วันอาทิตย์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2556

Review: Softymo Super Cleansing Cream Hyaluron

งงเลย หยิบติดมือมาได้งัยเนี่ย อิอิ
อารามรีบร้อนอีกแล้ว มากับครอบครัวก็แบบนี้ทุกที
เลยไม่ได้ไปซื้อ freshel สุดรักเลย ร้านมันอยู่ไกลจากซุปเปอร์ด้วยล่ะ
ท้อปส์นี่ก็ไม่ธรรมดา ของเยอะเกือบเท่าร้านเขียวแล้ว
เราเลยได้อันนี้มา เห็นว่าเป็น cleansing cream ไม่มีน้ำหอมและสี
อย่างนี้ก็ต้องลองกันหน่อย
ปล. ราคาก็พอรับได้ 210g. = 220 บาทจ้า


ลองประสิทธิภาพกันหน่อย ปัดบลัช pixie pink, etude eyeliner, ข้างบนเป็นกันแดดซีเอ+บีบีเคท ข้างล่างเป็นทิ้นท์ยูทิป กับลิปเหลวของ in2it ปาดครีมลงไป เบลนๆทุกอย่างรวมกันแล้วก็นวดๆแป๊บนึง พอไปล้างออกแล้วก็ยังเหลือตามที่เห็นรูปที่สี่ล่ะ ในรูปไม่ค่อยชัดเท่าไร ขอเฉลยว่ายังเหลือกันแดดกับทิ้นท์อยู่จ้า
ยังไม่สะใจ ลองหน้าจริงเลยแล้วกัน list มาแล้วตามรูปว่ามีอะไรอยู่บนหน้าบ้าง ก็บีบครีมแล้วก็ละเลงๆนวดๆไปเลย เนื้อครีมค่อนข้างเหลวเทียบกะ freshel นะ ไม่มีกลิ่นเลย ไม่รู้สึกยุบยิบหรือระคายหน้าอะไรทั้งนั้น นวดสบายหน้าดี เอาสำลีชุบน้ำเช็ดออกแล้วก็ตามด้วยเจลล้างหน้าอีกรอบ ผลออกมาตามที่เห็นนี่แหละจ้า
เหมือนรูปไม่ค่อยเห็นความแตกต่าง แต่เท่าที่ตาเห็น น่าจะล้างกันแดดออกหมดนะ เทียบกับใช้ครีมอย่างเดียว ของอย่างนี้มันต้องลองไปอีกสักพัก ถ้าใช้ไปเรื่อยๆแล้วมีสิวอุดตันขึ้นเรื่อยๆ ก็แสดงว่ามันเอาเครื่องสำอางออกไม่หมด แต่ถ้าสิวอุดตันไม่ขึ้นก็รอดไป เหอๆๆ

สมมติว่าถ้าใช้แล้วดี จะซื้ออีกป่ะ...เอ่อ ก็ขอคิดดูก่อนนะ อาจจะซื้อเมื่อเวลาจำเป็นเช่นวันนี้ แบบว่าไม่สามารถพาตัวเองไปซื้อ freshel ที่ร้านเขียวได้เพราะว่ารีบ ก็อาจจะเอาตัวนี้ใช้ไปก่อน ราคาเต็มเทียบกะ freshel แล้วถูกกว่า แต่เนื้อครีมเหลวกว่า คาดว่าต้องใช้เปลืองมากกว่า ยังงัยแล้วขอดูที่ประสิทธิภาพมันก่อนแล้วกัน ของมันต้องดูกันยาวๆ อิอิ

+++++++++++++++++++++++++
Review: Softymo Super Cleansing (H) C

Previously, I'd been using Freshel cleansing cream and so in love with it. It cleans my makeup well, doesn't leave my face sticky and doesn't clog pores. The problem is, it had been repackaged around beginning of the year 2013 and I couldn't find it anywhere. Though I found it later on the shelf but I don't want it anymore because I already got a replacement.

