วันศุกร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2555

All my blushes

รีวิวติดกันมา 8 บล็อกรวด หาอะไรมาคั่นมั่งดีกว่า
เนื่องจากลาพักร้อนกลางสัปดาห์ เบรคตัวเองให้ห่างจากงานซะบ้าง หันมาทำงานให้ตัวเองมั่งดีกว่า

ขอโม้ก่อน กว่าจะได้แต่ละรูปนี่เหงื่อตกเลย ไม่ค่อยได้ทำอะไรแบบนี้ ไอเดียก็ไม่ค่อยจะมี ทำไปทำมาก็เกือบทั้งวันนะเนี่ย ว่าจะฟัง lecture stat ที่เรียนอยู่เลยไม่คืบเลย หนูขอพักสมองหน่อยนะคะครู อิอิ

อยู่บ้านว่างๆแล้วก็ฟุ้งซ่าน เดี๋ยวจะหาเรื่องช้อปปิ้ง ก็เลยเอาของที่มีอยู่มากองรวมกันซิ ทุกทีเปิดใช้แล้วก็เก็บ ไม่ค่อยได้เห็น ดูไม่อิ่มเลย จะได้หยุดคิดบ้างว่าหล่อนหมดกะของพวกนี้ไปเท่าไรแล้วเนี่ย









สิริรวมทั้งหมดก็ 15 ชิ้น กรี๊ดดดดดดดดดด
ไม่อยากจะนับเลยว่าเป็นเงินเท่าไร
ใครรู้ราคาก็บวกกันเอาเองเน่อ เค้าไม่ยุ่ง เค้าปวดหัว เค้าไม่ฉบาย
แต่ก็อดไม่ได้ ลองเคาะเครื่องคิดเลขเล่นๆดู
เดาๆราคาเอา รวมกันได้ 5,407 ประมาณนี้
โอ้ววววววว มายก็อดดดดด
เยอะได้อีก คนเรา

พอเหอะ ของถูกเนี่ยๆ
ไหนๆก็ใช้ไม่เปลืองแล้ว ตัดใจซื้อแพงๆ มาเถอะจ้ะ
ซื้อความดูดี และหวังว่าเนื้อบลัชจะดีกว่าพวกป๋องแป๋งนี่ด้วยอ่ะ

Review: Kate BB Gel Cream

ตัวนี้แหละ ตั้งใจไปซื้อมากกว่าบลัชครีมอีก
แบบว่าบีบีที่ใช้อยู่มันก็ดีนะ (รีวีวไว้ที่ http://katereview.blogspot.com/2011/08/review-freshel-white-c-mineral-bb-cream.html) แต่พึ่งรู้ว่าค่อนข้างหนา เพราะหน้ามันหน่อยก็เริ่มเหนียว เยิ้ม หนึบหนับซะแล้ว (อ่านแล้วรู้สึกหยึยๆมั้ยล่ะ)

พอตัวนั้นใกล้หมดก็เลยมองหาของใหม่ อีกละ จนนึกถึงเพื่อนเก่าที่เคยดูๆกันไว้ ซึ่งตอนแรกยังมีบีบีอื่นๆมากมายเลยไม่ได้คบกัน ตอนนี้กลับมาหารีวิว อืมมมม มันน่าสนใจมิใช่น้อย ตรงตาม concept ใช้ได้เลย ไม่เหนียวหนักหน้า คุมมันได้ประมาณนึง สีออกเนื้อเหลือง ราคาไม่เว่อร์ โอเค ตกลงใจและ เจ้าจงไปสืบเสาะเคาะหามา!

หน้าตาเจ้าหล่อนก็เป็นเช่นนี้แล
ซื้อมาพร้อมบลัชครีมนั่นแหละ อ้ายปุกเล็กมันขอตามมาด้วยเพราะว่าลดราคาอยู่ แล้วพี่ไม่สนหนูเหรอ เอาม๊าๆ...เอาสิน้อง 5555


ตัวหลอดเรียบๆ ไม่ดึงดูดสายตาเหมือนพวกยี่ห้อเกาหลีเลย blogger บางคนถึงกะดึงไปเป็นข้อเสีย แต่เราไม่คิดมากนะ ถ้าของข้างในดีก็โอเค เดี๋ยวมาบวกค่า package ตูอีกล่ะเบื่อเลย เหอๆๆ

