ในที่สุด...หลังจากนอนดิ้นนู๋จะเอาๆมาหลายวัน
เจ้าซองน้อยๆก็มานอนรอที่บ้านซะที เฮ่ออออ
แอบช้านะยะ เว็บก็ update ช้ามากกกกกกกกกก
กว่าจะขึ้นสามบรรทัดนี่คือสายวันที่ 2 กันยาแล้วนะฮะ คุณผู้โช้มมมมมมม
ย้อนกลับมาที่เย็นวันที่ 1 ดีกว่า อุตส่าห์ข่มใจไม่แกะทันทีเพราะอยากถ่ายรูปชัดๆ เลยรอจนเก็บข้าวเย็นแล้วค่อยแกะให้พ่อแม่เห็นซะเลย นู๋ไม่ได้ซื้อของเละเทะมานะ อิอิ
อันแรก คือหยิบอันไหนก่อนก็รีวิวก่อนเลยนะ อิอิ เจ้านี่คือคาบูกิหัวกลม ขนเค้าแน่นจริงอะไรจริงอ่ะ ลองจิ้มกะหลังมือแล้วก็นิ่มมากๆด้วย เมื่อวานก่อนเห็นบล็อกเกอ์รีวิวไว้ว่าเค้าใช้ตัวนี้ทำได้ทุกอย่างเลย ลงรองพื้น คอนซีลเลอร์ เฉดดิ้ง ด้วยความที่ปลายมนก็เลยซอกซอนได้ดี อันนี้เห็นด้วยอย่างแรงเจ้าค่ะ อิอิ
แต่ตัวนี้เป็นตัวเดียวที่ยังไม่ได้ใช้กับหน้าจริงนะฮะ เลยยังบอกไม่ได้ว่า work จริงเปล่า เดี๋ยวไปหาหน้าที่ให้มันก่อน อิอิ จริงๆอยากเอามาลงรองพื้น 17 อ่ะ แต่กลัวมันไม่ถูกกับครีมเลยว่าจะให้ใช้กับพวกผงๆไปก่อน ไว้ทำใจได้แล้วจะเอามาลงครีมนะ อิอิ
(เมื่อเช้าลองใช้กับรองพื้น 17 แล้ว จะบอกว่า...ประทับใจม๊ากกกกกกกกกกกกกก ลองเทียบกับใช้นิ้วเกลี่ยแล้วยิ่งเห็นชัดอ่ะ ใช้นิ้วยังงัยก็ไม่เรียบ แต่พอเอาแปรงปาดปุ๊บ เหมือนรองพื้นมันกลัวแปรงยังงัยยังงั้น เรียบกริ๊บเลย ขนก็นิ่มมากๆ ปาดแล้วเพลินมาก เหมือนมีมือนิ่มๆมานวดหน้าเลย อิอิ)
อันที่สองเป็นคาบูกิหัวเฉียง ตัวนี้ก็เน้นให้ปัดบลัชออน แต่เอามา contour หรือ shading หรือ hi-light ก็ยังได้ ตัวนี้ขนก็แน่นมากๆอ่ะ นิ่มมากๆเหมือนกัน เมื่อเช้าลองปัดบลัช e.l.f. แล้วปรากฎว่าจิกสีติดดีมาก ด้วยความที่เธอขนเยอะเลยมีแรงจิกเยอะ ในที่สุดเราก็ปัด peachykeen เดี่ยวๆได้ซะที อิอิ แถมยังเอา face reflex มา hi-light สันจมูก+หน้าผากได้อีกด้วยอ่ะ แบบว่า เริ่ด!
