วันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

First review: Hand cream

เปิดบล็อกใหม่ซะเลย แบบว่าเรื่อง shopping ท่าจะเยอะ
พอดีเห็นหลอด crabtree บู้บี้หมดฤทธิ์ไร้เรี่ยวแรงอยู่ตรงหน้า
เลยจะเขียนถึงซะหน่อย ก่อนจะต้องจากกัน อิอิ

เจ้าบู้บี้ของเราก็ขนาดนี้เลยแหละ ถ้าจำไม่ผิดจะมีเล็กกว่านี้ (25 ml)
แล้วก็ใหญ่กว่านี้ (100 ml) ด้วยนะ
อีตอนไปซื้อมา มันหน้ามืดตามัว อยากจะลองเหลือเกิน
พอเห็นร้านมาเปิดที่พาราได รีบรี่เข้าไปถามเลยทีเดียว
จริงๆก็ไม่ชอบกลิ่นเท่าไรนะ แต่ซื้อมาเพราะเกรงใจคนขาย
แบบว่าเธอภูมิใจนำเสนอส่วนลดพิเศษมากๆ ขนาดไม่ออกใบเสร็จให้เราละกันน่ะ
ค่าตัวเลยอยู่ที่ 490 - 10% เหลือ 441 บาท
แล้วอีกอย่าง ต้องการพิสูจน์ด้วยว่ามันทำให้มือนุ่มอย่างที่ร่ำลือหรือเปล่า
ได้มาแล้วก็ทาเช้าทาเย็น ประสาคนเห่อของใหม่
แต่ ให้ตายเถอะ กี่วันๆผ่านไป มือเราก็ยังเหมือนเดิม
ไม่ได้รู้สึกว่านุ่มเนียนน่าสัมผัสมากขึ้นแต่อย่างใด
อาจจะทาครีมอื่นๆมาเยอะ หรือไม่ก็มันด้านมากแล้ว
ไม่รับความชุ่มชื่นจากครีมใดๆอีก
แถมกลิ่นยังเหม็นเขียวเหมือนพึ่งตัดหญ้าใหม่ๆตลอดๆ
สิ้นสุดกันที....เราคงไม่เจอกันอีกนะจ๊ะเธอว์
ปล. ตอนอยู่ในร้าน แอบดมหลอดสีฟ้ามาด้วย
เพราะชอบชื่อกลิ่น + คิดว่าน่าจะหอม
"La Source"
แต่ กลิ่นที่ได้สัมผัส มันแบบว่า
เหมือนเอา treatment หมักผม มาให้เราดมยังงัยไม่รู้สิ
ถึงน้องคนขายคนนั้นจะน่ารักแค่ไหน เราก็ไม่กล้ากลับไปเข้าร้านนั้นอีกแล้ว
ถึงแม้จะได้บัตรสมาชิกชั่วคราวมาแล้วก็ตาม
กลัวจะต้องเกรงใจจนซื้อมา ทั้งที่ไม่อยากได้อีก

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

พูดแล้วก็คิดถึงครีมอีกยี่ห้อนึง

เคยอ่านบางกระทู้บอกว่า shop ของสองร้านนี้ในต่างประเทศ
จะอยู่ตรงข้ามกันตลอดๆ
เราคิดเอาเองว่ามันคงประกาศตัวเป็นคู่แข่งกันตลอดชาติ ว่างั้น
แต่หลังจากที่ได้ใช้ตัวแรกไปแล้ว
ถ้าเราได้เดินไปเจอสองร้านนี้อยู่ตรงข้ามกัน
สิ่งที่อยากทำมากก็คือ ค้อนใส่ร้านแรกวงใหญ่ๆ
แล้วเดินเชิดเข้าร้านที่สองดีกว่า
พร้อมกับบ่นตัวเองว่า ชั้นไม่น่าเปลี่นใจไปหาไอ้ปูต้นไม้นั่นเล้ยยยย
ใช่แล้ว เราเคยใช้หลอดสีเงินมาก่อน
ตอนนั้นเพื่อนเอามาบีบใส่มือให้ บอกว่ายี่ห้อนี้ดีมาก
เราไม่ได้สนใจอะไรหรอก ชอบแค่กลิ่นมันหอมถูกใจเราเท่านั้นเอง
วันเชงเม้งเมื่อสองสามปีที่แล้ว กลับมากินข้าวเย็นที่ห้าง
เลยได้ไปโฉบๆไอ้หลอดเงินมา
ณ ขณะนั้น ชื่อยี่ห้อยังเรียกไม่เป็นเลย ให้ตายสิ
สภาพเราก็แต่งตัวบ้านๆมาก เพราะต้องไปอบแดดกลางเขามา
เหมือนสายตาคนขายมันก็มองหรอก แต่มันคงอยากขายของมากกว่า
ทำไมอ่ะ ชั้นซื้อนะ ชั้นชอบของอันนี้จริงๆง่ะ
มาถึงตอนนี้แล้วก็ขำตัวเอง ซื้อไปด้ายยยย ครีมทามือหลอดละ 300 (30 ml)
หลอดติ๋วเดียวเองงง อิอิ
แต่มันเห็นผลนะ หลังมือนิ่มขึ้นมากกกกก ดูเนียนขึ้นด้วย
เราไม่ทาครีมที่ฝ่ามือนะ เพราะเหงื่อออกเยอะ บีบใส่หลังมือแล้วก็ทาถูๆกันเอง
ชอบกลิ่นด้วย หอมอ่อนๆ ถึงจะเหนียวไปหน่อยก็อย่าได้แคร์
คิดเสียว่ามันเคลือบหนังเหี่ยวๆ ไม่ให้อากาศเข้าไปทำให้เหี่ยวไปกว่าเดิมได้อีก 555
แต่ด้วยค่าตัวแพงลิบลิ่วขนาดนั้น พอหมดหลอดเดียวในใจแล้วก็ยังไม่มีใครใหม่ (ฮิ้ววว)
ถือเป็นความทรงจำดีๆระหว่างเราสองคนละกันนะ
ถ้าจะให้ซื้อใหม่ ก็ตอบได้อย่างมั่นใจว่า "ไม่"
ก็มันแพงงงงงง่า
ทุกวันนี้ก็เอาโลชั่นทาตัวนั่นแหละ แบ่งใส่กระปุกน้อยเอามาใช้ที่ทำงาน
ขยันทาบ่อยๆ มันก็คงจะดีขึ้นบ้างล่ะน่ะ เฮ่ออ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น