วันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ช้อปอีกแล้วนะเธอว์

ก็แบบว่าขอสติแตกบ้างอะไรบ้าง
ปีที่แล้วนี่ก็ไม่ได้ซื้อของเกาหลีเลยนา
อันที่ลุงซื้อให้ไม่นับนะ อิอิ
จริงๆอยากจัดหนักกว่านี้ แต่ตัวสำคัญที่อยากได้ดันไม่มีของ
เลยอาฆาตไว้ก่อน เดี๋ยวคงต้องไปหามาให้ได้อ่ะแหละ

ร้านที่ไม่่เคยซื้อ แต่กล้าจัดเยอะเลยทีเดียว
จริงๆตอนแรกจะซื้ออีกร้าน เพราะมีเซ็ต Nars ที่เล็งไว้
ดูไปนานเข้า เริ่มคิดว่าชุดนั้นมันเยอะเกินความจำเป็น
ของก็โดนคนอื่นซื้อตัดหน้าไปแล้ว
เลยหันมามองชุดเล็กลง ก็มาเจอเว็บนี้
แล้วดันมีของเกาหลีเยอะมากกก
ถูกใจคนชอบของจุกจิกอย่างเรา
แต่พอถามเข้าจริงๆ ชุดทีอยากได้ก็ไม่มีอีกง่ะ
เซ็งง่ะ เกือบยกเลิกและ แต่พอดูรายการที่สั่งๆไว้
โหวววววว ช้านอยากได้ จะยกเลิกเพราะ nars ตัวเดียวเหรอ
ตัวนั้นเอาไว้ถึงที่สุดแล้วไปเข้า counter ก็ยังไหว
แต่ที่เหลือนี่ หาตามร้านทั่วไป ราคาแบบนี้ ไม่มีแล้วนา
ดูเคทซิ ไปจับๆที่วัตสันมาแล้ว ยัง 450 บาทอยู่เลย
ร้านนี้ 300! เอามาได้งัยเนี่ย
เลยตัดใจ เอาเท่าที่มีมาก่อนฟระ
อยากได้บลัชม่วงมาเล่นดูง่ะ อิอิ

ร้านนี้เคยมีคนถามตามเว็บอื่นอยู่บ้างนะ เค้าก็ว่ากันว่าของแท้
เคยมีคนโดนแม่ค้าเหวี่ยงด้วย เราก็กล้าๆกลัวๆ
แต่พอสั่งจริงๆก้ไม่มีปัญหาอะไรนะ เค้าก็ตอบดีอ่ะ
เราก็ไม่เรื่องมากอยู่แล้วมั้ง สั่งๆเสร็จก็จ่ายเงินปร๊าดเลย
ทุกร้านที่เคยซื้อมาก็เป็นงี้นะ
แบบว่าเรามาจริงซื้อจริงจ่ายจริงอะไรงี้มั้ง เลยไม่เคยมีปัญหา
ของก็เช็คบอร์ด ดู feedback ทั่วไปก็ได้แต่ของแท้นะ

เดี๋ยวของจริงๆมาแล้วก็คงได้ทยอยเอามารีวิวกันแหละ
ลงรายการไว้ก่อน เดี๋ยวจะห้ามใจไม่ไหว เผลอใช้ก่อนถ่ายรูป อิอิ
++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++
เจ้าสิ่งนี้อยากได้มานานและ ตั้งแต่ตอนสิวยังเยอะอยู่ แบบว่าอยากลองแต่กลัวน้ำหอมทำสิวเห่ออีก เลยเก็บไว้ในใจ ไม่เคยลืมเธออออ ตอนนี้ก็ไม่ใช่ว่าสิวหายแล้วหรอกนะ มันไม่มีเพราะกินยาคุมอยู่หรอก แต่ก็อยากลองแล้วเพราะร้านเค้ามีของอ่ะ ถูกกว่าร้านอื่นด้วย เอาๆมาเถอะ อิอิ



