วันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2557

Review: 2 bags 2 styles

ใช้มาเกินครึ่งปีแล้วพึ่งจะมารีวิว ถ้าเป็นครีมสักกระปุกคงหมดไปนานแล้วสินะ อิอิ

ที่จริงทรงที่อยากได้คือ bowling bag แบบ LV speedy นั่นเลย แต่เราไม่เอา lv หรอก ไม่มีความอดทนเก็บเงินขนาดนั้น แถมไม่ชอบหนัง canvas ซะด้วยสิ ก็เลยมาเล็งพวกหนังแท้ของไทยๆ ตามร้านเวลามาออกบู้ทแทน เคยเจออยู่ใบนึง เห็นแล้วแบบว่าปิ๊งมาก ขนาดกำลังดีและสีก็สวยมากด้วย เป็นสีชานม ติดอยู่เรื่องเดียวว่าเงินสดไม่พอ ถึงร้านเค้าจะรับวีซ่าแต่เรามีแต่ mastercard เลยไม่กล้าถามเขา
คิดเสียว่าวาสนาเราไม่ตรงกัน ทุกวันนี้ยังคิดถึงอยู่เลยนะเนี่ย อิอิ

พอช่วงสิ้นปีไปกินข้าวเซ็นทรัลก็เลยได้เดินช้อปซะหน่อย เดินผ่านหน้าร้านขายผ้าร้านนึง แม่ชวนดูกระเป๋าสะพายข้างที่โชว์อยู่น่ารักดี ร้านนี้ขายเสื้อผ้า+กระเป๋ายี่ห้อตัวเองด้วย ก็เลยแวะเข้าไปดูสักหน่อย สรุปว่าได้มาด้วยจ้า ตามแบบที่โชว์เดี๊ยะ ราคาก็น่ารักนะ 490 ลด 10% เหลือ 441 เองจ้า พอดีเลยได้ใช้ตอนไปเที่ยวเขาค้อช่วงปีใหม่เนี่ยแหละ อิอิ





กินข้าวเสร็จมีเดินย่อยต่ออีกหน่อย เหมือนจะเห็นว่าแผนกกระเป๋าในห้างลดราคานี่นะ เราก็ว่าจะหาแบบดูดีสักใบ แบบว่าเบื่อเป๋าผ้าที่ถืออยู่แล้วล่ะ บางทีถือไปประชุมแล้วมันดูไม่ค่อยดีเท่าไร เผื่อเอาไว้ไปเทรนที่มาเลช่วงเดือนกุมภาด้วย (บริษัทส่งไป) ก็เลยดูเรื่อยๆไป ไม่คิดว่าจะเจอใบที่ถูกใจหรอก แต่ก็ดันเจอซะงั้น มันคงเป็นพรมลิขิตที่เธอดลใจให้ฉันมาเจอเธอชิมิ 555 น้ำเน่าซะมิมีอ่ะ







ใบนี้เห็นมันแขวนโชว์อยู่แล้วปิ๊งเลย แบบว่า เฮ้ย ดูดีว่ะ แต่ราคาค่อนข้างเว่อร์ไปหน่อย ถ้าจำไม่ผิดราคาเต็มตามป้ายนี่ประมาณ 3,000 เลยนา แล้วก็ลดตามโปร แต่พนักงานบอกว่าใช้แต้มบัตร cc ลดได้อีกเราก็เลย ok สรุปว่าได้มาราคา 1,882.5 ตามใบเสร็จเลยจ้า

เซ็งนิดหน่อยตอนที่เขาบอกว่าไม่มีของใหม่ เราเลยได้ตัวโชว์มา คนขายก็บอกว่านี่ก็พึ่งแกะมาโชว์วันนี้เองค่ะ อืมจ้ะ พูดมาให้ฉันรู้สึกดีขึ้นก็บอกมาเหอะ เหอๆๆ

สุดท้ายถึงจะไม่ได้ไปมาเล (เพราะว่าท้องซะก่อน) แต่กระเป๋านี่ก็ยังใช้อยู่นะ ตอนไปเที่ยวปีใหม่ก็เอาสะพายข้างไป ลุยถึงบึกบึน เปียกน้ำก็ยังไม่เป็นไร ตอนช่วงเดือนพฤษภาที่คุณชายเธอได้ไปเมกายังหนีบไปด้วยเลยจ้า แบบว่าเธอไม่มีเป๋าเล็กใส่ passport ติดตัว เราเลยให้ยืมไปอ่ะ จะว่าไปก็อิจฉามันนะเนี่ย ได้ไปเที่ยวตั้งไกลแน่ะ

