Review: Utip Lip Pink

ซื้่อเพราะอยากลองเลยเธอว์ แบบว่าของมันราคาไม่แพงก็เลยตัดสินใจซื้อง่ายๆ
package น่ารักตามเคยอ่ะ แพ้ลายน่ารักแบบนี้ด้วยจิ
ไม่เชื่อเหรอ ดูเลยละกัน

พอถ่ายรูปนี้เสร็จก็เป็นหายนะของมันเลยอ่ะ
เอะใจตั้งแต่ตอนหมุนขึ้นแล้ว ทำไมมันมีรูอยู่ข้างๆ
พอหมุนลงปุ๊บ มันไม่ลงอ่ะ แง๊.... ทำไงดีฟระเนี่ย
พยายามกดลง เนื้อลิปก็นิ่มมาก หักกลางตรงที่เป็นรูเลยแหละ
T_T เศร้าใจ กว่าจะกดลงไปหมด เละไปเลยอ่ะ
เวลาใช้ต้องค่อยๆหมุนขึ้น แล้วก็ค้างไว้อย่างนั้นแหละ
เพราะมันก็หมุนไม่ลงแล้วทีนี้

ส่วนเนื้อลิปก็ขาว นิ่ม อย่างที่่ว่าไปแล้ว (ลิปหรือเต้าหู้เนี่ย อิอิ)
เวลาทาแล้วจะเป็นสีชมพูอ่อนๆ อยู่บนปากเราดูไม่ออกหรอก
เพราะว่าปากเราแดงมาก ทาแล้วก็ดูแดงขึ้นเท่านั้นเอง
ก็เลยลองทาลงทิชชู เออ...ลิปสีขาว แต่ปาดแล้วเป็นสีชมพูใสๆแบ๊วๆ
น่าร็อคมากอ้ะ อิอิ

และที่ชอบมากๆก็คือ มันเคลือบปากเหมือนนีเวียสีน้ำเงินเลยอ่ะ
คือกะจะเอามาทาเปลี่ยนสีเล่นสนุกๆ ปรากฎว่ามันชุ่มชื่นดีซะด้วย
ปลิ้มอ่ะ ปลื้มที่สุด

ราคาก็ไม่แรงเลย 50 บาทเอง
ตัวนี้ได้มาจากเดอะมอลล์(โคราช) นู่นเลยจ้า

ถ้าหาซื้อไม่ยาก คิดว่าคงซื้อต่อนะ แต่ตัวนี้ก็ซื้อมาจากแดนไกลเลยทีเดียว
ไปหาซื้ออีกทีไม่รู้จะซื้อที่ไหนแล้วเนี่ย

มันเหมาะที่จะใช้เป็นลิปมันกลางวันอย่างเดียว
กลางคืนก็คงต้องนีเวียเหมือนเดิม ที่จริงก็อยากใช้ตัวนี้ทั้งกลางวันกลางคืน
ตามประสาคนขี้เห่อ อิอิ
แต่กลัวสีมันเลอะหมอนแล้วเราก็นอนทับไปมาเนี่ยดิ

Review: Utip Tint Tint Jelly (Light Cherry)

ไม่ได้ตั้งใจซื้อสักหน่อย เธอตามเรากลับมาบ้านเองนะ อิอิ
แบบว่าไปหยิบ magic lip สีแดง แล้วก็เจอตัวนี้อยู่ใกล้ๆกัน
พอหยิบมาดูปุ๊บ ได้เรื่องเลย เลือกไม่ถูกเลยกรู เอาอันไหนดีฟระ
อย่ากระนั้นเลย เอามาทั้งคู่แล้วกัน 2 อันก็ 150 บาทเอ๊งงง

ที่จริงรุ่นนี้มีสองแบบสองสี
อีกอันเป็น tint tint creamy สีชมพูน่ารักเชียะ
แต่ท่าทางจะหาซื้อยาก เลยขอหยิบเอาตัวนี้มารีวิวตัวเดียว

