วันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2555

Just a little shop!

ไม่ได้ตั้งใจเล้ย ให้ตายซิ
แล้วพวกนี้ติดมือชั้นมาได้งัยยะ อิอิ

เซ็ตนี้ได้มาจากโลตัส จริงๆตั้งใจไปเดินดูเสื้อ แต่ดันโชคดี เค้าประกาศว่ามีการจัดสต็อคพอดี เสื้อผ้าที่เคยว่าเลือกง่ายๆ คราวนี้คุณเธอเล่นมัดไม้แขวนเสื้อเป็นกลุ่มๆ หยิบดูยากม๊ากกก แต่ก็นะ เรายังอุตส่าห์ไปควักๆเสื้อแขนยาวมาลอง ได้มาตั้งสองตัวแน่ะ ถ้าไม่ลืมจะถ่ายมาให้ดูนะ

ส่วนสามอย่างนี้พึ่งได้มาสดๆร้อนๆเย็นนี้เอง จากร้านสะดวกซื้อเนี่ยแหละ ได้แสตมป์เยอะด้วย เหอๆๆ

ส่วนรีวิวแต่ละอย่างจะตามมาทีหลังเน่อ แบบว่าเน็ตที่ทำงานเน่าไปแล้ว เป็นอัมพาต ใช้งานอะไรไม่ค่อยจะได้แล้ว ต้องเข้าบล็อกที่บ้านแทน เลยต้องนานหน่อยล่ะ กว่าจะครบทุกตัว แบบว่ามันขี้เกียจ อิอิ

วันจันทร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2555

Window shopping

ได้อาหารตามาเพียบบบบบบบ อิอิ
นานๆทีได้ไปห้างก็งี้แหละ อะไรๆก็ดูตื่นตาตื่นใจไปซะหมด
ไปตอนกลางวันซะด้วย ผู้คนคึกคักขวักไขว่

ที่จริงก็ไม่ได้ตั้งใจไปห้างหรอก พอคุณชายไปหาหมอตะหาก
รอหมอนานมากกกกกก สภาพไปต่างจากรพ.รัฐเลย
เพราะนี่คือ "ประกันสังคม"
เราก็ว่า อย่าหาว่าเราดูถูกเลยนะ แต่รพ.กลางเมืองอย่างนี้
ทำไมคนไข้ดูแต่งตัวสบายๆ เหมือนพึ่งลุกจากที่นอนยังงัยไม่รู้
พึ่งมาเข้าใจตอนเห็น counter cashier นี่แหละ
เอิ่มมม คนไข้มาเกือบร้อย เรียกจ่ายเงินไม่ถึงสองคนเลยมั้ง
ที่เหลือ พบหมอ-รับยา พบหมอ-รับยา พบหมอ-รับยา
รวมทั้งคุณชายด้วย ก็ใช้สิทธิรักษาฟรีน่ะเอง
รพ.ก็จะว่าฉลาดดีมั้ย เธอเล่นจัดหมอให้คนเดียว
ตรวจคนไข้หลายสิบ! โอ้ววว!
รอไปเกือบสองชั่วโมงได้อ่ะ ซึ้งใจสิทธิรักษาฟรีมากๆ
ถ้าเป็นเรา ขอเสียเงินแต่ได้ตรวจเร็วๆดีกว่านะ โรคภัยมันไม่รอใคร

And there's a price to pay!
ไม่ได้จ่ายเป็นเงิน ก็ต้องจ่ายเป็นเวลา
คุณว่าอย่างไหนมันแพงกว่ากัน!

วันเสาร์ก็ Window shopping นะ แต่ได้ของมาเหมือนกัน
เป็นอโลเจลสองปุก
ที่จริงอยากได้สาม แต่ของมันหมด และสามชิ้นลด 5% ล่ะ
เฮ่ออ ดวงจะไม่ได้ส่วนลดอ่ะนะ ซื้อมาสองครั้งแล้วยังไม่ได้เลย

วันอาทิตย์ก็กะว่าถ้าคุณชายเดินไหว จะให้รอเราช้อปซะหน่อย
แต่เธอบ่นไม่บายตลอดๆ เราเลยอด
ได้แค่กินข้าว เดินผ่านโซนของสวยๆงามๆ แล้วก็กลับบ้าน
ไม่ได้เสียตังค์สักแอะ เหอๆๆ