ตัวสุดท้าย ตอนแรกเราหมายมั่นปั้นมือกับตัวนี้มากๆ เพราะอยากเอามาลงรองพื้น mmu ให้มันเนียนสมใจอยากซะที เจ้าแปรงของร้าน mmumania มันเป็นอะไรไม่รู้อ่ะ คือว่านิ่มนะ แต่พอเริ่มวนๆไป แทนที่จะเนียนขึ้น กลายเป็นว่าขัดทุกอย่างที่ลงก่อนหน้านี้ออกหมดเลยซะงั้น สมมติลงจมูกนิดนึง ก็โอเค เนียนและ แต่พอมาวนๆที่แก้มปุ๊ป เฮ้ยยยย ทำไมเข้มกว่าจมูกได้ฟระ แป่วเลยตู สีหน้าไม่เสมอกันแล้ว ตบแป้งต่อก็ไม่ดีขึ้นแล้วอ่ะ เป็นอย่างนี้ทุกครั้งเลย เดี๊ยนก็แบบว่า...เซ็ง!
กลับมาที่เจ้าคาบูกิหัวตัด สัมผัสแรกคือ เอิ่มมม ไม่ค่อยประทับใจเท่าไรแฮะ แบบว่าขนแปรงไม่เยอะกว่า mmumania เท่าไรเลย ชักไม่แน่ใจแล้วว่าจะต้องบัฟให้กล้ามขึ้นเหมือนกันมั้ยหนอ ตัวนี้เราว่าขนแน่นน้อยที่สุดด้วยนะ ส่วนความนิ่มนี่เสมอกันทั้งสามตัวจ้า
(update 14/02/2013)
Wowwww ผ่านไปสองปี ยังตามมาแก้รีวิวได้ อิอิ แบบว่ากลับมาอ่านของเดิมแล้วขัดหูขัดตา เลยต้องเปลี่ยนซะหน่อย
หลังจากใช้มาเรื่อยๆ เราชอบตัวนี้มากที่สุดเลยนะ เพราะขนมันบางกว่า (นี๊ดดดดเดียวเท่านั้น) แต่เส้นยาวกว่า มันเลยสปริงตัวได้ดี แล้วเวลาปัดบนหน้าก็รู้สึกว่านิ่มกว่าตัวอื่นด้วย อีกสองตัวนั่นถ้ากดแรงๆก็เหมือนเอานิ้วทิ่มหน้าอ่ะ แต่ตัวนี้กดได้ ปัดแป้งเพลินที่สุดแล้ววววว
ยี่ห้อนี้เค้าเก๋ตรงนี้ล่ะเธอว์ ซื้อเกิน $30 เค้าจะแถม blending brush 1 ด้าม เสียบมาในการ์ดต่างหากอีกใบอ่ะ
แค่ดูด้วยตาเหมือนขนจะหย้าบบบบบ หยาบ แต่ลองจับดูแล้วก็นุ่มใช้ได้เลยนะ ว่าแต่สงสัยว่า blending brush เค้าเอาไว้ทำอะไรหรือ อิอิ
เอ้า รวมญาติอีกทีเร็ว ต่อไปคงไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดนะเธอว์ ชั้นคงต้องหยิบบางตัวติดไม้ติดมือมาบ้าง อย่างวันนี้ก็เอาหัวเฉียงมาเพราะจะให้มาขุด peachykeen โดยเฉพาะ อิอิ
ชุดนี้ $45 อ่ะ แต่ถ้ามีรหัสลดราคาก็สั่งจากเว็บโดยตรงจะได้ลด 10% แม้กระนั้นก็ยังมีค่าส่งข้ามประเทศจากเมกามาไทยก็หลายอยู่ หักลบกันแล้วก็เหมือนจ่าย $45 เต็มๆ แล้วก็รอนานด้วย ไม่อยากไปเสียงดวงนั่งลุ้นว่าของชั้นอยู่ส่วนไหนในโลกนี้แล้ว ก็เลยสั่ง welove ดีกว่า เค้าก็บอกว่าเป็นตัวแทน sigma เหมือนกัน คือซื้อกะเค้าก็เหมือนซื้อกะ sigma แต่แพงกว่า 5555 แต่เราซื้อความสบายใจอ่ะ รอของแค่สองวันก็มาและ ถ้าเกิดเหตุขัดข้องก็ติดต่อคนขายง่ายกว่าด้วย