I found this item in Boots with many of its friends in other lines. As I tried to crack down the code (H) C, I think (H) stands for Hyaluron and C stands for type C which is makeup remover only. How about A and B? If I don't get it wrong, A is cleansing only, and B is cleansing + makeup remover. Isn't that type B is more valuable? Well, if you said so. I've read a review about the type B and the reviewer said she didn't like it that much because it's not perform well either cleansing or makeup removing. So I'd better separate these two.

Let's see how well it can do. I put on some pigmented makeup on the back of my hand, they are powder blush, eyeliner, sunscreen, lipstick and lip tint. Then I rubbed the cream over them and washed off with water. The final result is everything is al...most gone. Except the lip tint which is too durable to wash out with anything. I have to wait at least a night to get it off.

So far I have used it for months and pleased with its effectiveness. Turns out that the result is the same as Freshel with a lot cheaper price (Freshel is around 450b. / 250g but Softymo is around 220b. / 210g). So why pay more? The only drawback is I have to use it with the cotton pad. Anyways, never forget to cleanse your face after makeup removing too. I find it works well with my face because acnes don't show up on me anymore, only once in a while now.

Repeat buy? Definitely!!! It becomes a regular makeup remover on my shelf and I'll use it as long as I can find it in stores.

วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556

Review: In2it Gel Blush (Raspberry)

ยี่ห้อนี้อีกและ อย่าพึ่งเบื่อนะจ้ะ แบบว่าซื้อคนละที

แต่กรี๊ดมากๆค่ะตัวนี้
เห่อสุดๆขนาดซื้อมาปุ๊บ พอถ่ายรูปเสร็จ ลองใช้เสร็จ ต้องรีบมารีวิวเลยทีเดียว
ตอนแรกก็เข้าไปเดินร้านเขียวเล่นๆหรอก ดันเห็นเธอ อ๊ะ re-package มานี่นา
เมื่อก่อนเธอเป็นแบบนี้

เดี๋ยวนี้เธอเป็นแบบนี้
ตอนแรกที่เห็นเราก็ เฮ้ย ใช่ป่าวหว่า พอเอา tester มาแตะๆดูก็เออ ใช่ว่ะ สีน่ารักดีด้วย ยังมีสามสีเหมือนเดิม ชื่อสีเหมือนเดิมด้วย เราก็เลยเล็งแล้วเล็งอีก กลัวหยิบพลาดง่ะ อยากได้สีแดงจริงๆ


เอาทิชชูมายัดในกล่องนิดนึง จะได้เห็นส่วนผสมชัดๆ สรุปว่าเจอ al.denat. อีกแล้ว ชีวิตนี้เราหนีมันไม่พ้นจริงๆ
มีวันหมดอายุด้วยนะยะ เก๋มั้ยล่ะ

ดูในหลอดสีมันเข้มน่ากลัวเนอะ แต่พอแตะดูแล้วแบบ สีน่ากินมาก ดูเป็นเจลแต่ไม่ข้นไม่เหลวเกินไป สีก็แดงถึงจะไม่แดงสะเด็ดอย่างที่คิดไว้เพราะมันอมชมพูนิดๆ แต่ก็รับได้อ่ะ
เกลี่ยแล้วก็จะแดงประมาณนี้
ดูแต่หลังมือนึกภาพไม่ออก ดูหน้าจริงเลยดีกว่า พักนี้เหมือนจะเจอกันแดดสมูทอีอุดตัน หน้าเลยสิวโผล่เรื่อยๆและ อนทนดูหน่อยนะ แต่วันนี้ใช้บีบีเคท แป้งเด็ก แป้ง snow (no.2) แล้วเอาแป้งยูทิปไปตบระหว่างวัน ส่วนบลัช ตอนแรกลงบลัชครีมเคท+orgasm ไปก่อน พอไปวัด ต่อด้วยไปห้าง กลับมาบ้านมันก็เริ่มจืดจางและ หน้าดูมันนิดหน่อยเราก็เลยซับหน้า ตบแป้ง แล้วก็เอาเจลบลัชน้องใหม่แต้มๆกดๆทับไปเลย ปรากฎว่าออกมาเยี่ยงนี้แล...
นี่ก็ลงไม่น้อยนะ ลงไปสองรอบเพราะรอบแรกถ่ายรูปออกมาแล้วดูจางไปหน่อย เลยเติมอีกนิดแล้วถ่ายรูปซ้ำ อืมมมม ค่อยดูเข้าท่าหน่อย สีน่ารักมากอ่ะ มันแดงสวย อมชมพูนิดเดียวพอให้ดูแบ๊วๆ เติมปากด้วย lip butter สีแดงน้ำตาลเข้าไปล่ะเป๊ะ เข้ากันมาก ดูแล้วปลื้มมาก แบบว่านั่งดูสีแก้มตัวเองตั้งนาน แล้วค่อยมารีวิวนี่แหละ อิอิ