ส่วนเวลาทำงานก็เอาน้องน้ำตาลมาใช้จ้า ทุกวันนี้กลายเป็น everyday bag ไปแล้วเพราะวันหยุดก็ใช้ แบบว่าขี้เกียจย้ายของอ่ะ นอกจากบางวันเมื่อยมากก็จะขุดเอาเป๋าผ้ามาเปลี่ยนกะกันมั่ง ตอนนี้น้องน้ำตาลเริ่มผุแล้วอ่ะ เริ่มจากหูกระเป๋าก่อนเลย ขอบซีลเริ่มร่อนแล้วจ้า เราก็ไรแว้ เริ่มเสื่อมสภาพเร็วไปป่ะ อุตส่าห์คาดหวังให้มันอยู่คงทนนานกว่านี้นะ แต่ก็ยังใช้ต่อไป ดูดิ๊ว่ามันจะร่อนไปอีกแค่ไหน เหอๆๆ

เบื่อกระเป๋าหนังเทียมก็ตรงนี้แหละ ตอนใหม่ๆดูสวย แต่ใช้ได้ไม่นานก็เสื่อม ส่วนหนังแท้ถึงจะคงสภาพได้นานแต่ก็หนัก ใส่ของเยอะไปหิ้วไม่ไหวอีก เอิ่มมม ช้านควรทำอย่างไร หาคนมาถือกระเป๋าให้ดีมะ อิอิ

Review: Cutepress Juvena Eye Cream

ได้โปรลดครึ่งราคาทั้งทีต้องจัดเต็มซะหน่อย เคยใช้รุ่นกระปุกแดงแล้วชอบ ก็เลยอยากลองรุ่นนี้บ้าง คิดเอาเองว่าแพงกว่าน่าจะดีกว่าสิ (ราคาเต็ม 499 ลดครึ่งนึงจ้า)




ถ่ายกล่องชัดๆยากมากเพราะว่ามันสะท้องแสง สรุปว่าเธอเคลมว่าเป็นสูตรอ่อนโยนปราศจากน้ำหอมและแอลกอฮอ อ่าาา เข้าทาง

เนื้อครีมมาแบบบ้านๆมาเลย สีขาว ไม่มีกลิ่น แต่เนื้อเบากว่ารุ่นกระปุกแดง ทาแล้วรู้สึกเหลวกว่า ต้องนวดสักพักถึงจะซึม

ช่วงที่ยังนอนได้เต็มคืน เจ้าครีมนี้ก็พอช่วยได้อยู่ รอยคล้ำจางลงบ้าง แต่ตอนนี้ตื่นบ่อย บางคืนก็นอนไม่หลับ ทาถู eye cream เท่าไรก็ดูไม่มีประโยชน์ เหอๆๆ สิ่งเดียวที่หวังคือให้ผิวใต้ตามันเรียบขึ้น จะได้ลง concealer ได้ง่ายหน่อย

แต่ก็นะ ตอนนี้ใช้คอนอะไรก็เอาไม่อยู่ ลงให้สบายใจขึ้นนิดนึงว่าชั้นปกปิดแล้วนะ มิได้ปล่อยให้ดูโทรม อิอิ

ขอ comment เรื่องบรรจุภัณฑ์นิดนึง แบบว่าจะทำใหญ่ไปมั๊ยอ่ะ หลอดขนาดนี้ใส่ได้ถึง 30 กรัม เลยน้า ทั้งที่ให้มาแค่ 15 กรัมเอง เบื่อพวกห่อใหญ่แต่ของน้อยอ่ะ จะให้มันเปลืองวัสดุทำไมน้อ ทำหลอดพอดีกับสินค้าก็ได้นะ เราว่าหลอดเล็กดูน่าใช้กว่าอ่ะ นี่รวมถึงทุกสิ่งอย่างเลยนะ แชมพู ครีมอาบน้ำ น้ำยาซักผ้าอะไรพวกนี้ด้วย เสียดายขวดใหญ่เกินของอ่ะ

ถ้าเราทำเครื่องสำอางเองคงมีแต่ห่อจุ๋มจิ๋มแน่เลย เพราะว่า
1. ประหยัดวัสดุ
2. ดูน่าใช้ มีกำลังใจจะใช้ให้หมดมากกว่าหลอดใหญ่ คนขี้เบื่ออย่างเราไม่ชอบใช้อะไรนานๆด้วยสิ
3. น่าจะทำราคาได้ย่อมเยากว่า
4. เชื้อเชิญให้คนที่ไม่เคยลองได้ง่าย ประมาณว่าลองดูสิ ไม่แพงมากนะ ไม่ชอบก็ไม่ต้องใช้นาน อิอิ

