วันอาทิตย์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2559

Review: Miruku Shower Cream

หูยยยยย ครีมอาบน้ำออกใหม่
หูยยยยย มีนมฮอคไกโดด้วย
หูยยยยย แถม body spray ด้วย
ซื้อสิคะ รออะไร



ไม่ต้องถามราคานะคะ ไปสืบตามซุปเปอร์เอา
แบบว่าซื้อมานานแล้ว จำไม่ได้หรอก

ส่วนกลิ่นก็หวานๆ ไม่ค่อยนมเท่าไร
ออกนุ่มนวล ไม่ฉุนเท่า beauty buffet
ล้างออกแล้วตึงผิวใช้ได้เลย

ตัวสเปรย์ก็กลิ่นเดียวกัน ฉีดแล้วก็หอมแป๊บนึง
แล้วก็ไม่รู้สึกชุ่มชื่นเท่าไร

สรุปแล้วเฉยมาก กลิ่นไม่ประทับใจเท่าไร
เลยไม่ลองสีเหลืองต่อและ บรัยยยยย

วันเสาร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2559

Cutepress Aqua Relief Eye Cream

อันนี้เป็นความชอบส่วนตัวนิดนึง
แบบว่าชอบคำว่า aqua เลยซื้อมา ง่ายมั้ย 555
ซื้อมาตอนโปรวันเกิด ลด 40%
เดี๋ยวนี้ยี่ห้อนี้ขี้เหนียว ลด 50% ไปเลยก็ไม่ได้ ต้องมาสะสมยอดซื้อตามขั้นก่อนนะ
Dahhhhhhhhhhhhhhhhhhhh
บังเอิญว่าชั้นก็ขี้เหนียวเหมือนกัน หล่อนก็ไม่ได้กินตังชั้นง่ายๆหรอกนะขอบอก 555



เนื้อครีมเบาแต่ไม่ถึงกะเหลวมาก
น่าจะมีน้ำหอมเบาๆพอกลบกลิ่นเคมี
ส่วนประสิทธิภาพอย่าไปเชื่อคำเคลมมาก
ทาไม่ให้มันแห้งมากไป เดี๋ยวจะเหี่ยวเร็วก็พอ
หมดหลอดแล้วยังเฉยๆ แพนด้าไม่สะดุ้ง
จบข่าว! หาอย่างอื่นต่อไปจ้า

วันอาทิตย์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2559

Review: Sephora Nail Base Coat

ซื้อเพราะไม่รู้จะซื้ออะไร เพราะมีแต่ของแพงๆ เดินวนทั้งร้านอยู่หลายรอบจนรู้สึกเกรงใจสายตาพนักงาน สุดท้ายก็เลยเอามาแก้เขินสักขวดนึง

แต่ค่าแก้เขินแพงมากกกกกกกกก 350.-
ชีวิตนี้ไม่เคยคิดจะซื้อ base coat แพงขนาดนี้มาก่อนเลยจิงๆ


 ทาแล้วใสๆนะจ้ะ นิ้วแรกที่สีขุ่นนี่เป็น moisturizing มั้ง เรื่องมันนานมาแล้ว จำไม่ค่อยได้และ ตอนนั้นลองอยู่สามอย่าง บำรุงเล็บ top coat และ base coat แต่ที่เลือกอันนี้เพราะมันดูเงาที่สุด อิอิ

 หลักฐานค่าแก้เขิน


ส่วนนี่บรรยากาศร้าน ไปมาสองสามสาขาที่อยู่ในเมืองเมื่อนานมาแล้ว เลยจำไม่ได้ว่ารูปนี้เป็นสาขาไหน ไม่พารากอนก็ embassy ก็ emquartier นี่ล่ะ 555 (มั่วมาก)

ส่วนของที่ซื้อมาก็ลองใช้แล้ว ใช้ดีอยู่ แต่มันไม่ค่อยจำเป็นค่ะซิส คิดว่ามันทำให้สีทาเล็บติดทนขึ้นก็ไม่เชิง ทำให้สีชัดขึ้นก็ไม่ใช่ ขนาดทาเดี่ยวๆยังลอกเร็วเลยจ้ะ สุดท้ายเอาไว้เคลือบเล็บเงาๆเฉยๆ แล้วก็ไม่ค่อยได้ใช้ด้วยสิ

ใครชอบของถูกอย่าไปร้านนี้นะ เดี๋ยวจะหาว่าเจ๊ไม่เตือน

วันเสาร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2559

Review: Seventeen Cheek Stamp Blush (5 shades)