เอามาเปรียบเทียบกะของเดิมซะหน่อย เดี๋ยวมันหมดแล้วไม่มีดู ตอนที่บีบออกมาแบบ ตกใจมาก เฮ้ยยย มันสีเดียวกันเลยง่ะ สงสัยมาจากเครือเดียวกันนิ (คาเนโบทั้งคู่ชิมิ)
น้องเคทอยู่บน สี (OC-B) หลอดเงินอยู่ล่าง (สี NB-Nude Beige) วางตามตำแหน่งหลอดเลยนะจ้ะ ขนาดเกลี่ยแล้วยังแยกสีไม่ออกเลย ให้ตายสิ
แล้วมันต่างกันตรงไหน?
นั่นสิ ตอนแรกนึกว่า เอิ่ม ตูจ่ายแพงกว่าเพื่อได้ผลลัพธ์แบบเดิมหรือเปล่าวะเนี่ย แต่พอหันมาเห็นนิ้วที่เกลี่ยทั้งสองบีบีนี้แล้วถึงได้คำตอบ

นิ้วที่เกลี่ย freshel มันเลอะมาก เนื้อครีมติดเลอะที่นิ้วพอสมควร ทั้งสีทั้งครีม เขรอะๆเต็มเลย ยิ่งถ้าเอานิ้วเกลี่ยทั้งหน้าก็ยิ่งเลอะเต็มนิ้วชี้และนิ้วกลางไปเลย ตอนนั้นไม่มีตัวเปรียบเทียบเลยไม่ได้สนใจ เลอะก็เช็ดไปดิ อะไรงี้

แต่!!! นิ้วที่เกลี่ยเคทเนี่ยสิ พลิกขึ้นมาดูแล้วแบบ เฮ้ย!!! (จะตกใจเยอะไปไหน) เกลี้ยงสะอาด เหมือนยังไม่ได้จับอะไรเลย คือมันแทบจะไม่เลอะนิ้วเลยอ่ะนะ อยากถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานแต่ไม่ค่อยถนัดมือที่จับกล้องเลยขอผ่านจ้า

โอเค ชัดป่ะ สำหรับเรามันจบที่จุดๆนี้เลยอ่ะ แบบว่า เออ คิดไม่ผิดที่ซื้อมา หยั่งงี้มันต้องลองใช้กะหน้าจริงหน่อยซิ
เป็นงัย เริ่ดป่ะ ขอกลับคำพูดตัวเองที่บอกว่าจะไม่ขอลงหนังหน้าที่มีแต่รองพื้นหรืออะไรแนวนี้ แต่พอดีรูปนี้ถ่ายไว้เพื่อเทียบกะรูปที่ลงบลัชครีม ซึ่งมันก็แทบไม่ต่างกันเลยระหว่างมีบลัชครีมหรือไม่มี ก็เลยเอามาลงบล็อกนี้ไปเลยดีกว่า

จริงๆแล้วตัว freshel ก็จะได้ look ประมาณนี้นะ เพราะสีเหมือนกัน แต่มันจะดูหนาๆหน่อย เหมือนที่หลายคนเห็นตรงกันแหละ เคทจะเป็น light to medium coverage ส่วน freshel จะเป็น medium to heavy

พอมีของใหม่มาเทียบเลยปลื้มของใหม่เป็นธรรมดา ได้สีหน้าสว่างไม่วอก และก็ดูเบาๆ ไม่โบ๊ะเว่อร์ด้วย ระหว่างวันก็ไม่เป็นคราบ ไม่ทำให้มันเพิ่ม เรื่องคุมมันไม่ได้คิดไกลขนาดนั้น แต่มันก็พอถูไถเรื่องนี้ไปได้

โอ้ย รักใหม่ถูกใจง่ะ แบบว่าไม่อยากใช้บีบีหรือรองพื้นที่ยังมีอยู่เลยให้ตายสิ อยากใช้ตัวนี้ทุกวันๆ ประทับใจสุด ตอนแรกว่าจะเอาเมบาลีนแบบแท่งสีกลางมาลองยังไม่เอาเลย ขนาดมันลดราคาอยู่นะเนี่ย รู้สึกตัวนั้นเกลี่ยยากกว่า ของที่เรามีก็ยังเหลือเกินครึ่ง