ส่วน magic lip ไปตามล่ามาได้ครบทุกสี
ก็ว่าจะรีวิวไปพร้อมๆกันซะเลย
เอ้าหนู โชว์ตัวซิ

เป็นงัยล่ะ สีน่ากินชิมิ
ว่าแต่ นี่มัน light แล้วเหรอ สีแป๋นมากอ่ะ
แถมออกชมพู ไม่แดงเชอรรี่สักติ๊ด
อ้อ เธอมีวิ๊งด้วยนะฮะ ทาลงปากงี้ประกายเห็นแต่ไกลเลย
แต่มันก็สวยดีนะ อิอิ

แต่ทาแก้มไม่โอเท่าไร
แบบว่าเวลาผ่านไป สีมันจางเป็นจุดๆ ดูไม่สม่ำเสมอกันอ่ะ
ที่ทาปากนี่ก็ว่าเข้มแล้วนะ
แต่เดี๋ยวเจอ magic lip สีแดงจะแรงกว่านี้อีก

แต่ ไม่รู้สิ คิดไปเองว่าถ่ายรูปออกมาแล้วมันก็ดูโอเค ไม่น่าเกลียดนะ
ไม่เคยเห็นตัวเองทาลิปสีจัดๆซะที ลองดูก็ดีเหมือนกัน
เอาไว้ทาข้างใน แล้วทากลอสใสทับข้างนอกก็สวยนะ
เป็นสีแบบ ombre 5555

เหมาะมากสำหรับวันไหนที่ขี้เกียจแต่งหน้าเยอะ
แค่ปัดแก้มเบาๆ ปาดทิ้นตัวนี้ที่ปาก ตามด้วยลิปมันก็โอเคและ

ความติดทนเหรอ เกือบเท่าเจลบลัชเลยแหละ
แบบว่าถ้าใช้นิ้วเกลี่ย สิก็จะติดอยู่ที่นิ้ว ถึงแม้ที่หน้าจะเริ่มจางแล้วก็ตาม 5555

เวิ่นมาเยอะ สรุปว่า?
ไม่ซื้ออีกแล้วจ้า อ่าววว..
ไม่ต้องแปลกใจ เราชอบทิ้นท์ที่ใช้ได้ดีทั้งแก้มและปากอ่ะ
แต่ตัวนี้สวยที่ปากอย่างเดียว บนแก้มไม่ดีเท่าไร
ตอนแรกว่าจะตามหาสีชมพูมาลองด้วยเลยยังลังเล
แต่คิดว่าคงไม่เอาแล้วดีกว่า

เห็นหลอดเล็กๆอย่างงี้ เราก็ใช้นานนะจ้ะ ปีนี้จะหมดมั้ยเนี่ย
กรุลิปก็เริ่มแน่นและ ใช้อันไหนก็ไม่หมดซะที 5555
เจ้าตัวนี้มีดีที่ถูกและสีสวยและหลอดน่ารัก เอาไป 3 เต็ม 5
ส่วนอีกสองหักที่มันไม่ติดทนบนแก้ม
แถมยังมาติดทนที่นิ้วล้างไม่ออกซะงั้น
ถ้าไม่ตั้งใจล้างนี่ ข้ามคืนยังเห็นสีจางๆอยู่เลยนะเธอว์ เอากะมันสิ

Review: Scentio Wheat Smoothing Facial Mask

อยู่ๆก็อยากได้ mask อย่างรุนแรง
ไม่ใช่แค่ของเก่าใกล้หมดเต็มที แต่บังเอิญไปเห็นของใหม่ที่กะลังโด่งดัง
มันคือ "มาส์คเต้าหู้" Tofu Moritaya
หน้าตามันก็เป็นแบบเนี้ย

