Shop ส่งท้ายเดือน

แต่จริงๆแล้วเพราะว่าเงินเดือนพึ่งออกตะหาก อิอิ
ขอที่ซื้อมา มีแค่ op นะจ้ะ
กันแดดกับลิปกระปุก ได้ฟรีมา อิอิ

ซื้อเสร็จแล้วแบบ อืมมม เยอะแฮะ เกือบพันเหมือนกันนะเนี่ย
moisture หลอดเหลือง 265 ลด 5% = 251.75
cleansing milk 2ขวด ลด 5% กับ 50% = 242.25 + 127.50
eyeshadow 2 สี ลด 5% กับ 50% = 204.25 + 107.50
รวมเป็น 933.25

ตอนแรกที่ว่าจะถอย naked+sigma+thebalm มาเลยฝันสลายเลย ตอนซื้อนี่เหมือนผีเข้าสิงมากอ่ะ แบบว่าไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ชั้นจะซื้อๆๆๆ ยังงัยก็รอก่อนนะจ้ะ น้องโป๊ววววว อิอิ

Review: OP Lip Cheer spf15

ได้ตัวนี้มาแบบด่วนๆ งงๆ
แต่ลองแล้วชอบนะ ได้ลดครึ่งนึงด้วย อิอิ
ส่วนเจ้า lip primer เรายินดีซื้อราคาเต็มเลย แบบว่าถูกใจมากกกก
ส่วนตัวนี้ 155-50% เหลือ 77.50 บาทถ้วน
ถูกมะ อิอิ

จริงๆก็ดูจาก catalog มาแล้วล่ะ ว่ามันน่าสนใจอยู่ ปริมาณไม่เยอะด้วย จะได้ใช้หมดเร็วๆ (หวังว่านะ แท่งก่อนๆ ใช้มาเป็นปีแล้วยังไม่หมดเลย) พอไปลองสีจริงๆ เอ๊ะ cheer orange สีน่ารักมากอ่ะ เทียบกะชมพูแล้วสวยกว่า ชมพูออกแดงๆ แต่ส้มดูนุ่มๆ สุภาพกว่า ของ op เป็นอย่างงี้อีกและ คราวก่อนที่ไปเลือกบลัชครีมก็ได้สีส้ม เพราะมันดูสวยกว่าชมพู (ดูรีวิวบลัชครีมที่ http://katetik.blogspot.com/2011/06/shopping-again.html?zx=6df4d076150f1d63)

...ทันใดนั้น...เราก็ได้ยินเสียงกระซิบ "พาหนูไปด้วยยยยย" เหมือนเป็นคำสั่งมากกว่าคำขอร้อง เราเลยได้ยินตัวเองพูดกับคนขายว่า "พี่คะ เอา primer กับลิปเบอร์สามสีส้มค่ะ" ...แอร๊ยยย ซื้อจนได้นะเธอ

บน: ไม่มี primer

ล่าง: ทาทับ primer

 ลองเอามาเทียบกับ etude lucid เบอร์ 8 ว่าใครจะแจ๋นกว่ากัน ผลเป็นดังคาด etude แซ้บบบบกว่าสุดๆ นึกแล้วก็อยากลองเทียบกับเบอร์ 6 ที่เราอยากได้เนอะ จะได้รู้ว่าสีใครสวยกว่า อิอิ

ลงบนปากเดี่ยวๆดูซิ แจ๊ดมั้ย อาจจะดูจัดนิดนึง น่าจะเข้ากับตอนที่แต่งหน้าจัดเต็มกว่านี้

ลองลง primer ก่อนมั่ง จะบอกว่า ชอบคู่นี้ม๊ากกกกกกกกกกกก แบบว่าที่สุดของที่สุด ณ จุดๆนี้ สีบนปากดูนุ่มๆ น่าจุ๊บที่สุด อิอิ เมื่อวานนั่งดุสีปากอยู่ตั้งนาน ชอบอ่ะ ลิปตัวนี้ทำให้เราชอบสีส้มไปเลย หลังจากไม่เบื่อไม้เมากับ etude แจ๋นๆอยู่ตั้งนาน เหอๆๆ

ส่วนเนื้อลิปก็ cheer สมชื่อจริงๆนะ ไม่เยอะเหมือน lip butter แต่ไม่แห้งเลย ทาบนปากเปล่าๆได้สบายมาก เรื่องติดทนก็ตามสภาพอ่ะ เราเป็นคนทาลิปไม่ทนอยู่แล้ว กินน้ำยังหลุด แต่ก็ดีจะได้หาเรื่องเติมบ่อยๆ ก็เค้าชอบอ้าาา อิอิ