เอาล่ะ ได้สีแดงสมใจอยากและ ตอนแรกจะลอง maybelline cheeky glow (fresh coral) แต่มันออกชมพูเข้มมากกว่าแดงเลยไม่เอา และอีกอย่าง มันลดราคาอยู่ด้วยล่ะ เหลือ 149 อีกแล้ว แต่ว่าเจ้าเจลบลัชของเราก็ลดราคาเหมือนกัน ราคาเต็มเท่าไรหว่า 139 มั้ง แต่สายตามันเห็นแต่ตัวเลข 109 เลยหยิบมาอย่างไม่ลังเล 5555

ส่วนรายการอื่นๆก็ดูอยู่นะ มาจอบลัชน้ำที่ออกใหม่ก็น่ารัก ลองแตะนิดเดียวสีออกมากกว่าเจลบลัชอีก แต่ก็แพงกว่ามาก 350 เอาไว้รอลดราคาก่อนแล้วจะลองคิดดูอีกที

ส่วนอีกอย่างที่เล็งไว้คือ eyeliner pen แต่ว่าไม่มียี่ห้อไหนลดเลย ก็เลยยังไม่ซื้อเหมือนกัน ว่าแต่ maybelline hyper sharp น่าสนมั่กๆ เส้นเล็ก ดำคมชัดดี แต่แพงนะ 350 หรืองัยเนี่ย แท่งนิดเดียวเอง ขอไปหาข้อมูลให้แม่นๆก่อนว่าใช่ตัวนี้รึเปล่า จริงๆแล้วเราอยากได้ lifeford แต่หาไม่เจอ ขี้เกียจถามคนขายด้วยเลยไม่ได้ซื้อยี่ห้ออื่นเลย อดทนใช้จิ้มจุ่มไปก่อนละกันนะ ถึงแม้มันจะอยู่ได้แค่ครึ่งชั่วโมงก็เป็นรอยแตกๆตรงหัวตาแล้วก็ตาม เอาไว้กรีดออกมากินข้าวขำๆ หรือกรีดเล่นฝึกฝีมือไปเรื่อยๆละกันเธอว์

ถามปิดท้าย ซื้ออีกมั้ยอ่ะ โอ้วววววววววว แน่น้อลลลลลลลลล ล้านปูเซ็ง แบบว่าอยากได้ทุกสีเลยอ่ะ ถ้าไม่ติดว่ายูทิปยังใช้ไม่หมดล่ะกวาดมาทุกสีแล้ว ไม่เป็นไร เจลบลัชสีส้มยังไม่มี อยากให้เจออีกเดี๋ยวจะตามไปสอย อิอิ เอามาทาทับแป้งได้ ไม่เป็นคราบด้วยนะ แค่นี้ก็ประทับใจจะแย่แล้ว อิอิ

+++++++++++++++++++++++
Review: In2it Get Blush (Rasberry)

Been wanted this item since it was in the old package, because it was discounted too! But I couldn't find it anywhere so I had to let it go.