ชอบรูปเด็กผู้หญิงมากอ่ะ ลายเส้นง่ายๆแต่ดูน่ารักดี
อยากลองใช้มากจนเกือบจะกดสั่งในเว็บแล้วอ่ะ รอเวลาเหมาะๆอยู่
ไปๆมาๆ ใจร้อน รอไม่ไหวและ เลยหารีวิวมาส์คอื่นๆไปพลางก่อน
อ่านไปอ่านมา เอ๊ะ ร้าน beauty buffet นี่มีมาส์คเยอะเลยแฮะ
แต่ละกลิ่น น่าใช้มาก กลิ่นนม ข้าว น้ำผึ้ง สตรอเบอรรี่ อะไรงี้
เยอะจนยังเลือกไม่ถูก วันที่ไปซื้อนี่เลยตั้งใจว่าจะเปิดดมมันทั้งร้านเลย
ชอบอันไหนก็เอาอันนั้นมาแหละ อิอิ

แล้วเราก็ทำอย่างนั้นจริงๆนะ แล้วก็เลือกกลิ่นข้าวมา
ที่จริงก็ชอบหลายกลิ่น น้ำผึ้งก็หอม แต่ไม่มีมาส์ค มีแต่สครับ
กลิ่นนมก็โอเค กลิ่นเหมือนครีมอาบน้ำที่เคยใช้
แต่จะซื้ออย่างเดียวมาลองก่อนเลยยังไม่เอา

คนขายก็อุตส่าห์ psycho ไม่รับสครับด้วยเหรอคะ ควรใช้คู่กันนะคะ
ตอนนั้นไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เอาอันนี้อย่างเดียวจบ เข้าใจป่ะ!
ได้ของมาแล้วคันมือมาก อยากไปลองเดี๋ยวนั้นเลย เหอๆๆ
มาดูหน้าตากันหน่อย

ดูสีมันซะก่อน ขาวนวลเนียนน่ากินมาก...เอ๊ะ ยังงัย
ถึงบ้านรีบล้างหน้าอย่างไว อยากลองของมากกกกกกก

ปาดครั้งแรก ควักมาน้อยไปหน่อยเลยปาดบางๆ และก็ทิ้งไว้แป๊บเดียว
แบบว่าต้องไปกินข้าวก่อนอ่ะนะ
แค่ทดสอบว่าไม่แพ้ก็โอเค

แต่หลังจากกินข้าววันนั้น และเกือบทุกวันหลังจากนั้นเป็นเวลา 1 อาทิตย์
เราใช้เจ้านี่พอกหน้าทุกวันเยย แบบว่าไม่ค่อยจะเห่อ 5555

พึ่งมาเห็นที่ฉลากแฮะ ว่าเค้าให้ใช้คู่กับสครับ ไม่เป็นไร ลองใช้ตัวนี้ไปเรื่อยๆก่อน ถ้าหลังจากหยุดยาคุมแล้วยังไม่แพ้ ก็ว่าจะไปถอยเพิ่มอยู่ อยากได้กลิ่นน้ำผึ้งด้วย หอมดี

เวลาทามาส์คลงไปแล้วต้องเกลี่ยเร็วหน่อย มันค่อนข้างจะแห้งเร็ว แต่ไม่เป็นไร ถ้าแห้งก็ควักทาเพิ่มได้ ชอบอยู่แล้ว อิอิ พอเกลี่ยเสร็จแล้วหน้าขาววอกเลยทีเดียว ทิ้งไว้สัก 5 นาที มาส์คก็จะเริ่มแห้งแบบ matte finish ถ้าเอานิ้วแตะๆก็จะไม่เลอะติดมือ เราก็ปล่อยไว้อย่างน้อย 15 นาที แต่ถ้าเล่นคอมอะไรงี้ก็ยาวล่ะ อิอิ

ทุกครั้งที่ล้างออก เราจะรู้สึกว่าหน้าเนียนขึ้น และขาวขึ้นนิดๆด้วย อันนี้ทดลองกะหลังมือมาแล้ว พอกไว้ข้างเดียว พอล้างออก ข้างที่พอกไว้มันดูเนียนและขาวกว่า จับแล้วก็รู้สึกว่าเนียนกว่า