เบสม่วง อันนี้ติดพันจากแป้งม่วงนะฮะ แบบว่าได้ยินเสียงลือเลียงเล่าอ้างมานมนานแล้ว ว่ามันผ่องนักหนา คุมมันด้วย งั้นงี้งู้น เลยต้องจัดสักหน่อย จริงๆเราน่าจะเหมาะกับเบสเขียวเพราะว่ามีรอยแดงจากสิว แต่ตอนนี้หลานคนพูดอีกแหละว่ามันวอกมาก ใช้แต่น้อยก็พอ เลยไม่กล้าเสี่ยง เอาสีม่วงมาดีกว่า play safe ไว้ก่อน เค้าบอกว่ามันเหมาะกะคนผิวคล้ำ แต่จากที่ลองแป้งม่วงมา ยังงัยก็ไม่คล้ำหมององค์ลงแน่นอน เลยเอาอันนี้แหละ ชอบสีม่วงมากกว่าเขียวซะด้วยสิ อิอิ



บลัชม่วง...ได้ยินมานานแล้วว่าเหมาะพวกหน้าเหลือง เราว่าหน้าเราออกอมชมพูนะ แต่คอลงไปนี่สิเหลืองมาก เลยอยากลองว่าถ้าลงสีม่วงแล้วแก้มเราจะออกชมพูนมรึเปล่า อยากได้แก้มสีนี้มานานแล้ว บลัชอันไหนก็ไม่ถูกใจซ้ากกกกกกที อีกอย่าง แพ้แพกเกจน่ารักซะด้วยสิ ของเกาหลีเป็นงี้ทุกยี่ห้อเลย ให้ตายเถอะ แถมรูปที่แคปมาจากหน้าเว็บบ่งบอกว่ามันเป็นสินค้าใหม่มาก อ่านไม่ออกสักตัว นี่ก็ใช้กูเกิ้ลแปลเอา แต่เห็นมันอยู่หน้าแรกเลยนะ ว่าแล้วก็กดสั่ง ชื้บบบบบ


ส่วนอีกตลับของอีทูดี้ยังไม่ได้ลองอ่ะ ลายมันสวย ขอเก็บไว้ชื่นชมก่อน อิอิ อันนี้ก็ยังไม่ม่วงสมใจอยากเราอยู่ดีอ่ะ แบบว่าสีมันอ่อนกว่าในรูปไปหน่อย (เบอร์ 2 Lavender Fit) เลยไม่รู้ว่าปัดแล้วจะขึ้นรึเปล่า

ถ้าสีไม่ออกชัดนักคงเน้นเอาไปเบรคตัวที่สีแรงๆแทนแล้วกัน บลัชยี่ห้อฝรั่งสีมักจะแรง เอาบลัชเกาหลีปัดทับหน่อยเป็นงัย ใครจะชนะเดี๋ยวก็รู้ อิอิ


เอาของใหม่มั่ง ชิ้นนี้ถือเป็น bronzer ชิ้นแรกของเราเลยแหละ แบบว่าอยากลองมานาแล้ว ตอนแรกจะเอานารส์ก็ไม่มี เลยได้อันนี้แทน เห็นรีวิวอันสองอันบอกว่าดีก็รีบซื้อเลย 555 เค้าว่าสีเป็นธรรมชาติ เหมาะกับการไปทะเล มีไฮไลต์และแปรงให้ด้วย ครบเซ็ต อืมๆๆ ลองดูเก๊าะด๊ะ คนมันอยากซื้ออ่ะนะ อิอิ

มาฝั่งญี่ปุ่นมั่งเราก็อารมณ์อยากช้อปอีกแล้วล่ะมั้ง อยู่ๆก็อยากได้ eyeshadow สีทองซะงั้น ไอ้ที่มีอยู่หรือไม่ว่าไปเที่ยวดูตรงไหนก็มีแต่สีน้ำตาล เกือบจะกดสั่ง naked 2 ไปแล้วด้วยอยากลองว่าเนื้อมันดีจริงหรือเปล่า แต่ก็ห้ามตัวเองไว้ เพราะไม่แน่ใจว่าจะใช้ทุกสี อยากได้พาเลตย่อมเยาพกง่ายมากกว่า เลยคิดว่าจะลองไปดูยี่ห้อเคทหรือพวกของในวัตสันดูก่อน ปรากฎว่ายี่ห้อเคทมีจริงๆแฮะ (สงสัยยี่ห้อนี้ทำมาเพื่อคนชื่อเคทจริงๆ 5555) ชื่อสีคือ GD-1 น่าจะย่อมาจาก gold เลยนะ ลองปาดดูแล้วเข้าท่าอยู่ แต่ราคามันยังไม่ลดก็คือ 450 เลยง่ะ ยังไม่กล้าซื้อ ขอวางไว้ก่อน เราก็ดั๊นนนน มาเห็นจากร้านเดียวกันนี้ว่าขายแค่ 300! อุบ๊ะ อย่างงี้ก็จัดมาเลยซิ