ปล. ถ้าปากแห้งลอกอยู่แล้ว ทาลิปสีๆลงไปยังงัยก็คราบนะจ้ะ เจ้าตัวนี้ก็เหมือนกัน พึ่งค้นพบว่าต้องลงลิปมันก่อนแล้วค่อยปาด primer+lip หรือลิปอย่างเดียวก็ได้ ตอนแรกมีหลายๆคนพูด เราก็ยังไม่เชื่อ ต้องลองกะตัวเองถึงจะรู้ ด้วยความขี้เกียจนั่นแหละ เลยไม่ชอบทาลิปหลายชั้น ตอนนี้รู้แล้ว ยอมทาก็ได้ อิอิ

Review: OP lip primer

แบบว่าเปิดดู catalog แล้วเคลิ้ม เลยไปถอยมา ฮี่ๆๆ
จริงๆแล้วอยากได้ moisture คุมมัน หลอดเหลืองที่เคยใช้นั่นแหละ
แต่ตอนนี้เป็นหมวดแต่งหน้า เลยดูไปด้วย
เผื่อไปลองแล้วโอเคก็สอยเลย อิอิ

เดินเข้าร้าน ลองของ สอยมาอย่างมั่นใจ
พนง.ถาม มีบัตรมั้ยคะ จิ๊บเป๋งงงง
ไม่ได้เอามาง่ะ ไม่ได้ใช้กระเป๋าตังค์ใบเดิม
มาในสภาพนักเดินทางโทรมๆ หน้ามันๆ
ดีที่สาขานี้คนขายโอเค ไม่ดูถูกลูกค้าอย่างที่เคยได้ยินมาจากหลายสาขา เหอๆๆ
 แต่ก็ซื้อนะ ถึงจะไม่มีบัตร เพราะชิ้นที่สองลด 50%
เราซื้อแค่สองชิ้น ถึงมีบัตรมาก็ลดเพิ่มอีก10 กว่าบาทมั้ง ก็เลยจ๊างมันเต๊อะ
เสียแต้มฟรีเท่านั้นเอ๊งงง แอบเสียดายหลอดเหลืองที่อยากได้แต่แรก
ต้องวางไว้ก่อน เดี๋ยววันหลังชั้นมาจัดการเธอแน่ เหอๆๆ

เจ้าตัวนี้คนขายบอกว่าเป็นรองพื้นริมฝีปาก ทำให้สีลิปสติกไม่เปลี่ยน
เราก็อืมๆๆ สนใจตั้งแต่อ่าน catalog แล้วล่ะ แต่ขอลองของจริงก่อน
เอามาถูๆหลังมือดูสี ก็โอนะ ออกนู้ดๆ not so creamy nor so matte
เลยพลอยลองลิปอื่นไปด้วย และก็นะ จะพลาดได้งัย
ต้องติดไม้ติดมือมาอีกสักแท่ง แหะๆๆ
ก็ชิ้นที่สองลด แต่ชิ้นแรกไม่ลดนี่หว่า อิอิ

ซองเล็กเป็นของแถมจ้ะ ไม่น่าเชื่อว่า op ออกครีมหอยทาก!!!! มีเป็นเซ็ตครบทุกอย่างเลยมั้ง แต่เราลองแล้ว ด้วยการเอามาทาใต้ตา แบบว่า eye cream ไม่มีพอดี อิอิ คือกลิ่นเธอแบบว่า เหม็นมากอ้ะ ไม่รู้ครีมหอยทากยี่ห้ออื่นกลิ่นยังงัยนะ แต่ต้องขอบคุณที่เขาให้มาลอง เราจะได้ไม่ซื้อของจริง 555

บน: แสงธรรมชาติ

ล่าง: เปิดแฟลช

หลังจากลองใช้แล้ว เวลาทาลงปากอาจจะเป็นคราบบ้าง เพราะเนื้อไม่ชุ่มมาก ถ้าลงตัวนี้เดี่ยวๆรับรองว่าป่วยแน่นอน เพราะมันไม่ใช่ลิปสีนู้ด แต่พอทาลิปสีทับลงไปแล้วแบบว่า โอ้วววววว มันสวยมว๊ากกกกกกกกกกกก นั่งดูสีปากตัวเองตั้งนาน ไม่เบื่อเลย ปลื้มขนาดนี้มีการเรียกใช้บ่อยๆแน่นอน เผื่อมันลดรอบหน้าจะได้ไปสอยมาอีก ฮี่ๆๆ

Review: Mayballine bb stick spf21 pa+++

อันนี้ก็กระแสแรงมากทีเดียว
เพราะเธอเล่นแจก 100แท่ง แต่มีข้อแม้ว่าต้องรีวิวแลกกัน
ก่อนจะขายจริงไม่นาน เลยมีรีวิวตามเว็บมากมายเลยทีเดียว
แหม่......ยั่วน้ำลายชะมัด