Later on, I saw it comes back on the shelf again, with the new package! I had to stop myself so bad not to get all the colors (there are red, pink, and orange).

So I only got the red one since I don't have any red blush before. Now it's time to get my cheeks 'blushing.'

The new package makes it easier to apply and the product blends well, distributing even color on my face. Now I look so blushed!

However, when it is half left, I find it harder to apply. The color is not blend well and sometimes it even ball-up a little bit. I guess it might be the result of evaporation. Maybe the package cannot keep the product well throughout its life span.

But I still use it sometimes when I need soft red cheeks. The Nars in exhibit a is too strong and requires a lot of attention when applying. This one is always better in applying.

Repeat buy? Guess it's the yes. I'm still looking to get the pink one too. But let me use this one up first. (Not to mention countless powder blushes I have ;)

วันเสาร์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2556

Review: In2it Liquid Lipstick

ซื้อมาแบบงงๆ ด่วนๆ อีกเหมือนกัน ประมาณว่า หิวข้าวและ เอามาเหอะ จะได้ไม่ต้องเก็บมาคิดมากอยากซื้อทีหลัง อะไรงี้ เหอๆๆ

ตอนแรกที่ลองนู่นที่อยู่ก็ไม่ได้สนใจอะไรเป็นพิเศษหรอก เห็น tester มันใหม่ น่าเล่นก็เลยหยิบเรื่อยเปื่อย อิอิ แต่มาสะดุดเอาเจ้าลิปพวกนี้ เรานี่ก็ เลิกซื้อไม่ได้เลยเนาะ พอเลิกซื้อบลัชก็หันมาสะสมลิปสติก เดี๋ยวพอเบื่อก็อาจจะกลับไปซื้อบลัชอีก แกร๊...แกมีกี่หน้าหา จะเอาไปทำะไรเยอะแยะนักยะ เก็บเงินเอาไว้ก่อนดีกว่ามั้ย เหอๆๆ

เอาเป็นว่า เราประทับใจที่สีมันน่ารัก และมันเหนียวแบบ เฮ้ย amazing! น่าจะติดทนบนริมฝีปากแน่ๆ เพราะแท่งหลังๆที่ซื้อมาจะเป็นแนวชุ่มชื่น ทาแล้วปากไม่ลอกแต่ว่าสีก็อยู่ไม่ทน อะไรเง้ เราต้อง differentiate สิ เอาเนื้อลิปแบบติดทนนานมาลองมั่ง (ลงเอยที่ความอยากช้อปอยู่ดี 5555)

เจ้านี่มันมีทั้งหมด 5 สี แต่เราชอบสามสีแรกคือชมพูแบ๋วๆ ชมพูตุ่นๆ แล้วก็น้ำตาล(น่าจะ)นู้ด ส่วนอีกสองสีมันเข้มไป ขอละไว้ก่อนน่ะ ก็ยืนตัดสินใจพักใหญ่ จะเอาสามสีก็ยังไม่รู้จักกัน ไม่รู้ว่าเนื้อลิปมันเป็นยังงัย เลยต้องเลือกพากลับบ้านตัวเดียวก่อน แต่อาฆาตไว้ว่าถ้าชอบจะกลับมาสอยเพิ่ม 555 ก็ราคามันน่ารักดีเนาะ แท่งละ 169 เอง ที่มาเลก็ 16.9 ริง เท่ากันเลยง่ะ






กรุณาดูสีบนหลังมือเดี๊ยนชัดๆนะฮะ สีมันดูชมพูสุภาพ งามดีเนอะ แต่พอดูรูปถัดไปแล้วอย่าตกใจล่ะ เหอๆๆ
เป็นงัยล่ะ เราเตือนคุณแล้ว 5555 เราทาเองยังตกใจเลย แบบว่า เฮ้ย!!!! ทำไมมันนู้ดมากมายเงี้ย สีมันแบบคนละทางกะบนหลังมือเราเลยอ่ะ ยิ่งทาครั้งแรกลงหนามาก ดูแปลกไปเลยอ่ะ เหมือนคนไม่มีปาก 5555 มันดูแกลๆยังงัยไม่รู้ ไม่ชินหน้าตัวเองแบบเนี้ย อิอิ

