ซื้อมาแบบ ยังไม่รู้เลยว่ามันยี่ห้ออะไร เหอๆๆ
แต่เล็งร้านเค้ามานานและ อยากได้
แอบไปหยิบๆจับๆมาหลายที
แต่ไม่กล้าซื้อ กลัวเจ้าของร้าน เค้าดูแรงๆมากเลยง่ะ
กลัวแบบ ไม่ซื้อแล้วเค้าจะดุ แล้วก็คิดเอาเองว่าของเค้าแพงมากด้วย
อย่างใบที่ซื้อมา ตอนแรกคิดว่าจะเอาเราสักสองพันนู่นเลย
แต่คราวนี้ ต้องเอาแล้วล่ะ เจ้า Charles & Keith ที่ใช้อยู่
มันลอกตรงขอบๆแล้วอ่ะ มุมดำน่าเกลียดมาก
ใช้มาปีกว่าเอง ลอกซะและ
เบื่อที่ช่องมันน้อย ใส่บัตรได้ไม่จุใจเลย
เอ้า รวบรวมความกล้าได้แล้วก็ลุยเลย
"พี่คะ แบบซิปรอบมีกี่แบบคะ"
ปรากฎว่า พี่เค้าก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดนะ
เค้าแค่ตั้งใจขายมากๆเท่านั้นเอง
แล้วก็รักของมาก คงเพราะเค้าบอกว่าเค้ามีโรงงาน
ขายมาจากโรงงานโดยตรงเลย
จะหยิบดูอะไรต้องเค้าหยิบให้นะ
เราอย่าไปซี้ซั้วหยิบเอง
เดี๋ยวมันจะหล่นจากกองอ่ะ ไม่ใช่อะไร
เพราะของเค้าเยอะมากกกกกก
ก็คุยกันเพลินๆดี สรุปว่าได้ใบนี้มาจ้ะ
เหตุผลที่เลือกใบนี้เพราะ
หนังแท้ น่าจะทน พี่กุ้งบอกว่าใช้ได้เป็นสิบปี (จริงนะพี่ อย่างนี้หนูก็ไม่ต้องซื้อไปอีกสิบปีเลยจิ อิอิ)
สีชมพู ถูกโฉลกกับวันเกิดเรา และเราก็หามานาน สีชมพูที่เป็นหนังแท้นี่หายากมาก ส่วนมากมีแต่พวกสีน้ำตาล ก็เห็นแต่ที่ร้านพี่กุ้งเนี่ยแหละ
ช่องซิปอลังการมากกกกกก ตอนเค้าเปิดให้ดูนี่แบบ ประทับใจเลยอ่ะ เยอะม๊ากกกกกกก และยังมีช่องใส่บัตรข้างหน้าได้อีก
ตอนแรกก็ลังเลกับอีกใบที่เล็กกว่านี้หน่อย แต่ใบนั้นช่องเสียบบัตรเป็นแนวตั้งเหมือนใบเดิม และสีก็เป็นสีบานเย็น มันจะสดกว่าใบนี้มากหน่อย ซึ่งผิด concept ไปนิด ของเราต้อง "สีชมพู" ก็เลยเป็นใบนี้จ้ะ ถึงแม้ใบนั้นจะถูกกว่า 200 บาทก็ตาม
แล้วราคามันเท่าไรล่ะเนี่ย? ป้ายเค้าติดไว้ 1200 บาท โดยที่พี่กุ้งเม้าให้ฟังว่า โปโลจ้างเค้าผลิตแล้วเอาไปติดยี่ห้อเขา ขายอยู่ร้านข้างบนเนี่ย 2300 หนูไปดูได้เลย เคยมีลูกค้ามาบอกเค้าว่าเค้าซื้อโปโลมาแล้วมาเห็นพี่ขายแค่ 1200 พี่ก็บอกพี่ช่วยไม่ได้ (นั่นซิ จะให้ทำยังงัยได้อ่ะ)
แต่พี่เค้าใจดี ลดให้อีก เลยได้มาในราคา 1000 บาทถ้วนจ้า เจ้าใบเล็กนั่นถึงจะถูกกว่า แต่เราว่าเราจะชอบอันนี้มากกกว่านะ