สุดท้ายและ อ่าาา เริ่มเหนื่อย อันนี้ข้ามมา west coast มั่ง อยากลองมานานและ ของมันดีจริงหรือ เนื่องจากว่ามันแพงงงงง เลยขอสั่งสีนู้ดๆ ดูสุภาพ ทาได้บ่อยๆ มาลองก่อนสักขวด ถ้าทาง่ายก็ว่าจะซื้อเพิ่ม ดูจากรูปและเว็บรีวิวแล้วก็น่าจะเป็นสีนี้
เอาล่ะ ลงรูปยั่วน้ำลายไว้ก่อน ตามไปพรีวิวกันได้ที่บล็อกถัดไปเลยจ้า

วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

Review: SmoothE white therapie

เห็นมาหลายทู้และ ต้องขอลองกะเขามั่ง แบบว่าแขนตัวเองก็ดำล้ำหน้าที่สุดแล้ว ต้องลองซะหน่อยว่าจะเวิร์คป่าว ราคาแพงใช้ได้เลยอ่ะ ขวดแค่นี้ตั้ง 255 บาทแน่ะ จริงๆขวดใหญ่ก็ถูกกว่าหรอกขนาดเป็นสองเท่าของขวดเล็ก ราคา 450 บาท แต่เราไม่ชัวร์อ่ะ ขอลองน้อยๆก่อนละกัน










หัวปั๊มกดตั้งนานแน่ะ กว่าจะออก เลยสมนาคุณ ออกมาซะเยอะเลย แทบจะปาดได้ทั้งแขนเลยง่ะ เนื้อครีมก็โอเคนะ ค่อนข้างหนืดนิดๆ แต่กลิ่นนี่แบบ อื้อหืออออ เหม็นน้อยกว่านี้ได้มั้ย คือให้อารมณกลิ่นน้ำมันหอมตามธรรมชาติ แต่เราไม่ชอบกลิ่นแบบนี้อ่ะ น่าจะใส่น้อยกว่านี้หน่อย หรือเปลี่ยนกลิ่นไปเลยยิ่งดี ฮี่ๆๆ

เอาไว้หมดขวดก่อน แล้วค่อยมาถ่ายรูปเทียบอีกทีเนอะ กว่าจะขาวขึ้นจริงป่าว อยากให้พวกกระมันจางอ่ะ ยิ่งมีเยอะยิ่งฟ้องความแก่ T_T เผื่อจะไปแอ๊บเด็กหลอกคนอื่นบ้างอะไรบ้าง 5555

Review: Olay celucent white cream

ตัวนี้เป็นผลต่อเนื่องมาจากความติดใจใน essence ที่ใช้มาก่อนหน้านี้ แบบว่าทั้งกลิ่นทั้งเนื้อสัมผัสมันถูกใจมากเลย อุตส่าห์ไปตามหารีวิว อยากจะใช้ครีมคู่กันไปด้วย เผื่อจะส่งผลให้ขาวๆๆยิ่งๆขึ้นไป เหอๆๆ

อ้อ จุดประสงค์ที่ใช้ whitening ไม่ใช่ว่าคลั่งขาวอะไรหรอกนะ แค่อยากให้สีผิวเสมอกันน่ะ ตอนนี้หน้าผากดำ แก้มขาวแต่มีรอยแดง เลยโบกพวกนี้ซะให้มันขาวเหมือนๆกันให้หมด เหอๆๆๆ

แล้วก็จากที่ลองด้วยหน้าตัวเองมา ค้นพบแล้วว่า ครีมลบรอยสิวรอยแดงอะไรนั่น ไม่ได้ผลเท่า whitening เลย ขนาดตอนแรกใช้โอเลย์เต้ยธรรมดา รอยแดงยังจางลงได้ เร็วกว่าครีมพวกนั้นอีก เจ้า essence นี่ก็เวิร์ค ทารอยแดงไปไม่ถึงอาทิตย์ก็จางๆลงและ
ส่วนเหตุผลที่กล้าซื้อตัวนี้ เพราะได้คูปองลดสามร้อยมาน่ะ เหมือนตอนซื้อ essence เลย แต่คนละห้าง เลยได้ทริคและ จะซื้อยี่ห้อนี้ กรุณาใจเย็นๆ เดี๋ยวจะมีคูปองหรือส่วนลดตามห้างต่างๆออกมาเอง คนขายมันก็อยากให้เราซื้ออยู่แล้วล่ะ เหอๆๆ (ราคาเต็ม 1299 บาท ได้ลดสามร้อยที่โลตัส)