สรุปว่า ซื้อต่อแน่นอนจ้ะงานนี้ อะไรจะปลื้มไปกว่านี้ ขนาดหลอดก็กระทัดรัด ไว้ที่โต๊ะก็ได้ พกเดินทางก็ได้ ครั้งต่อไปต้องซื้อราคาเต็มก็ยอม อย่าเลิกผลิตแล้วกัน คนนี้ขอคบกันยาวๆ อิอิ

ปล.ราคาเต็ม 475 ส่วนบลัชครีม 420 บาท แต่เราซื้อลด 10% ทั้งคู่จ้ะ

วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2555

Review: Kate Cream Cheek

สี PK-02 จ้ะ
เล็งไว้ตั้งแต่เปิดตัวและ มาจังหวะดีมาก กะลังคลั่งไคล้บลัชครีม อยากได้มาสะสมๆ (ใช้ไม่ใช้อีกเรื่องนึง) แต่รอจังหวะอยู่ ซื้อราคาเต็มได้งัยยะ เสียชื่ออออ อิอิ

ตอนที่จะซื้อก็ลังเลๆ อยากได้ PK-01 ด้วย แต่รู้ตัวดีกว่าใช้ของหมดยาก (มากๆๆๆๆ) ก็เลยตัดใจเลือกอันเดียว ซึ่งต่อมาค้นพบว่า...ชั้นคิดถูก อิอิ











 พยายามถ่ายให้เห็นชัดสุดๆแล้วนะเนี่ย สีไม่ค่อยติดเลย ให้ตายสิ

ที่จริงตอนจะซื้อก็รู้สึกอยู่นะ ว่ามันเหมือนจะเกลี่ยยาก และเกลี่ยแล้วสีก็แทบมองไม่เห็น แต่ความอยากได้มันบังตาซะจนไม่สนใจสิ่งอื่นใดทั้งสิ้น นี่ถ้าเอาสีอื่นมาด้วยล่ะชีช้ำตายเลย สงสัยเราจะใช้แบบครีมไม่ขึ้นแล้วล่ะ ตอนนี้พอเกลี่ยปุ๊บ บลัชครีมทุกอันพร้อมใจกันลงไปสุมกันอยู่ในรูขุมขน+รอยสิวบิ๊กเบิ้มกันหมด สวยล่ะเซ็ง! นี่ขนาดลองใช้ primer ก่อนแล้วก็ดีขึ้นนิดเดียวเอง

ก็ได้แต่ลองหาวิธีเกลี่ยไปเรื่อยๆ หวังว่าจะดีขึ้น ตอนนี้มีตัวเดียวที่พอพึ่งได้คือ op ด้วยความที่ไม่มีวิ๊ง เนื้อที่ป้ายออกมาก็ดูใสๆแทบจะเหมือน tint ก็เลยไม่ตกร่องแต่ประการใด ส่วนที่เหลือคือ canmake, etude และเจ้าตัวนี้...ไม่ต้องพูดถึง ขนาดของ etude นี่ไม่วิ๊งเลยนะ แต่เนื้อครีมมันหนักๆ บีบออกมาแล้วจับเป็นก้อน ก็เลยตกร่องไปตามระเบียบ

ส่วนเรื่องสี ก็โอเคอยู่หรอก ออกชมพูเนื้อๆ แทบจะเหมือนสีผิวอยู่แล้ว ครั้งแรกลงตัวนี้อย่างเดียวแล้วทาแป้ง แทบมองไม่เห็นสีแก้มเลยอ่ะ คือคำที่ว่าดูเป็นธรรมชาตินี่คือสีโครตอ่อนช่ายหมาย แต่เราทนไม่ได้ฮ่ะ ต้องเอาบลัชตลับมาปัดเพิ่มอยู่ดี

อ้อ ตอนที่ลอง นึกว่าไม่มีวิ๊งซะอีก แต่จริงๆแล้วมีนะ เยอะเลยด้วย แต่มันเล็กและละเอียด กระจายตัวอยู่ในเนื้อครีม เลยดูไม่ค่อยเห็น แต่ถ้าเอากระจกมาส่องใกล้ๆล่ะจะเห็นชัดมากเลยเธอว์

ให้คะแนนหน่อยมะ - ได้ เอาไปเลย 2/5 คะแนนความดีอยู่ที่สีอ่อนไม่รุนแรง ไม่เป็นแก้ม(ตรูด)ลิงแน่ๆ และก็ตลับเล็ก พกง่ายและคงจะหมดไว (หวังอย่างแรงนิ) จะได้หมดเวรหมดกรรมกันเร็วๆด้วย 555