เป็นบ้าค่ะ เป็นบ้า
ไปลองปั๊มๆถูๆไถๆแล้วยิ้มอยู่คนเดียว
บลัชแนวใหม่เว้ยเฮ้ย สะดวกดีว่ะ มีกระจก มีพัฟในตัวเสร็จ
แบบนี้ก็ travel-friendly สินะ
แต่ ต้องรอโปรค่ะโปร พอออกโปร 2 แถม 1 ก็จัดมา 3 สีเลยค่ะ แบบว่าตัดใจเลือกไม่ได้เลยยยยย

แต่ชั้นอ่านรีวิวมานะ ที่เมืองนอกเค้ามี 5 สีนะเธอว์ ทำไมชั้นเห็นแค่ 3 เองง่ะ
โชคชะตาได้พาตัวเองเข้าเมือง พอไปแวะสาขาใหญ่ๆหน่อยก็ jackpot จ้า


อี 2 สีนี่ไฮโซ อยู่ในเมืองเท่านั้น หาไม่ได้ตามสาขาบ้านนอกนะเธอว์
(แอบมองบนหมั่นไส้มันเล็กๆ)
และอยู่ในโปร 1 แถม 1 วันสุดท้ายพอดีจ้า จะช้าอยู่ใย
รีบเอาไปจ่ายตังสิ เดี๋ยวคนอื่นรู้ตัวมากว้านซื้อ 5555

มาๆๆ ครบคนแล้วก็ยืนเรียงแถวเลยลูก

งามมั้ยละเธอย์ย์ย์ย์ย์ย์ย์ย์ย์

แอบเสียดายอยู่นานมาก ไม่กล้าใช้
เราต้องใช้ของเก่าให้หมดก่อนสิ
เราต้องรู้คุณค่าของเงินนะ
แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ต่อกิเลศ ลองขยี้มาแล้วทุกสี
ไงล่ะ สวยมะ สวยมั้ย
ไล่ให้ดูอีทีเนอะ

Stare Struck - dusty mauve pink with shimmer
Bashful - pure nude
Made you look - fuchia
The cheek of it - golden orange with shimmer
Blushin' - baby pink

ตัวเองว่าสีไหนสวยสุดง่า
เค้าเลือกไม่ได้ก็เลยสอยมาหมดนี่เบยยยย งุงิๆ

Stare Struck น่าจะเหมาะกับคนผิวเข้มหน่อย
สำหรับเรามันเข้มไป เผลอจัดหนักล่ะหน้าเป็นปื้นเลยล่ะ

Bashful อันนี้แนะนำเลยนะ แบบว่ามันนู้ด มันดูอินเตอร์ ปัดหนักๆหน้าก็ไม่หมองนะจ้ะ จะบอกให้

Made you look นี่ก็น่าจะ dupe Nars Desire
เราก็ไม่เคยมีสีนั้น มีแต่ sleek pixie pink ซึ่งเป็น dupe เหมือนกัน และสีมันเหมือนกันมากกกกกกกกกก แบบปัดข้างละสีนี่ดูไม่ออกละกันอ่ะ มันจะต่างกันนิดนึงที่ตัวนี้สีไม่เข้มเท่า sleek
ดังนั้นปัดตัวนี้แล้วดูใสๆกว่า เราชอบอันนี้มากกว่านะ
sleek ปัดแล้วดูเป็นนารีขี้เมาไปหน่อย

The cheek of it อันนี้น่าจะทำเลียนแบบ Nars Orgasm มาเลยอ่ะ แต่ pigment ไม่เข้มเท่า อันนี้ปัดแล้วดูเบาๆกว่า

แต่ถ้าถามความชอบส่วนตัวจริงๆก็ต้อง Blushin' เนี่ยแหละ
ปัดแล้ว 'ขึ้น' ที่สุดสำหรับผิวซีดๆอย่างเรา

ทีนี้เวลาใช้จริง มันก็ไม่ค่อยสะดวกอย่างที่คิดเท่าไร
เพราะว่าฟองน้ำเป็นทรงกลม ปั๊มแล้วเกลี่ยไม่ได้ สีจะไม่สม่ำเสมอ
เอามือเกลี่ยก็ไม่สวย สุดท้ายต้องพึ่งแปรงอยู่ดี
ในที่สุดก็เลยไม่ได้ใช้ฟองน้ำ เอาแปรงมาถูๆเอาจะสะดวกกว่า เหอๆๆ