ว่าแต่ วันผลิตมันเก่าไปหน่อยนะ สงสัยจะลดเพราะเหตุนี้รึเปล่า เพราะนึกภาพว่าคนเดินโลตัสคงไม่ซื้อครีมราคาเท่านี้ (ถึงจะลดแล้ว) นี่ก็ได้คูปองจากบัตรเครดิตอีกและ ลดสามร้อยบาทที่ท้อปส์ 5555 จะได้จำให้ขึ้นใจว่ายี่ห้อนี้ไม่ต้องซื้อราคาเต็ม เดี๋ยวก็ลดเรื่อยๆ




เนื้อครีมนี่เป็นอะไรที่คาดหวังมาก จากที่ดูรีวิวคิดว่ามันจะออกเป็นเนื้อเจลเหลวๆ แบบว่ากดลงไปแล้วพอปล่อยนิ้วออกก็คืนสภาพเดิม เพราะเค้าใช้คำว่า foam memory shape แต่ของจริงทำเราอึ้ง คือถ้าได้ลองตัว tester ก่อน อาจจะไม่ซื้อก็ได้ แต่ที่ไหนๆก็ไม่มีให้ลอง เลยเสี่ยงเอามาเลย
ตามรูปคือพอเรากดนิ้วลงไป มันเหมือนเอานิ้วจิ้มกาวแป้งเปียกอ่ะ ไม่เหลวอย่างที่คิดเลย พอเอานิ้วออกก็เป็นหลุมอยู่อย่างนั้น ตอนแรกตกใจมากว่าหรือว่ามันเก่ามากเนื้อครีมเลยเป็นแบบนี้ แต่ลองดมแล้ว ทาท้องแขนแล้วไม่เป็นอะไรเลยลองใช้ดู พอผ่านไปสักพักนึกขึ้นได้ เอากระปุกมาเปิดดูใหม่ อ้อออ มันคืนสภาพ ไม่เป็นหลุมแล้วแฮะ คือไม่ว่าเราจะจิ้มลงไปอย่างไร สักพักมันจะกลับมารักษาระดับหน้าครีมให้เท่าๆกันอยู่เสมอ อืมมม คนคิดสูตรนี่ช่างไอเดียบรรเจิด มันจะได้ความรู้สึกว่าเหมือนเปิดกระปุกใช้ครั้งแรกอยู่เสมออ่ะ เปิดมาทีไรเนื้อครีมก็เรียบทุกครั้ง ถึงจะไม่ได้เรียบเป๊ะก็เหอะ เลยพึ่งเข้าใจว่า foam memory shape มันเป็นอย่างนี้นี่เองงงงง

ส่วนกลิ่นก็เหมือน essence แต่ชักจะไปคล้ายกลุ่ม white radiance มากไปหน่อย ซึ่งเราไม่ค่อยชอบซะด้วยสิ แต่ยังพอรับได้ เนื้อสัมผัสก็เป็นครีมออกขาวขุ่น แต่พอทาแล้วรู้สึกมันและลื่นมากกกกก คงมีซิลิโคนด้วย และคงไม่เหมาะกับคนหน้ามันแน่ๆ และไม่เหมาะกับตอนกลางวันด้วย เพราะเมื่อเช้าพึ่งลงกันแดดตาม แบบว่ามันเป็นขุยทั้งหน้าเลยง่ะ ไม่รู้ว่าถ้าลงกันแดดหรือว่ารองพื้นตัวอื่นแล้วจะเป็นขุยด้วยรึเปล่า

เรื่องขาวนี่ยังไม่แน่ใจ เดี๋ยวจะลองใช้ครีมเดี่ยวๆแล้วมาเทียบดูกับ essence แล้วกัน