เพราะฉะนั้น ไม่ซื้อต่อแน่นอนค่ะ ต่อให้สีอื่นสวยแค่ไหนก็ไม่เอา ถ้าเกลี่ยแล้วเป็นจุดๆบนหน้าก็ไม่ไหวนะนะ ดูไกลๆอาจจะไม่รู้ แต่ส่องกระจกทีไรแล้วปวดใจทุกที

ว่าแล้วก็จะลองหา tint มาลองทาแก้มดู แบบน้ำหรือแบบเจลนี้น่าจะไม่ตกร่องแล้วนะ เริ่มร่ำร้องอยากได้ยูทิปไรงี้อีกแล้วซี่ อิอิ

วันพุธที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2555

Review: Tea Tree Moisturizing Bath Cream

เธอ! เธอ! เธอ! เธอเป็นใคร ตามมาที่บ้านชั้นทำไมยะ?
เอ๊า ก็เธอหยิบชั้นมาเองนี่
แป่ววววว
อ่าวเหรอ...
แบบว่าสายตาดันไปสะดุดเจ้าตัวนี้ขึ้นมา อะไรเนี่ย ออกแนวธรรมชาติเหรอ เปิดดมกลิ่นแล้วก็ อืมมม น่าสนใจ เลยได้มาโชว์ตัวตรงนี้แล

ขวดเธอค่อนข้างจะแบนนะ กดไม่ดีล้มคว่ำคะมำหงาย เงิบไปหลายรอบแล้ว
ส่วนเนื้อเป็นสีครีมมุกๆ กลิ่นแรงกว่าที่ดมจากขวดตอนแรกนะ
ตอนอาบได้กลิ่นชัดมาก แต่พอล้างออกแล้วก็จางไป
แต่ว่า ทำไมล้างยากจังอ้ะ ล้างแล้วรู้สึกเหมือนไม่เกลี้ยงตลอดๆ ยิ่งกว่าเบเบี้มายด์อีก
พึ่งเห็นว่าเธอเป็น moisturinzing cream bath นะจ้ะ ก็เธออยากได้ชุ่มชื่นไม่ใช้เหรอ
อ่าวจริงดิ ตอนซื้อก็ไม่รู้นี่หว่า ไม่ได้ดู เหอๆๆ

ขวดใหญ่ซะด้วยสิ เมื่อไรจะใช้หมดเนี่ย
ข้อความข้างบนแปลว่า "ไม่ซื้อต่อแน่ๆจ้า" นอกจากกลิ่นแล้วอย่างอื่นไม่ประทับใจเลย เอาไว้ปรับปรุงสูตรหรือมีสูตรใหม่ค่อยมาคุยกัน อิอิ

Review: Boots 17 Oil Control Loose Powder

กลับมารักกันอีกครั้ง หลังจากพยายามหาตัวตายตัวแทนสิ่งนี้มานานแสนนาน แต่ก็ยังไม่เจอ 5555

ตอนแรกก็ซื้อเพราะว่ามันแถมเนี่ยแหละ แต่ใช้ไปใช้มาดันชอบ ก็เลยพยายามหาซื้อเก็บไว้เรื่อยๆ แต่บางทีก็หาซื้อตอนไม่มีโปรไม่ได้ เลยหันไปใช้แป้งเด็กบ้างรัยบ้าง ถูกกว่า แต่ความเนียนสู้ไม่ได้เลย

ที่จริง แป้งฝุ่นที่เนียนที่สุดที่เคยใช้มาคือ Palgantong กระปุกแดงๆอ่ะนะ แต่ว่าแพงง่ะ ก็เลยขอเก็บไว้เป็นความทรงจำดีๆที่ครั้งหนึ่งเราเคยพบกัน 555

ครั้งก่อนๆจะชอบซื้อสี translucent กับสี rose เอามาผสมกัน แต่คราวนี้ขอเบิ้ล tran เลยเพราะว่าน่าจะเหมาะกับสีผิวเรามากกว่า สี rose ออกชมพูไปหน่อยอ่ะ


ข้างในยังไม่ได้แกะเลยไม่ได้ถ่ายรูปมา แต่ก็มีพัฟและฝาปิดเจาะรูพร้อมใช้ แต่เราชอบเอาฝากะพัฟทิ้งทุกทีเพราะใช้แต่แปรงปัด แต่คราวนี้ไม่แน่ อาจจะใช้พัฟก็ได้ เพราะว่ามันไม่ฟุ้งและก็ไม่เปลืองแป้ง อิอิ