หรือว่าจริงๆแล้วมันเป็นลิปเปลี่ยนสี บนผิวหนังสีนึง บนผิวปากอีกสีนึง ไม่เชื่อก็ดูในทิชชู่ได้นะ เทียบสีตามที่เขียนไว้ได้เลย ขนาดอันล่างนี่ทาบนปากเราว่าเข้มประมาณนึงแล้ว พอซับลงทิชชู่มันแพ้ลุ่ยเลย

หลังจากนั้นเราก็เล่นเมามันเลยลองทาผสมกันมั่วไปหมด สรุปว่าพอจะเอามาดรอปเจ้าอีทูดี้สีส้มแจ๋ได้อยู่ จับคู่กันแล้วออกมาดูดีใช้ได้ ส่วนถ้าจะลงเดี่ยวๆ ต้องใช้วิธีแทปๆเป็นจุดๆที่ริมฝีปากบน แล้วก็เม้มไปเรื่อยๆจนกว่ามันจะเนียนนะจ้ะ อย่าแตะเยอะเดี๋ยวปากหาย 555

อีกเรื่องที่ประหลาดใจมาก คือเนื้อลิปมันเหนียวม๊ากกกกก นึกว่าเอากาวมาทาปาก ดีที่ยังอ้าปากกินข้าวได้ไม่งั้นต้องไปให้หมอแงะปากออกแน่ๆ เหอๆๆ คือรู้นะ ว่าอยากให้ติดทน แต่มันไม่ชินอ่ะ กว่าจะเช็ดออกแต่ละทีนี่ต้องอดทนหน่อย ไม่งั้นจะถูปากแดงเลย ใครอยากเอาไปทำ how to  ซ้ำๆ ติดต่อกันล่ะไม่แนะนำตัวนี้อย่างแรงเลย เดี๋ยวแสบปาก อิอิ

ที่จริงก็พึ่งเปิดใช้ไปไม่กี่ครั้ง อาจจะยังไม่ชินกะมันจริงๆ น่าจะลองใช้ไปเรื่อยๆก่อน ไว้ถ้าความรู้สึกมันเปลี่ยนแล้วค่อยมาเม้ามอยอีกรอบละกัน

แต่ถ้าถามตอนนี้ว่าซื้ออีกมั้ย เอ...ไม่แน่ใจเลยอ่ะ อยากซื้อตอนที่มีโปรแบบ 1 แถม 1 อะไรงี้ได้มะ จะได้ไปเหมาอีก 4 สีที่เหลือ ณ จุดๆนี้ยังไม่กล้าซื้อเพิ่มเลย แต่เราก็นะ เดี๋ยวเจออะไรถูกใจกว่านี้เดี๋ยวก็ซื้อมาอีกแหละ เหอๆๆ

++++++++++++++++++++++++++

Review: In2it Liquid lipstick

I never interested in this brand before until it re-packaging most of its products. That's how it caught my eyes. It came out right when I was looking for a nude lipstick. So I picked this color. The other colors are pink, brown, dark red and bright red (no orange tone, to my surprise). I don't want to admit that I want all colors at first I saw them. ;)

The claim on the package said 'shines like a gloss, covers like a lipstick.' I only agree with the latter. It don't shine at all. Actually, it gives matte finish on my lips. The product is quite sticky and difficult to blend well. So if you have dried lips, make sure you apply the lip balm first. However, if you put it in the right amount, it can blend evenly.

But!!! the color is too nude for me. Sadly that I can't use this one alone. I tried to apply it a very little amount to drop down my original lip color but it didn't look good on me. However, the product covers my original lips and the color is quite durable. If you don't touch your lips with anything so often, it can stay for hours without re-applying.