เนื่องจากซื้อมานานแล้วกว่าจะเอามารีวิว เลยไม่แน่ใจว่ายังมีขายอยู่ไหม
แต่ถ้าเจอพร้อมกับโปรล่ะก็แนะนำจ้ะ แพจเกจแปลกแต่เก๋
เอามาหัดแต่งหน้าก็ดี เพราะสีมันไม่เข้มจ๋า พลาดแล้วยังพอกลบเลื่อนความผิดได้

แล้วคนรีวิวล่ะใช้มั้ย...
แหม...อย่ามองแบบนั้น ก็ใช้บ้างงงง
แต่ด้วยความที่หลายใจ มีบลัชหลายอัน
ก็เลยแบ่งๆกันไปอ่ะนะ แฮ่ๆๆ

วันอาทิตย์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2559

Review: Seventeen Cheek & Lip Stain Gel Tint

ไม่มีอะไรมาก แค่ไปเดินเล่นใน boots แล้วสายตาแหลมคม (และหาเรื่องเสียตัง) ก็ไปสะดุดเอาสินค้าใหม่ ในราคา 1 แถม 1 วู้ยยยยย หยิบสิจ้ะ รออะไร








เกลี่ยโชว์แค่หลังมือนะ ไม่อยากโชว์หน้าเยอะเดี๋ยวเจ้าหนี้ตามเจอ
ขอพูดถึง package ก่อน ขนาดกำลังดี แต่ทำไมต้องมีฟองน้ำ? จะให้เอามาเกลี่ยแก้มอูมๆคงไม่พออ่ะเธอว์ว์ว์ว์ว์ว์ว์ว์ว์ว์
เอาไว้คุมปริมาณก็ไม่ใช่ สำหรับชั้นคือมีไว้ให้เลอะเทอะไปหยั่งงั้นแหละ

แต่ตัวสินค้าดีงามจ้า ใช้ทาแก้ม เกลี่ยง่าย สม่ำเสมอ ไม่ปื้น ไม่แจ๋นเกินไป
แต่ไม่ติดทนมาก หน้ามันอยู่ได้ไม่เกินครึ่งวันจ้ะ
แต่ถ้าใช้ทาปาก สำหรับเราเห็นสีไม่ชัดเท่าไร เพราะสีปากเข้ม
จะว่าไปมันไม่ค่อย stain เลยเนาะ

ซื้ออีกมั้ย เอ่อออ มันก็ดีนะ แต่ถึงจัดโปรอีกก็ไม่เอาแล้วอ่ะ
สองหลอดนี้ก็เยอะพอสมควร ใช้ได้นานเลยล่ะ
เธอเห็นสองกล่องนั่นไหม...
มันคือ...คือ...
อิอิ นี่คือ teaser
ตามอ่านบล็อกถัดไปด้วยจ้ะ

Review: Fasio Perfect Cleansing Oil

ไม่ได้ตั้งใจซื้อหรอกนะ แค่เดินผ่านแล้วเห็นมันมีโปร ชั้นที่ 2 = 1 บาท แค่นั้นเอ๊งงง
ยี่ห้อนี้เราก็ไม่เคยลองนะ แต่เห็นรีวิวมาบ้างว่ามันดีพอตัว
ตอนแรกมีลังเลว่าจะหยิบดีมั้ย เผื่อใช้ไม่ดีนี่เซ็งเลยนะ ตั้ง 2 ขวด
แต่ก็อ๊ะ ลองดูละกัน ชั้นให้โอกาสเธอ


ไม่ได้ถ่ายรูปข้างในให้ดูนะ เพราะมันเป็นออยใสๆ ไม่มีกลิ่น ดูไม่มีอะไรเลย
อย่าไปเชื่อขวดว่ามันเป็นสีฟ้าล่ะ

การใช้งานก็เหมือนๆออยทั่วไป กด-ลูบ-นวด-ล้าง
ด้วยความที่ไม่มีกลิ่น = ไม่มีน้ำหอม
ล้างไปก็ไม่ได้กลิ่นอะไรเลย
ใช้จนหมดขวดก็ไม่มี

เรื่องความสะอาดก็น่าจะดี เพราะใช้มานานก็ไม่มีสิวอุดตันเพิ่มเยอะ
(มีเหมือนกันแหละ แต่มีนิดหน่อย)