นี่ที่ร้านเค้ามีแค่สองเลยเอามาได้แค่นี้ ถ้ามีอีกก็ไม่แน่ว่าจะเอาอีกป่าว แต่คราวนี้คงไม่เอามาใช้พร่ำเพรื่อแล้วอ่ะ เน้นเอาไว้เวลาที่ต้องการให้หน้าเป๊ะดีกว่า คิดดูแล้วมันก็แพงนะเนี่ย 217 บาทต่อสองปุก ถ้าแต่งหน้าปรกติธรรมดาก็เอาแป้งเด็กเหมือนเดิมอ่ะแหละ ถึงจะตรง concept ที่ดาวตั้งไว้ 5555

Review: Boots Carribbean Cocktail Body Scrub

Is it just another scrub?
อืมมม จะว่างั้นก็ได้นะ ตอนซื้อก็หยิบๆมาตามโปร แต่ก็คิดเอาเองว่าน่าจะสครับได้ดีกว่าแบบ shower เพราะเห็นเนื้อมันดูข้นๆดีอ่ะ


(update 15/02/2013) หลังจากลองมาหลายวิธี พบว่าวิธีที่ดีที่สุดคือบีบครีมออกมาแล้วขัดขณะผิวแห้งเลย จะรู้สึกถึงเม็ดสครับมากที่สุด ก็เลยชอบทำก่อนอาบน้ำ พอล้างออกแล้วยังรู้สึกเหมือนมีครีมๆเคลือบอยู่ ทำให้ผิวไม่แห้งเกินไป (มั้ง คิดเองเองง่ะ)
แต่ใช้ๆไปแล้วก็เฉยๆ ทั้งคู่นะ ไม่รู้สึกว่าตัวไหนดีกว่า รอยแตกนี่ต้องอาศัยขัดบ่อยๆ พอกครีมเยอะๆ ช่วงไหนขยันทำ รอยก็จะจางลงไปบ้าง พอขี้เกียจรอยก็กลับมาเห็นชัดอีก ยังงัยก็ให้คะแนน shower ดีกว่านิดนึงตรงที่อาบแล้วหอมกว่า เม็ดสครับเยอะกว่า ล้างออกง่ายกว่า จบป่ะ

เพราะฉะนั้น (จุดสามจุด) อิชั้นไม่ซื้อต่อเจ้าสองตัวนี้แน่นอน อาจจะลองแบบ sugar ถ้ายังไม่หมดโปร และยังไม่เบื่อซะก่อน แต่ไม่ไว้ใจตัวเองหรอก เดี๋ยวก็ต้องหาอะไรใหม่ๆมาสนองนี้ดอยู่ร่ำไปอ่ะแหละ อิอิ

วันอังคารที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2555

Review: Boots Carribean Cocktail Shower Scrub

ตอนแรกว่าจะรวมสองหลอดใน 1 บล็อก แต่ว่ามันเรียกกันคนละอย่าง เลยต้องแยกกันรีวิวฉะนี้แล...

เจ้าตัวนี้ชอบกลิ่นมากๆ อยากได้เธอมาเป็น souffle แต่เธอไม่มี ไอ้ทรงกระปุกเธอดันเป็น sugar scrub เปิดมากลิ่นหอมฟุ้งเหมือนเดิม แต่เราไม่ชอบสีมันเลยพับผ่าสิ ออกน้ำตาลเก่าๆยังงัยไม่รู้ ก็เลยไม่ได้เอามา บวกกับเราอยากได้สครับที่เป็นหลอดมากกว่าอ่ะ กระปุกมันใช้ยาก ก็เลยหยิบแบบหลอดมาแทน



 เป็นความคิดของเราเองด้วย ว่ามันน่าจะ scrub ได้เหมือนแบบกระปุกนั่นแหละ ซึ่งเราพึ่งมาซึ้งทีหลังว่าเราคิดผิด!