เนื่องจากรอนานตั้งแต่ยังไม่สั่งของ เลยไม่ค่อยตื่นเต้นกะหนูๆพวกนี้เท่าไร ประมาณว่าหายอยากไปเยอะแล้ว เหอๆๆ แอบคิดด้วยว่ามันก็แพงเหมือนกันนะ ตั้ง 1700 แน่ะ ตกด้ามละ 566.67 บาท ตั้งกะซื้อแปรงมาก็มีเซ็ตนี้แหละแพงสุด T_T แต่มันก็ดูดีมีสกุลสมราคาอยู่นะ ด้ามแปรงแข็งมาก แม่ช่วยวิจารณ์ว่าทำไมด้ามมันยาวจัง แล้วจะพกไปไหนได้เหรอ อิอิ แหม...พกได้สิคะ วันนี้นู๋ยังพกมาเลย เอามาทำปลอกที่ที่ทำงานอ่ะ ประหยัดอุปกรณ์ที่บ้านด้วย อิอิ
จริงๆเค้าก็มีปลอกพลาสติดให้นะ ตามรูปเลยแหละ แต่ว่ามันดูดกับด้ามแปรงส่วนที่เป็นสีเงินอ่ะ ตอนแกะครั้งแรกยังดึงออกแทบตาย ต้องใช้ตะไบเล็บมาสอดๆ แล้วค่อยๆรูดออก กลัวมันขาดอ่า เลยถอดเก็บไว้ก่อน ใช้ปลอกกระดาษดีกว่า ถอดง่ายใส่ง่าย ขาดก็ทำใหม่ง่ายๆ ของอยู่ที่โต๊ะทำงานนี่เอง อิอิ
จริงตอนนี้อยากได้พวกแปรงที่ใช้กับ eyeshadow ล่ะ แต่ไปอ่านบล็อกคนอื่นเค้าบอกว่าใช้นิ้วก็ได้ เราเลยลองมั่งก็เออ...เข้าท่าอยู่ ประหยัดด้วย ไม่ทำร้ายหนังตาด้วย เบามือได้ตามสบาย เนื่องจากไม่กล้าช้อปแล้วก็เลยใช้นิ้วไปก่อนละกันนะ เหอๆๆ
ถ้าถามว่าตอนนี้อยากได้แปรงอื่นๆจากยี่ห้อนี้อีกหรือไม่ ณ จุดๆนี้คงจะตอบว่าไม่ เพราะเท่าที่อ่านรีวิวมา แปรงเซ็ตอื่นจะใช้วัสดุคนละแบบกัน น่าจะคล้ายๆตัว blending brush นั่นแหละ ล้างแล้วมีขนร่วงบ้าง ซื้อเซ็ตใหญ่มาก็ใช้ไม่ครบทุกตัวบ้าง ขนก็ไม่นิ่มเท่าเซ็ตนี้ เลยไม่เอาดีกว่า ยังไม่อยากได้แปรงอะไรแล้วล่ะ เซ็ตนี้นี่ก็เป็นรุ่น sigmax เลยนะ น่าจะระดับ premium ของยี่ห้อเค้าแล้วอ่ะ บางรีวิวบอกว่าล้างมาหลายครั้งแล้วขนไม่มีร่วงสักเส้นเดียว ทนทายาดมากๆด้วย
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เราแค่ลองใช้ครั้งแรก คงต้องใช้ไปอีกสักพักว่ามันน่าประทับใจหรือเปล่า ถ้ายังไม่ลืมก็น่าจะมีรีวิวตามมานะจ้ะ แต่ไม่สัญญาว่าเมื่อไรนะ ^_^
(update 14/02/2013)
หลังจากเราซื้อสามแท่งไม่นาน ก็มีแบบ 4 แท่งโผล่มา เป็นทรงหัวดินสอ ตามมาด้วยรุ่นขนแปรงย่อส่วน ทรงเหมือนรุ่นใหญ่แต่เค้าอ้างว่าเอาไว้ใช้กับพวก consealer หรือลงรองพื้นเก็บรายละเอียดอะไรงี้ ตามมาด้วยแบบที่ 5 เป็นหัวตัดแบบเฉียง โอ้วว เยอะ สรุปว่าตอนนี้ sigmax มีทั้งหมด 10 แบบแน่ะ นอกจากนี้ยังมีรุ่น bunny ที่เป็นเซ็ตแปรงแบบเต็มชุด มีสีฟ้ากับสีดำ เค้าบอกว่าขนนุ่มเหมือนรุ่นนี้เลย แต่อาจจะไม่แน่นเท่า
