ใช้ อิอิ

ขวดล่าสุด พึ่งหมดไปไม่กี่วันนี่เองงง ใช้มาตั้งปีนึงแน่ะ เพราะต้องมาแข่งกะเจ้าสองตัวปัจจุบันที่ใช้อยู่และก็รีวิวไปแล้ว (dkny กะ gucci) เลยหมดช้ามากๆ อิอิ ตัวนี้อยากทดสอบกลิ่นตั้งแต่เห็นในโบรชัวร์และ พอได้ลองจริงๆก็ไม่ผิดหวังเลย เราชอบกลิ่นแนวนี้ล่ะ ไม่หวานมาก อันนี้ก็ให้ความรู้สึกออกเปรี้ยวๆหน่อย แต่ก็ยังอมหวานอยู่ กลิ่นไม่ได้ติดทนมากตามที่คาด แต่ก็ดีไปอย่างนะ จะได้ไม่เวียนหัวทนดมกลิ่นทั้งวันงัย

Get the look: Blue Ice is in the eyes

ได้คู่ถูกใจและเรา
ด้วยความบังเอิญที่เขียนเล่นๆ กลายเป็นชอบขึ้นมาซะงั้น
พอดีว่าอยากเอามาจอมาใช้บ้าง หยุดไปนาน
ต้องเขย่าต้องระบายหมึกทิ้งเลยอ่ะ กว่าจะเขียนเข้ม
เหมือนพึ่งเปิดใช้ใหม่ครั้งแรกเลยทีเดียว

ต่อมาก็ลองเอาสีฟ้ามาทาทับ กลายเป็นเข้ากันซะงั้น
วันนี้ก็ว่าจะแต่งไปทำงาน แต่ว่าตื่นสาย เลยอดตามระเบียบ
ไม่เป็นไร กลับมาเขียนที่บ้านก้อดะ






Crabtree ทับทิม

งงเลย อยู่ๆก็มีโบรชัวร์ส่งมาที่บ้าน
เราก็จำไม่ได้แล้วว่าตอนกรอกสมัครบัตร ให้ชื่อที่อยู่ไปหรือเปล่า
คือเหมือนจะสะกดชื่อแบบเก่าไว้ (chaupaga) ไม่ใช่ chopaka แบบที่เขาส่งมาน่ะ
เลยยังงงๆอยู่ว่ามาจากฐานข้อมูลร้านเขาเอง
หรือไปเอามาจากที่อื่นกันแน่
จะว่าไป เราพึ่งมาสะกดชื่อแบบนี้ตอนทำ passport ก็สักปีเดียวเองมั้ง

เอาเตอะ มีอะไรสวยๆงามๆส่งมาให้ดูเล่นก็เพลินดี
ไม่ได้ถ่ายโบรชัวร์มานะ ขี้เกียจ ดูรูปจากเว็บเขาละกัน 5555

เซ็ตนี้มีครีมทามือหลายแบบอ่ะ มีเจลล้างมือด้วย


ส่วนกลุ่มนี้มีสบู่ เจลอาบน้ำ โลชั่น ครีมทาตัว


มีกระทั่งชุดเครื่องหอม (สเปรย์ ธูปหอม น้ำมันหอมระเหย บลาๆๆ)
Pomegranate Grove
และที่สำคัญคือ regular customer ลด 15%
สมาชิกก็ลดเยอะกว่านั้นอีก

5555 คิดว่าเราจะรีบวิ่งไปซื้อล่ะสิ
จริงๆเราก็สนใจโลชั่นนะ
แต่แอบเห็นราคาเว็บหลักก็ 22 เหรียญแล้ว
เข้าไทยไม่เหยียบพันเลยเหรอเนี่ย

หันมาคว้าโลชั่นสปาผสมสารสกัดทับทิมดีก่า
ทับทิมครือกัน ของไทยๆราคาประหยัดด้วย 5555

วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

Review: ZA plumper lipstick

สี  03 cinnamon นะจ้ะ
ตอนแรก อยากได้สีชมพูแป๋วแหวว แต่พอไปลองสีจริงๆแล้วกลับรู้สึกว่ามันจะบางไป กลัวจะกลบสีปากไม่มิด บีเอมาช่วยเลือกไปเลือกมา เลยได้สีนี้มาแทน จะดูเป็นน้ำตาลก็ไม่เชิง มันเป็นน้ำตาลอมชมพูนิดๆ ออกสีกะปิ แต่กลิ่นไม่กะปินะ อิอิ


จะว่าชอบมากก็ไม่เชิง แต่สีมันสุภาพดี เลยทาบ่อยซะเกือบหมดและ
ดีที่ยังเหลือพอเอามาถ่ายรูปได้ อิอิ

พอดีลืมถ่ายสีปากเดิมเอาไว้ แต่ตอนที่ทาเมื่อกี้ มันต่างจากสีเดิมนิดเดียวจริงๆนะ 
แค่เพิ่มโทนน้ำตาลลงปากนิดนึงเอง


พอดูได้มั้ยฮะ ถึงจะออกตัวว่าเป็นชมพูนู้ด แต่หน้าไม่ป่วยเหมือนเคนเมคนะยะ อิอิ
ไม่รู้ทำไมเราไม่ชอบโทนสีแบบนี้นะ ทั้งที่มันดูสุภาพดีออก น่าเอาไว้ทาไปสมัครงาน (เหรอ? อิอิ) เรากลับไปชอบโทนชมพูแหววๆ สีชัดๆเข้าว่า สงสัยเราจะคิดไปว่ามันไม่สุภาพเหมือนตัวเองดี 5555