แต่ผลลัพธ์มันไม่คงทนหรอกนะ รู้สึกหน้าขาวเนียนได้แป๊บๆก็มันแผล่บเหมือนเดิม 5555

พอทำหลายวันติดกัน เราก็รู้สึกตัวเองหน้าขาวขึ้นนิดๆนะ ทั้งที่ไม่ได้ใช้ whitening อะไรทั้งนั้น

บางทีก็พอกไม่ใช่ว่าอยากหน้าเนียนหรอกนะ ชอบกลิ่นมาส์คอ่ะ ชอบดมเรื่อยๆ กลิ่นมันอ่อนที่สุดในบรรดามาส์คในร้านนี้แล้ว และก็หอมแบบที่เราชอบด้วยสิ แต่บางทีดมมากๆก็รู้สึกเหมือนกลิ่นสบู่เหมือนกันนะ

แล้วมันเกี่ยวอะไรกะเต้าหู้ปุกนั้นด้วยอ่ะ

เกี่ยวดิ เพราะเราชอบเอามาส์คข้าวของเรา มามโนเอาเองว่ามันคือกลิ่นเต้าหู้ 555 แหม สีก็คล้าย กลิ่นก็ขอคล้ายมั่งเหอะ ไอ้เต้าหู้นั่นมันแพงกว่าเยอะ เอาอันนี้ไปแทนแล้วกัน หาซื้อง่ายกว่าเยอะเลย

เจ้านี่เป็นอย่างแรกเลยมั้งที่เราหาของทดแทนแล้วชอบมาก ไม่เสียใจงอแงอยากได้ของ(ที่อยากได้)จริงอีกเลย ที่ผ่านๆมาเราหาของแทนแล้วไม่ชอบ ต้องไปหาของที่เล็งไว้ทีแรกอยู่ดี เสียตังค์สองต่อครับท่าน เหอๆๆ

ซื้ออีกมั้ง โอ้วเยส แน่นอน แน่นั่ง แน่ยืนเลยอ่ะ ถ้าหยุดยาแล้วยังใช้ได้ ไม่แพ้ ต้องมีสครับและมาส์คกลิ่นอื่นๆตามมาแน่นอน แต่ยังงัยก็ชอบกลิ่นนี้ที่สุดอ่ะ

ปล. ซื้อมาราคาเต็ม 195 บาทเลยอ่ะ แบบว่ายังไม่ได้สมัครสมาชิกเพราะยังไม่รู้จะซื้ออะไรและยังไม่มีตังค์ด้วย 5555

Review: Lifeford Hi-precious Eye Pen

ซื้อตามคำชมคนอื่นอีกและ ก็มันอยากลองเนอะ
เขาว่ากรีดง่าย เล้นเล็ก คมสวย ดำสนิท ไม่เลอะ ไม่เลือนระหว่างวัน
โอ้ว อะไรมันจะ perfect ขนาดน้าน
พอเจอตัวจริงเลยต้องขอพากลับบ้านซะหน่อย ฮี่ๆๆ

ราคาที่ซื้อมา ตามป้ายเลยนะจ้ะ

 

 

ตอนลองขีดหลังมือครั้งแรกก็แบบ โอ้ววว จ๊อดดดดด เส้นเล็กได้อีก แบบว่าชอบนะ เส้นเล็กกว่าของ etude และมาจอที่ใช้อยู่อ่ะ 

 

ไหนๆก็ซื้อมาพร้อมกัน ถ่ายรูป & รีวิวไปพร้อมกันเลยนะ

เป็นงัย ดูไม่ออกล่ะซี้ ว่ากรีดตาหรือยัง อ่าว...