ตอนแรกเราก็หวั่นไหว มีแอบเสียใจว่าทำไมซื้อเร็วไปหน่อย แต่เวลาผ่านมาก็เฉยๆและ ไม่อยากได้เพิ่มแล้ว เจ้าสามแท่งนี้ยังวนเวียนใช้ไม่ไหวเลย แล้วมันก็ทนมากๆเลยอ่ะ ล้างขยี้หัวแปรงยังงัยก็ไม่มีขนร่วงให้ระคายใจ แต่ตากให้แห้งนานหน่อย ต้องทิ้งไว้ข้ามคืนไปเลย
ก็เลยคิดว่า จะไม่ซื้อใหม่จนกว่าของเดิมจะพัง ซึ่งก็ไม่รู้เมื่อไรเพราะมันไม่มีวี่แววเลย (ดีมากน้องงงงง อิอิ) นอกจากว่าเราจะเบื่อ ไปขยันแสวงหาแปรงใหม่ๆ หาเรื่องเสียงตังอีกแหละ เหอๆๆ
เจ้าซองน้อยๆก็มานอนรอที่บ้านซะที เฮ่ออออ
แอบช้านะยะ เว็บก็ update ช้ามากกกกกกกกกก
กว่าจะขึ้นสามบรรทัดนี่คือสายวันที่ 2 กันยาแล้วนะฮะ คุณผู้โช้มมมมมมม
ย้อนกลับมาที่เย็นวันที่ 1 ดีกว่า อุตส่าห์ข่มใจไม่แกะทันทีเพราะอยากถ่ายรูปชัดๆ เลยรอจนเก็บข้าวเย็นแล้วค่อยแกะให้พ่อแม่เห็นซะเลย นู๋ไม่ได้ซื้อของเละเทะมานะ อิอิ
สามสหายกะถุงที่ห่อมา
อันแรก คือหยิบอันไหนก่อนก็รีวิวก่อนเลยนะ อิอิ เจ้านี่คือคาบูกิหัวกลม ขนเค้าแน่นจริงอะไรจริงอ่ะ ลองจิ้มกะหลังมือแล้วก็นิ่มมากๆด้วย เมื่อวานก่อนเห็นบล็อกเกอ์รีวิวไว้ว่าเค้าใช้ตัวนี้ทำได้ทุกอย่างเลย ลงรองพื้น คอนซีลเลอร์ เฉดดิ้ง ด้วยความที่ปลายมนก็เลยซอกซอนได้ดี อันนี้เห็นด้วยอย่างแรงเจ้าค่ะ อิอิ
แต่ตัวนี้เป็นตัวเดียวที่ยังไม่ได้ใช้กับหน้าจริงนะฮะ เลยยังบอกไม่ได้ว่า work จริงเปล่า เดี๋ยวไปหาหน้าที่ให้มันก่อน อิอิ จริงๆอยากเอามาลงรองพื้น 17 อ่ะ แต่กลัวมันไม่ถูกกับครีมเลยว่าจะให้ใช้กับพวกผงๆไปก่อน ไว้ทำใจได้แล้วจะเอามาลงครีมนะ อิอิ
(เมื่อเช้าลองใช้กับรองพื้น 17 แล้ว จะบอกว่า...ประทับใจม๊ากกกกกกกกกกกกกก ลองเทียบกับใช้นิ้วเกลี่ยแล้วยิ่งเห็นชัดอ่ะ ใช้นิ้วยังงัยก็ไม่เรียบ แต่พอเอาแปรงปาดปุ๊บ เหมือนรองพื้นมันกลัวแปรงยังงัยยังงั้น เรียบกริ๊บเลย ขนก็นิ่มมากๆ ปาดแล้วเพลินมาก เหมือนมีมือนิ่มๆมานวดหน้าเลย อิอิ)
อันที่สองเป็นคาบูกิหัวเฉียง ตัวนี้ก็เน้นให้ปัดบลัชออน แต่เอามา contour หรือ shading หรือ hi-light ก็ยังได้ ตัวนี้ขนก็แน่นมากๆอ่ะ นิ่มมากๆเหมือนกัน เมื่อเช้าลองปัดบลัช e.l.f. แล้วปรากฎว่าจิกสีติดดีมาก ด้วยความที่เธอขนเยอะเลยมีแรงจิกเยอะ ในที่สุดเราก็ปัด peachykeen เดี่ยวๆได้ซะที อิอิ แถมยังเอา face reflex มา hi-light สันจมูก+หน้าผากได้อีกด้วยอ่ะ แบบว่า เริ่ด!