พอมีโฆษณาให้ส่ง sms รับส่วนลด 50% แล้วเราจะช้าอยู่ใย เหอๆๆ
ถึงจะไม่แน่ใจว่าจะกลับมาซื้อทัน เพราะไปทริปบริษัทก็เหอะ
พอกลับมา ได้แวะเซ็นทรัลเลยไม่รอช้า รีบพุ่งไปร้านเขียวก่อนเลย เหอๆๆ

มีคนลองอยู่ก่อน แหม เกะกะชะมัด ถามคนขายนู่นนี่น่ารำคาญ
ในใจนี่แบบ กระชากหัวมันออกมาพร้อมกับด่า
หลบไปอีดอ...ชักช้าเป็นป้าน่ารำคาญจริงๆ 5555
แรว๊งงงงงมั้ยชั้น

โชคไม่เข้าข้างเท่าไร เบอร์สีที่อยากได้หมด ก็ไม่แปลก ส่วนใหญ่น่าจะเลือกเบอร์กลางไว้ก่อน (มีทั้งหมด 3 เบอร์) เหลือขาวมากกับค่อนข้างเหลืองมาก จากที่ลองปาดหลังมือดูแล้วเลยขอเลือกอันหลังดีกว่า จากที่เคยใช้พวกรองพื้นมา รองพื้นเข้ม+แป้งขาว จะดูดีกว่ารองพื้นขาว+แป้งเข้ม ก็เลยได้มาอย่างนี้ล่ะ

พอเกลี่ยแล้วก็ดูเรียบๆ เหมือนไม่ได้ทาอะไรเลย ส่วนรูปที่ลองทาบนหน้าไม่มีให้ดูนะจ้ะ แบบว่าเค้าอาย ไม่อยากเปลือยหน้า อิอิ แต่เมื่อเช้าลองปาดดูและ ด้วยความที่เนื้อในแท่งค่อนข้างแข็ง เลยปาดได้บางๆ ขนาดเราคิดว่าปาดออกมาเยอะแล้วนะ แต่พอเกลี่ยแล้วดูบางๆมาก เหมือนยังไม่ได้ลงรองพื้นอะไรเลยนั่นแหละ มันดูบางกว่ากันแดดเนื้อมูส บีบี หรือรองพื้นอะไรที่เรามีอยู่ทั้งหมดเลยล่ะ แต่ไม่ได้ลองปาดสองรอบนะ แบบว่านึกไม่ทัน เหอๆๆ

พอลงแป้งฝุ่น แป้งพัฟ ก็ไม่มีคราบนะ ส่วนเรื่องคุมมันยาวนานอันนี้ไม่ได้หวัง คือหน้าก็มันช้าลงหน่อย มาส่องกระจกตอนสายๆ ก็มีเงาแค่ปลายจมูกนิดหน่อย ขนาดเราอยู่ห้องแอร์นะ แต่มันก็ดีกว่ารองพื้นตัวอื่นที่ทำหน้าเรามันเร็วกว่านี้มากๆอ่ะ

สรุปว่า...เอ พูดยากอ่ะ จะว่ามันคุมมันก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะทาบางๆรึเปล่า หน้าเรียบเนียนขึ้นมั้ย ก็ไม่ได้รู้สึกแตกต่างขนาดนั้น freshel bb ดูดีกว่านี้เยอะ สีเข้ากับหน้ามั้ย ก็ไม่แน่ใจอีกแหละ เพราะเบอร์เข้มสุดก็ไม่หลอกตาเว่อร์นะ พอเอาแป้งขาวตบทับได้อยู่ แต่ undertone เราว่าออกชมพูเลยนะ ก็เลยอยากลองเบอร์สองเหมือนกันว่าจะต่างกันเยอะมั้ย เป็นโทนเหลืองรึเปล่า

ตกลงสรุปว่า...ซื้อต่อก็ได้นะ แต่น่าจะเป็นเบอร์สอง เพราะฝังใจว่าอยากลองเบอร์นี้แต่แรกแต่ยังไม่ได้ลอง แต่ที่แน่ๆชอบตรงที่ใช้สะดวก พกพาก็ได้ หาซื้อง่ายยยยย (ชิมิ ร้านเขียวววว)

ปล. ตอนนี้เริ่มกลับมาใช้ผลิตภัณฑ์คุมมันทุกอย่างอีกและ หลังจากหยุดยาคุมไปตั้งแต่ 16 มีนา 55 เดือนนึงผ่านไป หน้าก็เริ่มกลับมามีน้ำมันเยอะ  อะไรๆที่เคยใช้ตอนกินยาก็ต้องทยอยเปลี่ยนไป ก็พึ่งรู้สึกตัวว่าเอ๊ะ ทำไมหน้าเหนียว เป็นคราบง่ายมาก ยิ่งตอนอากาศร้อนๆนี่แทบจะละลายหายไปจากหน้าเลยทีเดียว ตอนนี้ก็เลยได้ฤกษ์ช้อปของใหม่อีกและ เข้าทางคนชอบซื้อจริงๆเลย อิอิ