หูฟังน่ารักอ่ะ ก้านมันสั้นไปหน่อย แต่ก็ไม่ได้เป็นข้อเสียอะไร แค่ยังไม่ชินเฉยๆ เสียงก็โอเค เหมือนมันจะไม่ค่อยชอบเบสนะเพราะที่กล่องเขียนว่าเป็น treble booster ตอนแรกที่เสียบเครื่องเลยเราก็ไม่รู้ว่าปรับ eq ไว้แบบไหน แต่น่าจะหนักเบสเพราะว่าเสียงมันแตกๆ เราเลยต้องปรับ ipod เราให้เป็นเสียง flat ไว้ก่อน

ส่วนเจ้า eyeliner นี่ อืมมม พอกรีดลงตาจริงๆแล้วมันยากกว่ากรีดที่หลังมือเยอะเลยอ่ะ เพราะว่ามันไม่มีที่หมุนเหมือนของมาจอ แล้วน้ำหมึกออกมาไม่ค่อยสม่ำเสมอ ต้องเขียนไปย้ำไป ไม่สนุกเท่าไรอ่ะ

แต่เส้นเล็กจริงนี่ยอมรับเลย อย่างในรูปงัย กรีดได้เป็นธรรมชาติมาก ดูเหมือนไม่ได้กรีด 555

ลบง่ายด้วย remover จริงๆน้ำเปล่าก็ออกนะ แต่ต้องขัดถูนิดหน่อย ไม่แนะนำให้ใช้อ่ะ เดี๋ยวหนังตาเหี่ยวหมด

ระหว่างวันไม่เลอะจ้า หนังตามันไม่มาก เท่าที่ใช้มาเป็นแบบ liquid eyeliner ทั้งหมดก็ไม่เลอะนะ

สรุปว่า
กรีดง่าย - ก็ไม่ง่ายเท่าไรนา ต้องกรีดไปเรียกหมึกไปเนี่ย
เล้นเล็กคมสวย - อันนี้จริงจ้า
ดำสนิท - อันนี้ก็จริง แต่ต้องย้ำหน่อยนะ ไม่งั้นจะดำจางๆ
ไม่เลอะ - กรีดไม่เท่ากันก็ใช้ remover ลบได้ ไม่เลอะเทอะไปทั้งหน้าจ้า
ไม่เลือนระหว่างวัน - สำหรับเราไม่เลือนนะ

คะแนน 3.5 เต็ม 5 ละกัน ข้อสามมันถูกครึ่งเดียว อิอิ

ซื้ออีกมั้ย เอ่ออ คิดว่าไม่นะ ตอนแรกก็อยากจะลองยี่ห้ออื่นไปเรื่อยๆ แต่คิดไปคิดมา กลับไปหามาจอดีกว่า ล้างยากกว่ายี่ห้ออื่นแต่ควบคุมหมึกได้ง่ายสุด หาซื้อง่ายด้วย etude ถูกกว่า เขียนง่าย แต่ก็ขี้เกียจสั่งเว็บ หมึกแห้งเร็วมากๆด้วย ใช้แแป๊บๆก็แห้งและ eyeliner เป็นของที่เราใช้ไม่บ่อย (เพราะว่าขี้เกียจนั่งเล็งเวลาเขียน) จะซื้ออีกทีก็เอาของดีๆดีฝ่าเนอะ

ครอบครัว utip ในที่สุดเราก็...หากันจนเจอ

ถึงกับต้องตามล่าเลยทีเดียว เบื่อการตลาดเธอไปเลย คิดได้งัยเนี่ย แต่ละที่วางขายสินค้าคนละสี ไม่เชื่อลองดู chart นี้ดิ เอามาจากเว็บเขาเลยนะเนี่ย

เราเลยแทบบ้า วิ่งตามหามันไปทุกที่ อาศัยโอกาสเหมาะๆแล้วก็รวมมาทีละ 1 2 3 4 อ่าาา ครบทุกสีและ

นี่พูดถึงลิปกรอสเขานะ แบบว่าอ่านรีวิวแล้วอยากลอง ได้มาลองสีแรกแล้วชอบ เลยตามหาสีอื่นๆมาให้ครบ ที่กล้าซื้อเพราะมันถูกอ่ะ แท่งละ 75 บาท เลยพลอยได้ทิ้นท์เจลกับลิปมันเปลี่ยนสีมาด้วย รวมกับเจลบลัชทั้งหมดก็เป็นเจ็ดสาวน้อยพอดี