ตัวสุดท้าย ตอนแรกเราหมายมั่นปั้นมือกับตัวนี้มากๆ เพราะอยากเอามาลงรองพื้น mmu ให้มันเนียนสมใจอยากซะที เจ้าแปรงของร้าน mmumania มันเป็นอะไรไม่รู้อ่ะ คือว่านิ่มนะ แต่พอเริ่มวนๆไป แทนที่จะเนียนขึ้น กลายเป็นว่าขัดทุกอย่างที่ลงก่อนหน้านี้ออกหมดเลยซะงั้น สมมติลงจมูกนิดนึง ก็โอเค เนียนและ แต่พอมาวนๆที่แก้มปุ๊ป เฮ้ยยยย ทำไมเข้มกว่าจมูกได้ฟระ แป่วเลยตู สีหน้าไม่เสมอกันแล้ว ตบแป้งต่อก็ไม่ดีขึ้นแล้วอ่ะ เป็นอย่างนี้ทุกครั้งเลย เดี๊ยนก็แบบว่า...เซ็ง!
กลับมาที่เจ้าคาบูกิหัวตัด สัมผัสแรกคือ เอิ่มมม ไม่ค่อยประทับใจเท่าไรแฮะ แบบว่าขนแปรงไม่เยอะกว่า mmumania เท่าไรเลย ชักไม่แน่ใจแล้วว่าจะต้องบัฟให้กล้ามขึ้นเหมือนกันมั้ยหนอ ตัวนี้เราว่าขนแน่นน้อยที่สุดด้วยนะ ส่วนความนิ่มนี่เสมอกันทั้งสามตัวจ้า
(update 14/02/2013)
Wowwww ผ่านไปสองปี ยังตามมาแก้รีวิวได้ อิอิ แบบว่ากลับมาอ่านของเดิมแล้วขัดหูขัดตา เลยต้องเปลี่ยนซะหน่อย
หลังจากใช้มาเรื่อยๆ เราชอบตัวนี้มากที่สุดเลยนะ เพราะขนมันบางกว่า (นี๊ดดดดเดียวเท่านั้น) แต่เส้นยาวกว่า มันเลยสปริงตัวได้ดี แล้วเวลาปัดบนหน้าก็รู้สึกว่านิ่มกว่าตัวอื่นด้วย อีกสองตัวนั่นถ้ากดแรงๆก็เหมือนเอานิ้วทิ่มหน้าอ่ะ แต่ตัวนี้กดได้ ปัดแป้งเพลินที่สุดแล้ววววว
ประชันรูปร่างกันหน่อย อิอิ
อันนี้เป็นการ์ดโฆษณาด้านหน้าอ่ะ
เปิดอ่านดูคร่าวๆแล้วทั้งสามตัวสามารถใช้ได้กับคสอ.แบบผง ครีม หรือน้ำ ประมาณว่าชั้นสารพัดประโยชน์สุดๆเลยมั้ง แถมยังให้ finished look ปกปิดแบบ hd (high definition) ด้วยนะเธอว์ อิอิ
การ์ดที่แถมกับการซื้อแปรงยี่ห้อนี้จ้ะ น่าจะแถมทุกครั้งที่ซื้อเลยมั้ง
ด้านหลังการ์ด
เอ๊ะ นี่มันปีใหม่แล้วเหรอเนี่ย 555
ยี่ห้อนี้เค้าเก๋ตรงนี้ล่ะเธอว์ ซื้อเกิน $30 เค้าจะแถม blending brush 1 ด้าม เสียบมาในการ์ดต่างหากอีกใบอ่ะ
ข้างในน้องแปรง...