+++++++++++++++++++++

update 19/10/2012
หมดกระปุกแล้วจ้า โล่งใจมากที่หมดซะที ที่จริงก็หมดไปสองสามเดือนแล้วล่ะ พึ่งเห็นบล็อกเลยมาอัพต่อ อย่างที่บอกว่ามันเป็นขุย ก็เลยใช้ตอนเช้าไม่ได้เลย ลงอะไรตามก็ขุยหมด แถมหน้ามันอีกต่างหาก เลยใช้ได้แต่ตอนเย็น ตอนนั้นคิดว่าขาวขึ้นนะ โดยเฉพาะใช้ร่วมกับ essence แต่เราค่อนข้างมั่นใจว่า essence อย่างเดียวก็ขาวขึ้นได้ ถ้าใช้เช้าเย็น เลยจบที่กระปุกแรกและกระปุกเดียวพอ ไม่ใช่ว่าครีมมันไม่ดีนะ แต่มันไม่เหมาะกับเรา ชั้นไม่ให้ผ่านค่ะ!

วันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

รองเท้าคุณหนู กับกระเป๋าชาวบ้าน

มาดูตัวต้นเหตุที่ทำให้เราเสียเงินมากมายช้อปปิ้งเมื่อวานกัน
เพราะว่าคู่ปัจจุบันที่ใส่อยู่ แทบจะเรียกว่า เน่า ก็ได้แล้ว เหมือนใส่ระเบิดเวลาอ่ะ ไม่รู้มันจะขาดวันไหน ก็คิดไว้ว่าอยากไปเดินห้างหารองเท้าดีๆ ทนๆ ใส่ได้ทุกวันสักคู่ ยิ่งถ้ารองรับเท้าดีๆด้วยจะดีมาก แต่ข้อหลังทำใจไว้ว่าราคาจะแพ๊งงงงง แน่นอน

กอรปกับเพื่อนเม้าว่าเซ็งตั้งมีโปรรองเท้ากระเป๋าลดราคา เลยต้องไปส่องซะหน่อย ฮี่ๆๆๆ
สรุปว่าเดินๆๆๆๆดูรองเท้าทุกคู่ กระเป๋าทุกใบ ชอบกระเป๋าอยู่ยี่ห้อหนึ่ง วุ้ย หนังอะไรเนี่ย นิ่มมือมากกก แทบจะติดมือกลับบ้านเลยทีเดียว 5555 แต่พอพลิกป้ายราคาแล้วลมจับ เอิ่มมมม นี่มันหนังลูกเลียงผาอายุสามสัปปดาห์อะไรเง้ป่าววะ ใบละหมื่นสี่!!!!! โอ้ว แพงเว่อร์อ่ะ คนขายก็รีบมาทักว่าหนังแท้นะคะ เลยรีบเผ่นดีกว่าตรู โถ ต่อให้พี่ลดให้หนูครึ่งราคาหนูยังขยาดเลยค่ะเพ่....

ก็เลยได้คู่นี้มาคู่เดียว แถมตกเสป็คเรื่องรองรับเท้า แต่ช่างมันเตอะ ใส่ไปนานๆคงจะนิ่มขึ้นบ้างอะไรบ้าง
ใส่แล้วดูดีขึ้นมั่งมั้ย เหอๆๆๆ เราก็ใส่ได้แต่ทรงประมาณนี้อ่ะนะ เพราะหัวเท้ากว้าง นิ้วโป้งก็โด่งนำชัยมาก อยากใส่หัวแหลมแค่ไหนก็ใส่ม่ายด้ายยยย
ราคาก็ พอรับไหว 1950 ลด 30% ทันที ไม่ต้องแลกส่วนลดอะไรเลย ก็เหลือ 1365 okอ่ะ เค้ารับได้ ชอบตรงลายสก็อตข้างในด้วย น่ารักซะมิมีอ่ะ 
ตอนแรกก็อยากได้ยี่ห้อแบบ Clarks Rockport Geox อะไรที่มันรับสรีระเท้าดีๆ แต่มันไม่ผ่านตั้งแต่ข้อแรกตรงที่ไม่มีแบบที่เราชอบแล้ว แป่วววว จะว่าไป ไอ้ยี่ห้อที่ซื้อมาเราก็ไม่รู้จักนะ แต่ชอบแบบเท่านั้นเอง 

ตะกี้แอบนอยเรื่องห้างชอบอัพราคาแล้วค่อยมาลด สงสัยเราจะโดนด้วยนะเนี่ย เพราะไปเช็คราคาในเว็บของยี่ห้อมันเอง ราคาเต็มก็ 1950 เท่ากัน แต่ไหงมันลดเหลือ 1155 ละวะเนี่ย ฮ่วยยย ดีนะซื้อมาคู่เดียว เอาเถอะ ถือว่าเราได้จับ ได้เห็นของ ได้ลองใส่ แล้วก็ได้ของเลย ซื้อเว็บมา ได้ของไม่ดีล่ะเปลี่ยนคืนยุ่งยากอ่ะ