เอ้า! ทั้งหมดโชว์ตัวหน่อย

สี่ศรีพี่น้องที่ทำให้เราลำบากตามหา...ก็คนมันอยากได้อ้ะ
01 sweetie peach พีชอ่อน ลงปากแล้วไม่เห็นสี
02 sweetie berry ชมพูบ๋องแบ๋ว
03 tangy organge ส้มนัวๆ สวยดีนะ
04 red cherry แดงได้โล่ห์ แตะนิดเดียวสีชัดเหมือน tint เลยแหละ

ส่วนแถวบนที่เพิ่มขึ้นมาอีกสามตัวก็คือ
(เรียงจากซ้ายไปขวานะฮ๊าฟฟฟฟฟ)
เจลบลัชสีชมพู
ลิปพิงค์ ลิปมันแต่ทาแล้วเป็นสีชมพูอ่อนๆ
ทินท์เจล สี light cheery ชมพูมีวิ๊ง

เดี๋ยวคงจะรีวิวตามมานะจ้ะ แต่ไม่ใช่บล็อกถัดไปแน่ๆเพราะว่ายังมี item ค้างเติ่งรอรีวิวอีกนิดหน่อย อุอิ

Review: Cutepress Aqua Relief Natural Hydrating Night Jelly

ชอบมากกกกกกกกกกกกก พวกเจลๆเนี่ย
ตอนเห็นใน catalog ครั้งแรก แทบพุ่งออกไปซื้อ ณ บัดนั้น
พอสบโอกาสชวนคุณหญิงแวะดูของ เลยต้องสอยมาลองซะหน่อย
อ่ะ เปิดตัวกันเลย

ตอนแรกเรานึกว่าจะเป็นเจลเหลวๆ คล้ายพวกเจลว่านหางที่เราใช้อยู่ซะอีก ปรากฎว่า มันไม่ใช่เลย เนื้อเจลจับตัวกันแน่น แต่ก็ควักออกมาไม่ยากนะ เกลี่ยลงหน้าก็ไม่ยาก และที่ประทับใจมากก็คือ มันทำให้หน้าดู matte มากๆอ่ะ แบบว่าทากลางคืนนี่ไม่ต้องทาแป้งปกปิดความเหนียว นอนได้เลย สะดวกดี

แต่!!! ถ้าเอามาใช้กลางวันคงไม่ค่อยเหมาะ เพราะว่าถ้าลงตัวนี้เป็นตัวบำรุง แล้วตามด้วยรองพื้นหรือบีบีอะไรก็แล้วแต่ มันจะพาให้สิ่งที่ทาทับมัน เป็นขุยหมดเลย!!!! T_T ง่าาา

หวังว่าจะให้หน้าแมทสุดๆซะหน่อย ดันเป็นขุยซะนี่ เคยลองลงตัวนี้ก่อน ตามด้วยเจลว่านหางทับ ก็ยังเป็นขุยอีกนั่นแหละ ถึงจะไม่มากเท่าแต่มันเสียเวลาต้องมาปัดขุยออก

เอาเถอะ ถือว่าเราใช้ผิดจุดประสงค์เอง เพราะที่กล่องก็บอกว่าให้ใช้กลางคืน ทาทับครีมบำรุงอื่นๆเพื่อเก็บความชุ่มชื่นให้อยู่กับหน้า หรือเอามาแช่ตู้เย็นแล้วทำ mask หน้าก็ได้นะ คงจะสดชื่นสุดๆไปเลย อยากลองเหมือนกันแต่ตู้เย็นอยู่ไกลเลยไม่เอาดีกว่า อิอิ