ง่า...มันแป้วตั้งแต่มาอ่าน comment ในบล็อกคนอื่นแล้ว ตอนนั้นยังไม่ได้แกะใช้เลยนะ มัวแต่ปลาบปลื้มกับราคาถูกแสนถูก (200 บาท ต่อสองหลอด และอีก 200 ต่อสองกระปุก) เลยไม่สนใจเรื่องอื่น พอได้อ่านถึงเริ่มวิตกว่า เอิ่มม มันสครับได้น้อยจริงเหรอ แล้วไอ้ลายๆบนตัวเรามันจะจางลงได้รื้อออ

อ้ออ เราแอบไปเม้นในบล็อกเค้าด้วยเพราะว่ามันคันปากยุกยิกจริงๆ เจ้าของบล็อกก็น่ารักดีนะ มีตอบกลับด้วย ที่เม้นไปเพราะว่าเรางงๆว่าเขียนภาษาอังกฤษ แต่ทำไมราคาเป็นบาท จะว่าเป็นคนไทยก็ไม่น่าใช่ ดู profile เลยรู้ว่าเธอเป็นคนปีนัง แต่ชอบยี่ห้อนี้ เคยมาเที่ยวไทยแล้วมาซื้อยี่ห้อนี้ ประมาณว่ามันถูกกว่าบ้านเธอ (เหรอ? ไม่แน่ใจอ่ะ) เลยเขียนบอกไปกึ่งทักทายกึ่งยั่วให้อิจฉาว่าชั้นซื้อมาถูกมากนะยะ อิอิ
เฮ่อออ ว่าแต่เธอจะอิจฉาฉันทำไม ฉันก็ไม่ใช่คนในเมืองอะไรหรอก อยู่ชายขอบกทม.แล้วด้วยซ้ำ ใกล้สนามบินมากกว่าพารากอน วันๆได้ยินแต่เสียเครื่องบิน ฉันว่าที่เคแอลยังมีเซโฟร่า ที่กทม.ไม่มีนะเออ

วุ้ย นอกเรื่องไปไกล กลับมาที่เจ้าเขียวเราดีกว่า พออ่านบล็อกนี้แล้วเลยต้องรีบเอามาลอง ส่วนตัวเราชอบเนื้อมันนะ เป็นเจลใสสีเขียว มีเม็ดสครับไม่ใหญ่ไม่คมผสมอยู่มากมาย แต่เวลาทาถูๆแล้วกระเด็นไปไหนหมดไม่รู้ สครับได้ไม่มากจริงๆน่ะแหละ แง...ตรงไหนลายก็ลายต่อไปนะเธอว์ T-T

รู้งี้เอาแบบ sugar scrub มาน่าจะดีกว่า หรือ sugar ก็อาจจะเป็นแบบนี้ วุ้ยยิ่งคิดยิ่งกลุ้ม ตอนแรกเกือบจะกลับไปซื้อเพิ่มอีกนะเนี่ย ดีที่เงินหมดซะก่อน สติเลยตามมาว่าอย่าพึ่งซื้อเลยโยม หลอดนี้พึ่งใช้ไปไม่กี่ครั้งเอง เหอๆๆ

เซ็งเป็ด เอาไงดีวะเนี่ย เลยเอามาขัดหลังนิดหน่อย ขัดเข่าขัดศอกไปตามเรื่อง เนื่องจากมันเป็น shower ก็เลยใช้อาบน้ำได้สบายมาก หอมมากด้วย และก็หวังในใจว่า เออ....เรายังมีอีกหลอดนี่นา อันนั้นมันเป็น scrub จริงๆเลยด้วย เดี๋ยวจะแกะมาลองมั่งดีกว่า 5555 (เจ้าหลอดเหลืองในรูปข้างล่างนี่แล แต่ขอยกไปครั้งต่อไปนะจ้ะ)
 

Review: Boots Carribean Cocktail Body Souffle

ซื้อมาตอน 1 แถม 1 ตามระเบียบจ้ะ
มันลงล็อกพอดีที่ว่า กะลังอยากได้ครีมทาตัวเพิ่ม แบบเน้นเอามาทาขาน่ะ
เพราะว่าเสียดายวาสลิน ไม่อยากเอามาทาขาที่ขาวพอแล้ว
พอโปรนี้เริ่มออก ก็เริ่มมีคนอวดของ
เราก็ดูไปเรื่อยแหละ ยังไม่ได้คิดจะซื้ออะไร
ดันมาสะดุดตัวนี้เข้า ซึ่งเราก็เห็นมันอยู่ในร้านมานานแล้ว แต่ไม่เคยสนใจจะดูเลย
มันน่าสนใจตรงที่ เนื้อครีมเหลวกว่า butter แต่ข้นกว่าโลชั่น
จริงป่าวอ่ะ อย่างงี้มันต้องพิสูจน์