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
ส่วนกระเป๋าชาวบ้านนี่มาไกล จากจ.แพร่เชียวนะ ตอนกลับบ้านสามีปีใหม่เนี่ยอ่ะแหละ กะจะเดินดูเสื้อม่อฮ่อม ดันถูกใจใบนี้แทน เจ้าถิ่นก็รีบต่อราคาให้เลย ทั้งที่เดิมก็ถูกแล้วนะ จาก 150 เหลือ 130 อ่ะ อิอิ ถูกใจคนอื่นด้วยล่ะ คิดดู พอเราซื้อเสร็จ ลูกค้าอีกคนที่ดูของอยู่ก่อน ซื้อตามเราเฉยเลย แต่เสียใจด้วยนะ สีนี้ไม่มีแล้ว เหลือแต่ขาวดำ สวยน้อยกว่าใบนี้นิดนึง อิอิ

เห็นบ้านๆอย่างนี้ เลยเป็น only one edition เลยน้าา ยิ่งว่า limited edition อีก คือว่ามีใบเดียวในโลกอ่ะ ไม่มีใครเหมือนแน่นอน 555 
ลายกระเป๋ามีเส้นสีทองทอสลับด้วยนะ ถือในแสงไฟล่ะวิบๆเลย น่ารักมิล่ะ neverfull มีรึจะสู้ อิอิ
ลองสะพายแล้วเป็นเยี่ยงนี้จ้ะ ดูเหมือนจะใหญ่เกินตัว 
แต่เวลาสะพายก็ไม่อึดอัดนะ ไม่เกะกะคนอื่นเวลาเดินเบียดด้วย
รูปนี้ถ่ายเล่นๆ รวมมิตรกระเป๋ากะรองเท้า
หลังจากตัดผมสั้น ทีตอนมอปลายล่ะหนีทรงนี้แทบแย่ 
ตอนนี้กลับอยากมาดูเด็กเลยตัดซะงั้น อิอิ
 แอบขำว่าตัวเองกังวลว่าใช้กระเป๋าแบบนี้แล้วจะถูกกรีด ถึงกะเอาไปฝันเลยง่ะ ฝันว่าสะพายกระเป๋าลงรถเมล์ แล้วคนข้างหลังมันล้วงเอากระเป๋าสตางค์ มันหยิบออกมาแล้ว แต่เราหันไปเห็นพอดี ของเลยยังอยู่ เหอๆๆ แต่จริงๆก็ระวังตัวแหละ รักจะตายอ่ะใบนี้ จากที่เคยเห่อกระเป๋าหนังไฮโซอะไรมากมาย พอใช้กระเป๋าบ้านๆเลยเลิกเห่อพวกนั้นไปเลย ชั้นชอบบ้านๆของชั้นหยั่งเงี้ย ใครจะทำไม นี่ถ้าใครคิดทำชุดจากผ้าไทยสวยๆ แบบใส่แล้วรู้เลยว่าเป็นผ้าไทยคนไทย เรายินดีจะซื้อเลยนะ เบื่อชุดฝรั่งแล้วอ่ะ อยากใส่ชุดไทยเดินห้าง อยากโชว์ว่าชั้นเป็นคนไทย อะไรงี้

Review Leivy shower cream

อัพทีสามบล็อกรวด มาเฉลยบล็อกนี้แหละ ว่าไปไหนมา 5555 ที่แท้ไปช้อปมานี่เองงง เลยมีของรีวิวนู่นนี่นั่น อิอิ

เจ้าตัวนี้ เราไปเล็งไว้จากสาขาทองหล่อมาพักหนึ่งแล้ว แบบว่าไปเดินย่อยหลังกินสุกี้ร้านใกล้ๆกันอ่ะนะ เราก็เอ้ย ครีมอาบน้ำกลิ่นนมเหรอ ขวดใหญ่ดีว่ะ กลิ่นหอมอ่อนๆน่ารักดีด้วย ชอบๆ ราคาก็ อืมมม ค่อนข้างแพงกว่ายี่ห้ออื่น แต่พอรับได้อ่ะ เดี๋ยวไว้ใช้ cp หมดแล้วค่อยมาซื้อ