แต่รวมๆแล้วก็ปลื้มนะ เจ้าตัวนี้ไม่มีน้ำหอม สี หรือแอล ตัดตัวการทำหน้าแพ้ไปได้เยอะเลยทีเดียว คิดว่าผิวแพ้ง่ายก็น่าจะใช้ได้นะ

ส่วนเรื่องความชุ่มชื่นนี่วัดผลไม่เป็น บอกไม่ได้อ่ะ เอาเป็นว่าใช้ตัวนี้รวมกับหลายๆตัวแล้วหน้าไม่แห้งจากการกินยาคุมละกัน ก่อนหน้าจะใช้ตัวนี้ หน้าเริ่มแห้งลอกเป็นจุดเล็กๆ สองสามจุดแล้วอ่ะ ตอนนี้หน้าไม่แห้ง แต่งหน้าไม่สะดุดจ้า

ซื้ออีกมั้ย อืมมม น่าสนใจมั่กๆ ถ้าไม่มีครีมบำรุงอื่นใดแล้วก็คงใช้ตัวนี้แน่นอนล่ะ เราว่ามันง่ายดี แค่ทำให้ผิวชุ่มชื่นก็พอ เดี๋ยวความใสจะตามมาเอง...เหรอออออออ...อิอิ

ราคาเต็ม 299 ซื้อเพราะได้โปรลด 40% จ้ะ

Review: Cutepress White Complete Schizo Yeast Eye Cream

Eye Cream ตัวแรกของหลายปีมานี้เลยมั้ง
แบบว่าเลิกเชื่อถือไปนาน คิดว่าทาครีมทั้งหน้าแล้วก็คือทาใต้ตาเหมือนกัน
แต่พอเวลาผ่านมา เราอดนอนบ่อย เผลอแป๊บเดียว มีถุงดำแปะใต้ตาซะและ
พอมีโปรลด 40% งี้ เลยขอกลับมาใช้บ้างอะไรบ้าง
อย่างน้อยขอผลทางใจละกันฟระ เหอๆๆ

เนื้อครีมค่อนข้างหนักเลยนะ กระปุกก็เล็ก แทบควักไม่ขึ้นแน่ะ แต่พอลูบใต้ตาไปเรื่อยๆแล้วมันลื่นๆผิวดีอ่ะ คือชอบผลสัมผัสมันน่ะ ทาคืนแรกพอตื่นมาก็รู้สึกว่าความคล้ำลดลงนิดนึง เหมือนมันช็อค ไม่เคยเจอครีมต่อต้านโดยตรงล่ะมั้ง พอทาคืนถัดๆมาก็เฉยๆและ พยายามทาเยอะๆเช้าเย็นเลย เผื่อรอยที่หางตาจะดีขึ้นมั่ง เหอๆๆ

เอาไว้หมดกระปุกแล้วจะมาสรุปผลอีกทีนะ จะลองคิดดูว่าจะซื้อต่อรึเปล่า โดยเฉพาะถ้ามันไม่ได้ผลเนี่ย มันจะแพงไม่สมราคาเลยแหละ ต่อให้ลดมากมายก็เหอะ

++++++++++++++++++++++
กลับมารายงานผลเพิ่มเติมจ้า
ตอนนี้ใช้หมดกระปุกแว้ววว ไม่น่าเชื่อ เป็นครีมที่ใช้หมดเร็วมาก ปรกติใช้ทั้งหน้าก็ไม่หมดเร็วอย่างงี้

แบบว่าอันนี้ควักทาๆ ครั้งละเยอะๆเลยอ่ะ อยากรู้ว่าจะมีอะไรเปลี่ยนไปบ้างไหม

สรุปว่า...