So I changed my mind as I thought I would get other colors too because of it's stickiness. But I still recommend it for those who are looking for the long staying power from a lipstick. With it's reasonable price, around 169 baht, you may find it useful for you.

Review: In2it Lash Conditioning Mascara

ได้มาแบบงงๆเลยอ่ะตัวนี้ คือเห็นโฆษณาของร้านเขียว ซึ่งมันมาเปิดแถวบ้านเราแล้ว ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ว่า In2it มีลดราคาเจลบลัช ซึ่งเราอยากได้สีแดงม๊ากกกกกกกก แต่ยังข่มใจไม่ซื้อ มาตะบะแตกตอนกลับมาจากเที่ยวแล้ว ไม่ไหวและ ตรูต้องไปตามหามาให้จงได้ นี่ลงทุนไปสาขาใกล้ที่ทำงานก่อนเลยนะ กะว่าถ้าไม่มีในร้าน อาจจะมีในโลตัส แต่สรุปว่าไม่มีทั้งคู่ เลยขับรถมาเยี่ยมสาขาใกล้บ้านต่อ

ซึ่งก็ไม่มีเหมือนกัน มันไม่มีแบบไม่มีวางขายเลยนะ ไม่ใช่ของหมดด้วย อ่าว...เซ็งแหงวเลย แล้วมันลงโฆษณาทำไมฟระ มากูเกิ้ลดูีหลังก็เหมือนจะเป็นสินค้าเก่าแบบมีขายมาหลายปีแล้วอ่ะนะ มันอาจจะลดล้างสต็อกแล้วเอาของใหม่มาลงก็ได้ (หวังเป็นอย่างยิ่งอ่า)

แต่อารมณ์ที่อยู่ในร้านตอนนั้นมันว้าวุ่นอ่ะ อยากได้ๆๆๆ พลันสายตาเหลือบไปเห็นเจ้านี่พอดี เฮ้ยยย item นี้ตูก็อยากได้ ถึงจะเป็นยี่ห้ออื่นก็เหอะ อิอิ
ซ้ายมือสุดมิใช่คสอ.นะจุ๊ แต่มันคือพิมเสน ไปเดินโลตุ๊ดพักใหญ่ได้แต่หนมปังกะไอ้เนี่ย 555 แบบว่าเราเคยใช้ยี่ห้อนี้ แล้วจะได้ว่ามันหอมๆดีก็เลยซื้อมา เพราะว่าอันเก่าหายไปไหนไม่รู้ พอได้อันใหม่มา อันเก่าก็โผล่กลับมาทันที แหม่ สงสัยมันอิจฉากัน เหอๆๆ แต่อันนี้รู้สึกไม่หอมเหมือนคราวก่อนแฮะ แต่ก็เอามาใช้ที่ทำงานแหละ เราก็ติดยาดมมากอ่ะ มีไว้ที่ละอัน ที่หัวเตียง ที่ทำงาน ในกระเป๋าถือ ป้ามั้ยล่ะ เหอๆๆ