แต่หลังจากน้านนนนน เราก็ไม่ได้ไปสาขานั้นเลย สาขาแถวบ้านยังไม่ได้ไปเลย วันนี้กว่าจะได้ลงมือซื้อจริงๆ กลิ่นนมก็หมดแล้ว เหลือแต่กลิ่นข้าวกับมะละกอ ซึ่งก็หอมอ่อนๆเหมือนกันนะ แต่เราชอบนมที่สุดอ่าาา

ยังงัยก็จะเอาแล้วล่ะ ลองดูสักที กลิ่นไม่นมเก๊าะด๊ะ ก็เลยได้ขวดนี้มาจ้า
 นั่งดูอยู่นานว่าชื่อยี่ห้ออ่านว่าอย่างไร เชิญดูเฉลยที่ป้ายภาษาไทยเลยจ้า


ถ้าเทียบกับ cp ราคาเต็ม เจ้าขวดยักษ์นี่ถูกกว่านะ
(1150 ml 369 บาท กับ 500 ml 159 บาท) แต่มันลำบากแบกกลับบ้านนี่จิ อิอิ
ลองอาบจริง อื้อหือออออ เหมือนเอาแป้งเด็กมาอาบน้ำ กลิ่นมันฟ้องอย่างนั้นเลย พอล้างออกจะรู้สึกลื่นๆ ถึงจะชินกับความล้างง่ายของ cp มานาน แต่เราชอบความรู้สึกลื่นผิวมากกว่านะ ล้างออกแล้วผิวตึงเปรี๊ยะมันเหมือนกับเอาความชุ่มชื่นออกจากผิวไปอ่ะ เช็ดตัวแห้งแล้วเราดมตัวเองใหญ่เลย มีกลิ่นอ่อนๆติดผิว ชอบมากกกกก อิอิ

สรุปว่าที่ชอบตัวนี้ที่สุด คือให้คะแนนเกือบเต็มยกเว้นเรื่องกลิ่น เพราะเรายังอยากลองกลิ่นนมอยู่ แต่เหมือนกับจะไม่มีขายอีกแล้วแฮะ อืมมม ถ้ายี่ห้อนี้ไม่มีเราก็ต้องลองยี่ห้ออื่นล่ะ คนชอบช้อปอย่างเราต้องแสวงหาอย่างอื่นได้เรื่อยๆอยู่แล้น อิอิ

Review: natural collection illuminating loose powder

อยากลองเล่นมานานและ แป้งสีแปลกๆเนี่ย เบื่อสีเนื้อ เหลือง ชมพูจะแย่แว้ววว
อ่านทู้คนอื่นมา เค้าไปคว้าสองปุกนี้มาจาก boots พอเรามีโอกาสเลยไปส่องมั่ง
ร้านมันรู้ใจ ออกโปร 1 แถม 1 มารอรับเราซะงั้น อย่างงี้มันต้องจัดดดดดด
จริงๆมีสีชมพูอีกอันนึง แต่เท่าที่ดู เหลือแต่สีชมพู เราไม่อยากได้ชมพูสองอันก็เลยไม่เอาซะเลย ของถูกก็ยังคิดนะยะ อิอิ (135 บาท / ปุก)




ตอนแรกรีบคว้าสีม่วงก่อนเลย จริงๆอยากลองเบสม่วงด้วยซ้ำว่ามันจะทำให้หน้าเราหายเหลืองรึเปล่า แต่มันซื้อยากอ่ะ เลยเอาแป้งม่วงมาลองก่อนแล้วกัน ส่วนสีเขียวก็เอามาเป็นเพื่อนกันเพราะมันมีโปร 555

พึ่งลองใช้แต่สีม่วงนะ มันก็ อืมม งั้นๆแหละ ไม่ได้รู้สึกว่าหน้าหายเหลืองหรือผ่องขึ้นมากมายอะไร พอดีใช้แปรงใหม่จากบล็อกตะกี้ด้วย เลยดูเหมือนปัดแป้งออกจากหน้าหมดเลยมากกว่า เอาไว้สำหรับวันที่เบื่อแป้งธรรมดาๆ ก็หันมาเล่นพวกนี้ดูบ้าง แก้เซ็ง

อ้อ แป้งมีวิ๊งด้วยนะ คราวหน้าจะลองเอามาผสมบลัชเล่นดู อิอิ