ก่อนใส่ถุง พี่กุ้งมีการ QC โชว์ความทนทาน โดยการจุดไฟแช็คลวกกระเป๋าให้ดู จ๊ากกกกก! ตกใจอ่ะ แต่มันไม่เป็นอะไรเลยจริงๆนะ ขนาดลวกตรงขอบล่างที่หนังบางๆแล้วนะเนี่ย พอเราควักใบเก่ามาให้ดู พี่เค้าบอกว่าเนี่ย หนังพียู เนี่ยถ้าพี่ลวกอันนี้ล่ะมันหลุดเลยนะ เอามะ ไหนๆจะทิ้งแล้วเดี๋ยวจะทำให้ดู เอิ่มมมม -_-! พี่คะ ไม่เป็นไรค่ะ หนูทำใจไม่ได้ 5555
กลับมาบ้านก็เห่ออีกตามระเบียบ รีบควักของออกจากใบเก่า พาเข้าบ้านใหม่กันเลย โอ้โหววววววว สบายมาก ยังมีที่อีกเหลือเฟือเลยทีนี้ ใส่บัตรแพลตตินั่ม(ประตูน้ำ) ได้อีกสี่ซ้าห้าใบก็ยังไม่เต็มล่ะเธอว์ วุ้ยชอบ ถูกใจอ่ะ มันก็จะดูตุงๆขึ้นนิดหน่อย แต่ก็เป็นแบบนี้ทุกใบแหละ คิดซะว่า มีเงินตุงกระเป๋า อิอิ
พี่เค้าก็ยังเชียร์กระเป๋าถืออีกสองสามแบบ ซึ่งเราก็ชอบนะ มีแบบสะพายเล็กที่หน้าตาคล้ายเป๋าตังค์เราเลย สีเดียวกันด้วย แต่อันนั้นมันสองพัน เอ่ออ ตอนนี้พึ่งจ่ายบัตรไปอ่ะ ขอไปรวบรวมทุนทรัพย์ก่อนนะจ้ะ อิอิ แต่ก็อยากได้อยู่แล้วแหละ สมมติถ้าได้ไปเมืองนอกเมืองนาแล้วจะมาถอยแน่ๆ เอาของไทยไปโชว์ต่างชาติบ้างอะไรบ้าง จะได้ไม่ต้องปวดหัวพกใบเสร็จกระเป๋าถ้าจะถือแบรนด์เนมไป เอ่อออ พูดเหมือนมีเลยง่ะ อิอิ
แต่เล็งร้านเค้ามานานและ อยากได้
แอบไปหยิบๆจับๆมาหลายที
แต่ไม่กล้าซื้อ กลัวเจ้าของร้าน เค้าดูแรงๆมากเลยง่ะ
กลัวแบบ ไม่ซื้อแล้วเค้าจะดุ แล้วก็คิดเอาเองว่าของเค้าแพงมากด้วย
อย่างใบที่ซื้อมา ตอนแรกคิดว่าจะเอาเราสักสองพันนู่นเลย
แต่คราวนี้ ต้องเอาแล้วล่ะ เจ้า Charles & Keith ที่ใช้อยู่
มันลอกตรงขอบๆแล้วอ่ะ มุมดำน่าเกลียดมาก
ใช้มาปีกว่าเอง ลอกซะและ
เบื่อที่ช่องมันน้อย ใส่บัตรได้ไม่จุใจเลย
เอ้า รวบรวมความกล้าได้แล้วก็ลุยเลย
"พี่คะ แบบซิปรอบมีกี่แบบคะ"
ปรากฎว่า พี่เค้าก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดนะ
เค้าแค่ตั้งใจขายมากๆเท่านั้นเอง
แล้วก็รักของมาก คงเพราะเค้าบอกว่าเค้ามีโรงงาน
ขายมาจากโรงงานโดยตรงเลย
จะหยิบดูอะไรต้องเค้าหยิบให้นะ
เราอย่าไปซี้ซั้วหยิบเอง
เดี๋ยวมันจะหล่นจากกองอ่ะ ไม่ใช่อะไร
เพราะของเค้าเยอะมากกกกกก
ก็คุยกันเพลินๆดี สรุปว่าได้ใบนี้มาจ้ะ
เหตุผลที่เลือกใบนี้เพราะ
หนังแท้ น่าจะทน พี่กุ้งบอกว่าใช้ได้เป็นสิบปี (จริงนะพี่ อย่างนี้หนูก็ไม่ต้องซื้อไปอีกสิบปีเลยจิ อิอิ)