ราคาก็ไม่เว่อร์กว่า etude นะ (เห็นในเว็บขายประมาณ 140 บาทมั้ง) แต่ดูหลอดเล็กกว่ามากกก อิอิ ดูส่วนผสมแล้วก็น่าจะไม่เป็นไร น่าจะใช้ได้ (เป็นหมอซะเองเลยตรู) มีเคราตินเหมือนพวกยาเคลือบเล็บยังงัยไม่รู้ เหอๆๆ
เนื้อมันเป็นเจลใสๆ เวลาเอาแปรงจิ้มจุ่มแล้วเหมือนเยลลี่ดึ๋งดั๋งน่ากิน 555 พอเอามาปาดๆบนขนตาก็เหมือนจะแค่เคลือบๆ ไม่ค่อยติดเท่าไร แบบว่ามันยังเป็นหยดกลมๆเล็กๆ ค้างอยู่บนขนตานิดหน่อยอ่ะ แต่เราอาจจะปาดเยอะไปก็ได้
ดูตามฉลากก็เหมือนจะมีแอล แต่เราลองแล้ว แบบไม่ได้ตั้งใจ คือชอนไชมากไปหน่อยมันเลยทิ่มตาอ่ะนะ แต่ว่าก็ไม่แสบนะ คิดว่าคงมีไม่เยอะอ่ะ
แล้วงัยอ่ะ ซื้ออีกป่ะ ...อืม...ก็น่าสนนะ เพราะอีทูดี้ต้องซื้อในเว็บอ่ะ อันนี้มันหาง่าย ราคาก็สูสี คุณภาพก็คงไม่ต่างกัน (มั้ง) แต่ว่า...ตามเคย...กว่าจะใช้อันนี้หมดคงอีกนานโฮก รอไปเรื่อยๆ ก่อนนะจ้ะ

ปล. พึ่งสังเกตุว่าตั้งแต่เริ่มใช้มาสคาร่าเนี่ย ขนตายาวขึ้นจริงจังเลยนะ เมื่อก่อนกุดมาก แต่ตอนนี้ดีขึ้นเยอะ แบบดัดขนตาเปล่าๆก็พอเห็นแล้วว่ามันงอนขึ้น แต่งอนไม่ทนอ่ะ แป๊บๆก็ลงและ เหอๆๆ ก็จะลองดูล่ะว่าถ้าใช้แบบใสบ่อยๆมั่งเนี่ย ขนตาจะยาวขึ้นได้อีกป่าว
###############################
(update 07/04/2013)
หลังจากใช้บ้างไม่ใช้บ้างมาเกือบสามเดือน ผลปรากฎว่า...
ขนตายาวขึ้นนิดนึง เทียบกับก่อนใช้ ที่เห็นชัดกว่าคือขนตาล่างน่ะ
ยาวทะลุจอมากกกกกกกก โดนตาก็ไม่แสบตาด้วยล่ะ
มีอยู่ช่วงนึงขนตาร่วง แหว่งไปช่วงนึง ก็ลองเอาเจ้านี่ปาดเยอะๆบ่อยๆ
เออ...ได้ผลอ่ะ ลืมๆไปสักพักขนตาขึ้นมาเต็มและ
คิดว่าจะใช้ต่อเรื่อยๆนะ ถ้ายังไม่อยากใช้ยี่ห้ออื่นซะก่อน อิอิ

Review: L'oreal Miss Strawberry lipstick


ซื้อปีที่แล้ว แต่ยกมารีวิวปีนี้ละกันนะ
แบบว่าซื้อวันท้ายๆที่อยู่ กทม.เลยมั้ง อีกวันสองวันก็เอาไปตะลอนทัวร์ภาคเหนือ 1 อาทิตย์โลด

เราก็ ซื้อมาแบบไม่ได้ดูอีกและ มั่นใจไปเองว่ามันคือตัวตายตัวแทน Revlon Strawberry shortcake แต่ว่าเนื้อลิปดีกว่า อะไรไปนู่น


ในร้านเค้ามี tester ให้ลองทั้งคู่ ยังไม่คิดจะเอามาเทียบกันดูเนอะ กลับมาถึงบ้านแล้วค่อยเอามาเทียบกัน

คือจะบอกว่า ถ้าลองก่อนซื้อ อาจจะไม่ซื้อตัวนี้มาก็ได้

อ่าว....