แกะออกมาโชว์ตัวสิ
แค่ดูด้วยตาเหมือนขนจะหย้าบบบบบ หยาบ แต่ลองจับดูแล้วก็นุ่มใช้ได้เลยนะ ว่าแต่สงสัยว่า blending brush เค้าเอาไว้ทำอะไรหรือ อิอิ
เอ้า รวมญาติอีกทีเร็ว ต่อไปคงไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดนะเธอว์ ชั้นคงต้องหยิบบางตัวติดไม้ติดมือมาบ้าง อย่างวันนี้ก็เอาหัวเฉียงมาเพราะจะให้มาขุด peachykeen โดยเฉพาะ อิอิ
ชุดนี้ $45 อ่ะ แต่ถ้ามีรหัสลดราคาก็สั่งจากเว็บโดยตรงจะได้ลด 10% แม้กระนั้นก็ยังมีค่าส่งข้ามประเทศจากเมกามาไทยก็หลายอยู่ หักลบกันแล้วก็เหมือนจ่าย $45 เต็มๆ แล้วก็รอนานด้วย ไม่อยากไปเสียงดวงนั่งลุ้นว่าของชั้นอยู่ส่วนไหนในโลกนี้แล้ว ก็เลยสั่ง welove ดีกว่า เค้าก็บอกว่าเป็นตัวแทน sigma เหมือนกัน คือซื้อกะเค้าก็เหมือนซื้อกะ sigma แต่แพงกว่า 5555 แต่เราซื้อความสบายใจอ่ะ รอของแค่สองวันก็มาและ ถ้าเกิดเหตุขัดข้องก็ติดต่อคนขายง่ายกว่าด้วย
เนื่องจากรอนานตั้งแต่ยังไม่สั่งของ เลยไม่ค่อยตื่นเต้นกะหนูๆพวกนี้เท่าไร ประมาณว่าหายอยากไปเยอะแล้ว เหอๆๆ แอบคิดด้วยว่ามันก็แพงเหมือนกันนะ ตั้ง 1700 แน่ะ ตกด้ามละ 566.67 บาท ตั้งกะซื้อแปรงมาก็มีเซ็ตนี้แหละแพงสุด T_T แต่มันก็ดูดีมีสกุลสมราคาอยู่นะ ด้ามแปรงแข็งมาก แม่ช่วยวิจารณ์ว่าทำไมด้ามมันยาวจัง แล้วจะพกไปไหนได้เหรอ อิอิ แหม...พกได้สิคะ วันนี้นู๋ยังพกมาเลย เอามาทำปลอกที่ที่ทำงานอ่ะ ประหยัดอุปกรณ์ที่บ้านด้วย อิอิ
จริงๆเค้าก็มีปลอกพลาสติดให้นะ ตามรูปเลยแหละ แต่ว่ามันดูดกับด้ามแปรงส่วนที่เป็นสีเงินอ่ะ ตอนแกะครั้งแรกยังดึงออกแทบตาย ต้องใช้ตะไบเล็บมาสอดๆ แล้วค่อยๆรูดออก กลัวมันขาดอ่า เลยถอดเก็บไว้ก่อน ใช้ปลอกกระดาษดีกว่า ถอดง่ายใส่ง่าย ขาดก็ทำใหม่ง่ายๆ ของอยู่ที่โต๊ะทำงานนี่เอง อิอิ
จริงตอนนี้อยากได้พวกแปรงที่ใช้กับ eyeshadow ล่ะ แต่ไปอ่านบล็อกคนอื่นเค้าบอกว่าใช้นิ้วก็ได้ เราเลยลองมั่งก็เออ...เข้าท่าอยู่ ประหยัดด้วย ไม่ทำร้ายหนังตาด้วย เบามือได้ตามสบาย เนื่องจากไม่กล้าช้อปแล้วก็เลยใช้นิ้วไปก่อนละกันนะ เหอๆๆ