สีชมพู ถูกโฉลกกับวันเกิดเรา และเราก็หามานาน สีชมพูที่เป็นหนังแท้นี่หายากมาก ส่วนมากมีแต่พวกสีน้ำตาล ก็เห็นแต่ที่ร้านพี่กุ้งเนี่ยแหละ
ช่องซิปอลังการมากกกกกก ตอนเค้าเปิดให้ดูนี่แบบ ประทับใจเลยอ่ะ เยอะม๊ากกกกกกก และยังมีช่องใส่บัตรข้างหน้าได้อีก
ตอนแรกก็ลังเลกับอีกใบที่เล็กกว่านี้หน่อย แต่ใบนั้นช่องเสียบบัตรเป็นแนวตั้งเหมือนใบเดิม และสีก็เป็นสีบานเย็น มันจะสดกว่าใบนี้มากหน่อย ซึ่งผิด concept ไปนิด ของเราต้อง "สีชมพู" ก็เลยเป็นใบนี้จ้ะ ถึงแม้ใบนั้นจะถูกกว่า 200 บาทก็ตาม
แล้วราคามันเท่าไรล่ะเนี่ย? ป้ายเค้าติดไว้ 1200 บาท โดยที่พี่กุ้งเม้าให้ฟังว่า โปโลจ้างเค้าผลิตแล้วเอาไปติดยี่ห้อเขา ขายอยู่ร้านข้างบนเนี่ย 2300 หนูไปดูได้เลย เคยมีลูกค้ามาบอกเค้าว่าเค้าซื้อโปโลมาแล้วมาเห็นพี่ขายแค่ 1200 พี่ก็บอกพี่ช่วยไม่ได้ (นั่นซิ จะให้ทำยังงัยได้อ่ะ)
แต่พี่เค้าใจดี ลดให้อีก เลยได้มาในราคา 1000 บาทถ้วนจ้า เจ้าใบเล็กนั่นถึงจะถูกกว่า แต่เราว่าเราจะชอบอันนี้มากกกว่านะ
ก่อนใส่ถุง พี่กุ้งมีการ QC โชว์ความทนทาน โดยการจุดไฟแช็คลวกกระเป๋าให้ดู จ๊ากกกกก! ตกใจอ่ะ แต่มันไม่เป็นอะไรเลยจริงๆนะ ขนาดลวกตรงขอบล่างที่หนังบางๆแล้วนะเนี่ย พอเราควักใบเก่ามาให้ดู พี่เค้าบอกว่าเนี่ย หนังพียู เนี่ยถ้าพี่ลวกอันนี้ล่ะมันหลุดเลยนะ เอามะ ไหนๆจะทิ้งแล้วเดี๋ยวจะทำให้ดู เอิ่มมมม -_-! พี่คะ ไม่เป็นไรค่ะ หนูทำใจไม่ได้ 5555
กลับมาบ้านก็เห่ออีกตามระเบียบ รีบควักของออกจากใบเก่า พาเข้าบ้านใหม่กันเลย โอ้โหววววววว สบายมาก ยังมีที่อีกเหลือเฟือเลยทีนี้ ใส่บัตรแพลตตินั่ม(ประตูน้ำ) ได้อีกสี่ซ้าห้าใบก็ยังไม่เต็มล่ะเธอว์ วุ้ยชอบ ถูกใจอ่ะ มันก็จะดูตุงๆขึ้นนิดหน่อย แต่ก็เป็นแบบนี้ทุกใบแหละ คิดซะว่า มีเงินตุงกระเป๋า อิอิ
พี่เค้าก็ยังเชียร์กระเป๋าถืออีกสองสามแบบ ซึ่งเราก็ชอบนะ มีแบบสะพายเล็กที่หน้าตาคล้ายเป๋าตังค์เราเลย สีเดียวกันด้วย แต่อันนั้นมันสองพัน เอ่ออ ตอนนี้พึ่งจ่ายบัตรไปอ่ะ ขอไปรวบรวมทุนทรัพย์ก่อนนะจ้ะ อิอิ แต่ก็อยากได้อยู่แล้วแหละ สมมติถ้าได้ไปเมืองนอกเมืองนาแล้วจะมาถอยแน่ๆ เอาของไทยไปโชว์ต่างชาติบ้างอะไรบ้าง จะได้ไม่ต้องปวดหัวพกใบเสร็จกระเป๋าถ้าจะถือแบรนด์เนมไป เอ่อออ พูดเหมือนมีเลยง่ะ อิอิ