ทั้ง collection รู้สึกจะมีกลิ่นอยู่ 4 แบบ แต่ว่าร้านไม่ได้มีทุกผลิตภัณฑ์ของทุกกลิ่น งงมั้ย? อย่างเช่นเจ้า souffle อันนี้รู้สึกจะมีแค่สามกลิ่น จากทั้งหมดสี่กลิ่น ก็เลยไม่รู้ว่าร้านไม่มีของหรือว่าไม่ได้ผลิตอยู่แล้วน่ะ

ช่างมันเหอะ ยังงัยเราก็ชอบแค่สองกลิ่นนี้อยู่แล้ว กลิ่นมันคล้ายกันมากเลยนะ สงสัยมาจากส่วนประกอบเดียวกัน ต่างกันตรงที่สีม่วงจะหอมเปรี้ยวๆ แต่สีเหลืองจะหอมนุ่มๆมากกว่า

ตอนแรกเราก็ชอบสีเหลืองนะ เลยเอาม่วงมาใช้ก่อน กะจะให้หมดเร็วๆ ใช้ไปใช้มา กลับชอบม่วงมากกว่าแฮะ เดี๋ยวต้องสลับเอาเหลืองมาใช้มั่งล่ะ อิอิ

ตอนแรกที่พลิกคว่ำถ่ายรูป ลุ้นแทบแย่ว่าจะหกเลอะมั้ย เลยรีบถ่ายไปหน่อย อาจจะไม่ค่อยชัดนะจ้ะ แต่!!!!!!!!!!! มันไม่หกสักนิดเลยอ่ะ ลองเปิดฝาแล้วคว่ำดูยังไม่หกเลย ชอบอ่ะ ตอนนี้เลยชอบเล่นแบบนี้ไปเลย 555

เนื้อครีมก็เป็นสีเหลืองอ่อนๆ รู้สึกนุ่มๆดึ๋งดั๋งเวลาเอานิ้วกดลงไป เวลาทาตัวก็รู้สึกไม่เหนียวเท่า butter แต่ข้นกว่าโลชั่นจริงๆอ่ะแหละ ตอนแรกว่าจะทำใจหยิบ butter มาเลยไม่ต้องซื้อเลย เค้าชอบอันนี้มากกว่าอ่ะ อิอิ

เรื่องกลิ่นนี่ไม่ต้องพูดถึงฮ่ะ แบบว่าฟุ้งมากมาย คงจะอัดน้ำหอมมาเต็มพิกัด ถ้าใครไม่ชอบกลิ่นนี่ตายไปเลย ห้ามซื้อเด็ดขาด เด๊่ยวจะหาว่าสวยไม่เตือน! อิอิ

พึ่งสังเกตุว่าตัวเองก็ชอบกลิ่นผลไม้เปรี้ยวๆเหมือนกัน นึกว่าชอบกลิ่นนมอย่างเดียวซะอีก แบบว่ามีแต่กลิ่นนมๆน้ำผึ้งอะไรงี้นานๆมันก็เบื่อเนอะ เบรคด้วยกลิ่นอื่นบ้าง นี่ไม่ใช่แค่สองปุกนี้หรอกนะ ยังมีอีกสองหลอด แบบว่าดมกลิ่นแนวนี้ให้หายอยากไปเลย เหอๆๆ แต่มันจะเป็นอะไร ขอยกไปบล็อกหน้านะจ้ะ

วันอังคารที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2555

Review: Oriental Princess Whitening Cleansing Cream

Got a discount coupon with the catalog since the beginning of this year
it will expire in August and the discount is 30%!
that's more than member+promotion discount
so I should not miss it at all, right?






Actually, I had this item years ago and I thought it was quite pricey.
(230 Baht per 1, 50g jar)
But this time, I already have a cleansing milk and the discount is so attractive,
so I'll give it another try.

The cream is white and smell lovely, The scent is not so strong which I love that.
Why bothering your face with fragrance, right?

The cream glides on my face nicely and it can remove all makeups.
But it irritated my eyes area a bit.
However, the next time I try it again, this thing doesn't happen.
So I assume it works fine for me.

Will I repurchase?
Well, yeah. Only with the good discount like this.
I'm still in love with Freshel cleansing cream that is cheaper and more gentle.