ถ้าถามว่าตอนนี้อยากได้แปรงอื่นๆจากยี่ห้อนี้อีกหรือไม่ ณ จุดๆนี้คงจะตอบว่าไม่ เพราะเท่าที่อ่านรีวิวมา แปรงเซ็ตอื่นจะใช้วัสดุคนละแบบกัน น่าจะคล้ายๆตัว blending brush นั่นแหละ ล้างแล้วมีขนร่วงบ้าง ซื้อเซ็ตใหญ่มาก็ใช้ไม่ครบทุกตัวบ้าง ขนก็ไม่นิ่มเท่าเซ็ตนี้ เลยไม่เอาดีกว่า ยังไม่อยากได้แปรงอะไรแล้วล่ะ เซ็ตนี้นี่ก็เป็นรุ่น sigmax เลยนะ น่าจะระดับ premium ของยี่ห้อเค้าแล้วอ่ะ บางรีวิวบอกว่าล้างมาหลายครั้งแล้วขนไม่มีร่วงสักเส้นเดียว ทนทายาดมากๆด้วย
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เราแค่ลองใช้ครั้งแรก คงต้องใช้ไปอีกสักพักว่ามันน่าประทับใจหรือเปล่า ถ้ายังไม่ลืมก็น่าจะมีรีวิวตามมานะจ้ะ แต่ไม่สัญญาว่าเมื่อไรนะ ^_^
(update 14/02/2013)
หลังจากเราซื้อสามแท่งไม่นาน ก็มีแบบ 4 แท่งโผล่มา เป็นทรงหัวดินสอ ตามมาด้วยรุ่นขนแปรงย่อส่วน ทรงเหมือนรุ่นใหญ่แต่เค้าอ้างว่าเอาไว้ใช้กับพวก consealer หรือลงรองพื้นเก็บรายละเอียดอะไรงี้ ตามมาด้วยแบบที่ 5 เป็นหัวตัดแบบเฉียง โอ้วว เยอะ สรุปว่าตอนนี้ sigmax มีทั้งหมด 10 แบบแน่ะ นอกจากนี้ยังมีรุ่น bunny ที่เป็นเซ็ตแปรงแบบเต็มชุด มีสีฟ้ากับสีดำ เค้าบอกว่าขนนุ่มเหมือนรุ่นนี้เลย แต่อาจจะไม่แน่นเท่า
ตอนแรกเราก็หวั่นไหว มีแอบเสียใจว่าทำไมซื้อเร็วไปหน่อย แต่เวลาผ่านมาก็เฉยๆและ ไม่อยากได้เพิ่มแล้ว เจ้าสามแท่งนี้ยังวนเวียนใช้ไม่ไหวเลย แล้วมันก็ทนมากๆเลยอ่ะ ล้างขยี้หัวแปรงยังงัยก็ไม่มีขนร่วงให้ระคายใจ แต่ตากให้แห้งนานหน่อย ต้องทิ้งไว้ข้ามคืนไปเลย
ก็เลยคิดว่า จะไม่ซื้อใหม่จนกว่าของเดิมจะพัง ซึ่งก็ไม่รู้เมื่อไรเพราะมันไม่มีวี่แววเลย (ดีมากน้องงงงง อิอิ) นอกจากว่าเราจะเบื่อ ไปขยันแสวงหาแปรงใหม่ๆ หาเรื่องเสียงตังอีกแหละ เหอๆๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น