สมมติขายๆไปแล้วรายการไหนขายดีค่อยจัดโปรแบบซื้อ 2 แถม 1 หรือซื้อ 2 ถูกกว่า อะไรงี้
ฝันไปไกลเลยเรา อิอิ

ส่วนเจ้าตัวนี้ สรุปว่าไม่ซื้อต่อนะจ้ะ เพราะว่าไม่ได้ปลื้มเท่าไร เห็นผลไม่ชัดเจน ขนาดเราทาเช้าเย็นมิได้ขาดมาเป็นเดือนแล้วนะ อาจจะเป็นช่วงที่นอนไม่พอจริงๆด้วยแหละ แต่ว่าพอไม่มีน้ำหอมก็เลยไม่ชอบกลิ่นเคมีซะด้วยสิ แถมตอนนี้ยังมีกระปุกแดงกะรุ่น aqua ตุนไว้รอแล้วด้วยสิ อิอิ

Review: OP Natural Power C Serum

รายการนี้ซื้อมาเพราะอยากลอง ตั้งแต่รุ่นเดิมและ แต่ยังไม่มีจังหวะซื้อ พอถึงโปรวันเกิดคราวนี้เลยจับยัดมันลงไปจนได้สิน่ะ อยากรู้ว่าที่มันแพงกว่าน่ะ ดีกว่าจริงรึเปล่า






เนื้อเซรั่มคล้ายๆแบบขวดปั๊มเลย กลิ่นก็เหมือนกัน แต่เวาลาทาแล้วรู้สึกว่าแบบหลอดจะมันกว่า เหมือนมีออยมากกว่า ส่วนเรื่องความกระจ่างใส อันนี้ไม่แน่ใจเพราะใช้แค่ไม่ถึงหลอดก็ต้องหยุด เพราะเรามาเจอว่ามันมี retinol ที่เป็นของต้องห้ามสำหรับคนท้องจ้า แต่ก่อนหน้านั้นก็เอามาทาแขนอยู่ด้วยความไม่รู้ เน้นเฉพาะรอยกระ มันก็ดูน้อยลงนะ ยิ่งทากันแดดทุกวันก็ยิ่งช่วยไม่ให้รอยกระใหม่ตามมารังควานได้อยู่

สรุปว่าแพงกว่า แต่ก็ไม่แน่ใจว่าดีกว่าแค่ไหน ก็คงไม่ซื้ออีกแล้ว อยากขาวก็คงหา whitening ใช้จริงจังไปเลยดีกว่า ส่วนอีกสามหลอดที่เหลือก็ไม่ต้องน้อยใจนะจ้ะ เดี๋ยวพ้นช่วงอันตรายไปแล้วก็จะเอากลับมาทาถูแน่นอน อิอิ

ปล. ราคาเต็ม 685 ลด 25% เหลือ 513.75 จ้า

วันศุกร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2557

Review: OP Lip Cherish (02 Strawberry Sorbet)

นับเธอเป็นหนึ่งในรายการที่ "ต้องซื้อ" เลยทีเดียว แบบว่าเบอร์ 3 ที่ซื้อมาก่อนหน้าก็ชอบนะ แต่ว่ายังติดใจมาตลอดว่าสีชมพูมันเป็นยังงัย ก็เลยต้องให้มันมาอยู่ด้วยกัน เดี๋ยวน้องส้มจะเหงา อิอิ






พอปาดสีที่หลังมือแล้วให้ความรู้สึกคุ้นเคย เอ๊...หรือเราจะมีโทนนี้แล้วหนอ ก็เลยหยิบ l'oreal Miss Strawberry มาเทียบรัศมีกันหน่อยซิ ผลปรากฏว่า...

อืมมมม จะว่าคล้ายมั้ยล่ะ แต่ดูสีของ op จะแปร๋นกว่านะ เวลาลงปากจริงก็เห็นสีสดชัดขึ้นใช้ได้เลยแหละ


สรุปว่า ก็ชอบนะ ทาง่าย สีชัด อาจจะแปร๋นไปนิดแต่รับได้ แท่งเล็กพกพาสะดวก แต่แพคเกจดูเรียบไปหน่อย ออกแนวผู้ใหญ่ (มากกกก) แต่เปิดมานี่สีแหววเป็นสาวน้อยเลย อิอิ ราคาก็ไม่แพงเลย แค่ 155 ลดวันเกิดอีก 25% เหลือ 116.25 เอง แต่คงไม่ซื้ออีกแหละ เพราะว่าตอนนี้เริ่มหันมาบ้าลิป เริ่มมีเยอะขึ้นๆจนจะไม่มีที่เก็บแว้ว