จริงๆนะ แบบว่าสีมันไม่ถูกใจเท่าไรอ่ะ ไม่คิดว่ามันจะดูแปร๊ดขนาดนี้ ออกแนวเสร่อแบบแต่งหน้าไม่เป็น อะไรเทือกนั้น

แต่ว่า... ซื้อมาแล้วเนี่ยสิ ทำไงได้อ่ะ ก็ต้องใช้มันไปเรื่อยๆอ่ะ

แอบซื้อฮาดะมาตุน 1 ขวด ทั้งที่ขวดที่ใช้อยู่ก็ยังมีเกือบเต็ม แบบว่ามันอดไม่ได้จริงๆ ของมันลดราคาอยู่แล้ว แถมยังลดฉลองเปิดร้านอีก 10% ง่ะ








ซ้าย - Revlon Strawberry shortcake
ขวา - L'oreal Miss Strawberry


Strawberry เหมือนกัน แต่สีที่ได้ไม่เหมือนกัน เอ๊ะ ยังงัย
สรุปว่ายังชอบ Revlon มากกว่าอยู่ดีอ่ะ เพราะชอบโทนม่วง
 
ของ L'oreal มันดูเป๋อเหลอไปหน่อย ก็เอาไว้เวลาปัดแก้มชมพูอ่อนๆ แล้วปาดลิปตัวนี้ลงไปเต็มๆล่ะก็พอดูได้อยู่ หน้าสว่างสดใสดี ดูตัวอย่างได้ แอบถ่ายคนสวยมารูปนึง 5555
อันนี้ถ่ายที่เชียงใหม่เลยล่ะ ปาดลิป L'oreal เต็มที่เลย ถึงไม่ค่อยชอบแต่ก็เห่ออ่ะ ใช้เรื่อยๆ อิอิ

สรุปว่า...ไม่ซื้ออีกแล้ว เข็ด ไม่ใช่ว่าเธอไม่ดี แต่ชั้นแค่ไม่ชอบสีเท่าไรอ่ะ ส่วนเนื้อลิปดีอยู่แล้ว ทาลงปากเปล่าได้เลย ความติดทนก็ปานกลาง เหมือน lip butter แหละ โดนแก้วโดนช้อนหน่อยก็หลุดแล้ว ต้องทาใหม่เรื่อยๆนะ จะได้หมดเร็วๆ อิอิ


++++++++++++++++++++++++++

Review: L'oreal Lipstick Miss Strawberry

I have to admit that I'm so in love with this lipstick for another color I bought earlier. It's 'Miss Caramel' which the color is brown with pink undertone, I guess. It glides well on my lips and doesn't dry them too. Though the color is much the same as my original lips, I decided to keep it for a 'polite' makeup look.

Later on, when I checked out in watsons that the price was discounted from 399 to 318, plus I could use the collected member points for a little more discount. Finally, I decided to get another color with the price 288 baht.

At first, I thought the color will be much alike Revlon lip butter in Strawberry shortcake. I wished they could be the replacement, but I was wrong.

Well, they're both creamy and sweet color, but Revlon is more on cool tone (blue-based) , whereas L'oreal is more on warm tone. Now they made it hard to choose which one is more beautiful, don't you think?

Repeat buy? I think so. It's hard to find a moisturized lipstick which I can apply it alone without the lip balm. And the color is nice too.

วันจันทร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2556

Happy New Year 2013!

แต่ก่อน ไม่เคยชอบเลขนี้เลยจริงๆ ทั้งที่เราก็ไม่ได้นับถือคริสต์นะ แต่มันติดไปเองว่าพออะไรๆอยู่ที่เลขนี้แล้วมันจะไม่ดี

พอเข้าปีนี้จริงๆ กลับรู้สึกว่า ยังงัยก็ต้องอยู่กับมันอย่างน้อยไปอีก 1 ปี เราหลีกกันไม่พ้นแน่ ถึงไม่ชอบก็หยวนๆกันไปก่อนละกัน

เอาน่ะ เดี๋ยวเริ่มรีวิวบล็อกแรก จะมี 13 รูปพอดี แถมเมื่อเช้า ไปทำงานวันแรกของปีตอน 8.13 น. พอดีเลยนะ อิอิ

บล็อกนี้ถือเป็นการเริ่มต้นปี เอาภาพเปิดสวยๆมายลกันหน่อยละกัลลล