ยังงัยก็ต้องดอกจัน 3 ดอกหน้าหลังเลยว่า
***ต้องล้างหน้าตามทุกครั้ง ห้ามใช้ makeup remover เดี่ยวๆนะจ้ะ***

ซื้อต่อมั้ย อ่อ แน่นอนค่ะ
แต่ซื้อตอนโปรเท่านั้นนะ ราคาเต็มรู้สึกแพง ถึงแม้ปริมาณจะเยอะกว่ายี่ห้ออื่นก็เหอะ
ตอนที่ใช้ขวดที่สองใกล้หมด ก็ตามหาอยู่ แต่ไม่มีโปรเลย
เลยไปสอยแบบน้ำอีกยี่ห้อนึงมา
แต่หลังจากนั้นไม่นาน...โปรมาจ้า...สอยสิคะ อย่าได้ช้า

อันนี้ดีค่ะ เจ๊แนะนำ!

วันเสาร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2559

Review: Revlon Colorburst Lip Butter (Pink Lemonade and Peach Parfait)

จากที่เคยใช้เมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว ชอบตรงที่ชุ่มชื่นมาก ทาได้เลยไม่ต้องง้อลิปมัน
http://katereview.blogspot.com/2011/12/new-review-revlon-lip-butter-strawberry.html
http://katereview.blogspot.com/2011/12/blog-post.html
เป็นลิปที่หมดเร็วมากเพราะเนื้อนิ่ม และเราทาบ่อย ใช้แทนลิปมันเลยหมดเร็ว
แต่เราก็ชอบเปลี่ยนไปเรื่อยๆก็เลยยังไม่ได้ซื้อสีอื่น

แล้วตอนนี้ กลับมาซื้อได้ เพราะโปร 1 แถม 1 จ้า
น่าจะเลิกผลิตแล้วมั้งรุ่นนี้ น่าเสียดายเนาะ





ที่จริงตอนซื้อก็ลังเลระหว่าง peach parfait กับ papaya อะไรสักอย่าง อันนั้นสีส้มจับใจ ดูเกาหลีมั่กๆ น่าลองเหมือนกัน แต่เลือก peach เพราะมันค้างคาใจมานาน ตอนนั้นอยากได้แต่ไม่ได้ซื้อ

ส่วน pink lemonade นี่หยิบก่อนเลย สีชมพูอ่อนๆน่ารักมุ้งมิ้งขนาดนี้ เป๊กค่ะเป๊ก

(แถมๆๆ เวลาจะซื้อของโปร 1 แถม 1 ไม่รู้เป็นงัย มักจะเลือกได้ 3 ชิ้น แล้วก็มานั่งลังเลว่าจะตัดอันไหนออกดีน้า เฮ่อออ ทุกข์ของคนบ้าช้อป)

Swatch ให้ดูดีกว่า
เห็นความแตกต่างอยู่เนาะ อันไหนซีดๆก็คือ pink ส่วนสีทำช้าดทำชาดก็คือ peach จ้ะ
แอบ fail กับ pink นิดนึง คือไม่คิดว่าทาแล้วจะซีดมากขนาดนี้ อุตส่าห์ชอบสีในแท่งแล้วเชียว
ส่วน peach เราไม่ชอบวิ๊งๆเท่าไร แต่ทาแล้วดูสุภาพดีงามจ้ะ

เนื้อลิปก็นิ่มลื่นทาง่ายเหมือนเดิม
แต่คงไม่มีให้ซื้อต่ออีกแล้ว
เพราะเทรนปี 2016 คือลิปแมต! แบบทุกยี่ห้อต้องมี
เราเองก็สอยมาเยอะ แฮ่ๆๆ
อวดของยั่วน้ำลายดีกว่า
สรรพสิ่งที่สอบมาพร้อมกับ lip butter งวดนี้
เป็น 1 แถม 1 ซะเยอะ
fasio cleansing oil ไม่เคยลองเลย แต่เห็นราคาเต็มคือ 420 ราคาเริ่มสูงเลยคิดเอาเองว่าน่าจะดี
divinia คือครีมของตายเนาะ ใช้คู่กับล้างหน้า physiogel นี่แบบดีงาม สิวหายเกลี้ยง
ส่วนกันแดดนี่ไม่ได้แถม ลดเฉยๆ แต่อยากลองเลยสอยมาซะ
บล็อกหน้าจะรีวิว fasio ก่อนล่ะ