Review: SmoothE babyface gel

ได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างมานานแล้ว
เลยต้องขอจัดมาลองมั่ง
ซื้อหลอดเล็กมาเพราะว่า
1. ขอติดโปร(ทดลองใช้)มันก่อน
2. ว่าจะเอาไปทริปบริษัท

แต่ก็ไม่ได้เอาไป เพราะอยากถ่ายรูปก่อน เลยรอให้กลับมาแล้วค่อยถ่าย และเผื่ออาการแพ้ไว้ด้วย อย่างน้อยชั้นก็ไม่แพ้ตอนไปเที่ยวล่ะว้า เดี๋ยวจะหมดสนุกซะก่อน

ตอนแรกที่บีบตรงนี้ออกมา ไม่ค่อยได้กลิ่นนะ เอาไปล้างน้ำดูก็สะอาดปรกติ กลิ่นแทบจะไม่รู้สึก เมื่อวานเย็นเลยลองล้างใต้แขนไว้ก่อน ถ้าไม่มีอะไรแล้วจะล้างหน้าตอนเช้าเลย

เช้ามาก็ปรกติ ไม่มีอาการแพ้ เลยล้างหน้าจริง คราวนี้เริ่มได้กลิ่นเหมือนโฟมสมูทอีชัดเลย ล้างออกยากมั้ย ไม่แน่ใจ แต่เราล้างนานเพราะกลัวไม่เกลี้ยงมากกว่า ตอนที่ถ่ายรูปเราคงจะบีบน้อยไปอ่ะ เลยไม่ค่อยมีกลิ่น พอล้างออกแล้วก็รู้สึกสะอาดดีนะ หน้านิ่มอยู่ คงจะลองใช้ไปสักพักก่อน ถ้าไม่แพ้ หน้าไม่แห้งตอนทาแป้ง ก็คงจะหาหลอดใหญ่มาใช้ไปเลยเพราะว่าหาซื้อง่าย แพงหรือถูกกว่า paula's choice ก็ไม่สนแล้วล่ะ เบื่อสั่งเว็บมาแล้วแม่ชอบถามอ่ะ

อีกอย่าง เคยอ่านความคิดเห็นในพันทิพเคยบอกไว้ว่าใช้โฟมนานๆแล้วจะเป็นสิวเสี้ยน เอ...จริงป่าวหว่า ตั้งแต่ใช้โฟมมาก็ไม่เคยสังเกต พอมาดูปลายจมูกก็ อืมมมม เหมือนจะเริ่มมีแฮะ อาจจะวิตกจริตแต่เราก็ไม่ประมาทนะฮะ สลับมาใช้เจลมั่งเก๊าะด๊ะ

+++++++++++++++++++++++++++++
update 18/10/2012
ตอนนี้ใช้หลอดใหญ่มาเกือบหมดหลอดและ จะบอกว่ามันเวิร์คมากกกกกกกกกก คือตอนแรกได้กลิ่นน้ำหอมเยอะ กลัวจะแพ้ แต่พอใช้อย่างเดียวล้างเช้าเย็นไปเรื่อยๆ ก็ไม่มีสิวนะ กลับกัน พอกลับมาใช้โฟมแอปเปิ้ลสักสองวัน สิวอุดตันโผล่ซะงั้น เป็นงี้มาสองครั้งและ สิวพวกนี้ไม่หลดง่ายๆซะด้วยสิ อารายว้า เซ็งเลย เลยต้องกลับมาคาราวะเจลอีกเหมือนเดิม ฮึ! เค้าไม่นอกใจตัวเองแล้วเก๊าะดะ อิอิ

Shopping this weekend

ขนาดว่ามีคิวไปหัวหินเป็นทริปบริษัท ยังแบ่งเวลามาชอปได้นะยะ
วันศุกร์ถอยเจลล้างหน้า กลับมาวันอาทิตย์สอยต่อที่เหลือ
มันจริงๆ อยู่บ้านไปกินข้าวห้างยังไม่ซื้อเลย
อันนี้แบบว่าอารมณ์กรูรีบ ซื้อมาเหอะ ของมันไม่ค่อยแพง(มั้ง)
เดี๋ยวจะทยอยรีวิวทีละตัวนะจ้ะ ลองแล้วทุกอัน Work! ทุกสิ่ง อิอิ