รอยคล้ำไม่ได้ลดลง รอยตีนกาน้อยๆก็ยังอยู่

อ่าว เสียดายตังค์อีกแล้วสิงานนนี้

แต่!!! มันมีดีที่ ทำให้ผิวเรียบเนียนค่ะคุณ

พอใช้ครีมตัวนี้ติดต่อกัน มันช่วยให้แต่งหน้าง่ายขึ้นมากมายอ่ะ
ลง concealer ได้ไม่เป็นคราบแย้ว

เอาอีกมะ? อืมมม ไม่อ่ะ เราหวังผลเรื่องรอยคล้ำกับรอยหางตา แต่มันไม่ช่วยอะไรเลย ก็เลยไม่รู้จะมีกรรมกะมันต่อไปทำไม เอาไว้ได้ตัวอื่นมาลองแล้วจะมาอวดใหม่นะ อิอิ

Shopping ยังชีพ

ขาดการช้อปคงขาดใจแน่เรา
นี่ว่าจะไม่ๆๆๆๆ ก็ยังซื้อๆๆๆๆ
ดูดิ มีอะไรโผล่มาเพิ่มมั่งเนี่ย

cutepress ส่ง sms มาตาม ให้เราไปใช้สิทธิลงคะแนน เอ้ย ได้ลด 40% วงเงิน 4000 แน่ะ แต่กะลังอยู่ในช่วง(เงินทอง)ขาลง ก็เลยไม่รู้จะเอาอะไร  ของตัวเองได้มาเท่านี้แหละ ส่วนอีกสองรายการที่เห็นในใบเสร็จเป็นของคุณหญิงเจ้าค่ะ

white radiance ตลับนี้ประทับใจมาก เป็นรุ่นเดียวของยี่ห้อนี้เลยมั้งที่เราใช้แล้วไม่หมอง ถึงแม้จะไม่คุมมัน ระหว่างวันอาจจะเป็นคราบ แต่สีแป้งมันผ่อง เอาไว้ใช้เป็นรองพื้นแบบฝุ่นก็ไม่เลวนะเธอว์ ว่าแล้วก็เอาตลับ refill มาเก็บสำรองซะดีๆ เหอๆๆ

เดินพาราไดซ์แบบจนๆเจียมๆ ยังมิวายได้ซื้อของ ก็ดันมีแผงขายคสอ.มาสะดุดตาเค้าเองนี่นา  อยากลอง eyeliner ตัวนี้มาตั้งนานแล้ว แต่หาซื้อตามร้านเขียวร้านขาวไม่ได้เลยจนเลยมาได้จากแผงนี้แหละ คนขายติดป้ายลดราคาชัดเจนมาก 5555

ส่วนหูฟังนี่ก็เริ่ด หามานานแล้ว แต่ยังไม่ถูกใจซะที อันนี้ถูกใจและถูกราคาด้วย อ้อ รับประกันตั้ง 6 เดือนเชียวนะเธอว์

เซ็ตสุดท้าย สดๆร้อนๆวันนี้นี่เอง แบบว่า mask ที่ใช้อยู่จะหมดจริงๆแล้ว เหลือพอใช้อีกครั้งเดียวเองมั้ง ก็เลยดูรีวิวแล้วก็ตัดสินใจว่าของร้าน beauty buffet น่าสนใจที่สุด เลยไปเปิดดมทุกกลิ่นในร้าน แล้วก็ได้ตัวนี้มาจ้า ส่วนอีกสองหลอดนั่นมันอะไร ลักลอบหนีเข้าบ้านเรามาเฉยเลย เหอๆๆ

เนื่องจากรีวิวที่ทำงานไม่ได้ อยู่บ้านก็ขี้เกียจ ก็เลยได้แต่ถ่ายรูปๆๆเอาไว้ เพราะจะรีบเอาของไปใช้ก่อน ย้อนกลับมาดูอีกที อั๊ยหยาาาา รูปเต็มไปหมดเลี้ยว ยังไม่ได้รีวิวสักแอะ ก็เลยเอามารวมมิตรกันลืมไว้ก่อน เดี๋ยวจะมีรีวิวเดี่ยวทีละอย่างตามมานะเธอว์ บางทีเราก็อยากลองใช้ของสักพักแล้วค่อยมารีวิว จะได้เป็นรีวิวจริงๆ ไม่ได้เป็นพรีวิวแล้วมาโม้ อิอิ