ทั้งหมดที่เม้ามานี้ ไม่มีอะไรสุขใจเท่า
ba nars ทักเราแต่ไกล
"สวัสดีค่ะ เครื่องสำอางค์ลด 10% นะคะ"
แอร๊ยยยยยยยยยยย พี่พูดกะหนูจริงเหรอ
เค้าดีใจนะเนี่ย
จากที่แต่ก่อนเป็นยัยหน้าสิว ไม่มีฟามมั่นใจที่จะผ่านร้านพวกนี้เลย
เดี๋ยวนี้เค้าเรียกเราอ่ะ แอร๊ยยยย ปลื้มมม
ถึงเค้าจะเรียกไปเพิ่มยอดขายเค้าก็เหอะ
ถ้ามาคนเดียวล่ะอาจจะมีเสียว
เสียวเงินหลุดลอยออกจากกระเป๋าอ่ะ อิอิ

กลับถึงบ้านรีบส่องกระจกอย่างไวเลย
ไหนๆ หน้าชั้นเป็นงัยมั่ง
เจอไฟส่องสว่างเข้าไปถึงกะอึ้ง
มิน่า นางพวกนั้นอาจจะเห็นตอนไปส่องหน้าเราพอดีก็ได้
จะบอกว่า มันดูเนียนดีอ่ะ ไม่ค่อยเห็นร่องรอยประวัติศาสตร์เท่าไร
รองสิว รอยแดง ดูจางมากๆ
ไม่อยากล้างหน้าเลยง่าาาา อิอิ

ตอนนี้มีทางเลือกใหม่
อยู่ๆเราก็เบื่อพวกรองพื้น บีบี อะไรแนวนี้ซะงั้น
เพราะว่าใช้แล้วมันคงจะหนักหน้า ระหว่างวันหน้าเป็นคราบมั่ง
เหนียวหน้ามั่ง ก็เลยหาวิธีใหม่
toner > moisture > sunscreen > loose powder > foundation powder
แยกคู่ระหว่างรองพื้น กับแป้งผสมรองพื้น
ห้ามใช้สองตัวนี้ด้วยกันเด็ดขาด!

เมื่อวานก็ทำแบบนี้แหละ ใช้แป้ง cutepress ธรรมดาเอง
(evory radiance) แล้วเอาแป้งอัดแข็งไปซับระหว่างวัน
ผลออกมา ก็อย่างที่เล่าไป
บีเอทักหรือเรียกเราซื้อของนี่
เป็นความสุขขั้นสุดยอดของเราตอนนี้เลยนะ
แบบว่า หน้าชั้นดูดีพอที่จะใช้ของเธอแล้วเหรอ ถึงมาเรียกเค้าอ่ะ อิอิ

แต่หลังจากนั้นก็แอบนอยนิดหน่อย
คือว่า...เค้าต้องเลิกใช้ยาสิวและ whitening แล้วล่ะ
ตายๆๆ ฮาดะขวดน้ำเงินยังเหลือตั้งครึ่งขวด!
คือเราแพลนจะมีน้องใช่ม้า
หลายๆบทความที่อ่านมาเค้าแนะนำให้เลี่ยงสองกลุ่มนี้
ไอ้ยาสิวไม่ค่อยเสียดายเท่าไร เหลือจะติดก้นหลอดแล้ว ตัดใจทิ้งได้
แต่ฮาดะที่เอิ่ม เสียดายอ่ะ แต่ว่าจะลองหยุดดูก่อน
ถ้ายังไม่ท้องค่อยใช้ต่อ 5555 ไม่ค่อยงกเท่าไร

ถ้าท้องก็ดี มองโลกในแง่ดีเข้าไว้
พึ่งทายาสิวไปสองอาทิตย์เอง วันนี้หยุดแล้ว
จะได้หาพวก mmu มาใช้ซะให้เบื่อเลย
จะขนซื้อมาให้รกบ้านเลยคอยดู 555
ส่วน skincare ก็จะได้ไปเสาะหาสมุนไพรใหม่ๆ
เผื่อจะดีกว่าของนอกที่ใช้อยู่ก็ได้

วันพุธที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2555

Review: Cutepress JetSet 3 in 1 Mascara

สำหรับตัวนี้ ต้องบอกว่า "กลับมาคบกันอีกครั้ง"
จริงๆเคยใช้ตัว lash x-treme ไปแล้ว ก็ชอบนะ แต่ขี้เบื่อเลยไปลองของเคท เจอดีเลย ซื้อแพงแต่ได้ของห่วย อิอิ พอใกล้หมดเวรกับตัวนั้น เลยหันมาซบยี่ห้อเดิมอีกครั้งงงงงง แต่ขอเปลี่ยนรุ่นมั่งนะ ที่จริงก็อยากลองรุ่นนี้แต่แรกแล้วล่ะ แต่ครั้งแรกซื้อผิด เหอๆๆ
เจ้าตัวนี้หลอดเล็กว่ารุ่น lash x-treme แฮะ แอบสงสัยว่ามันดีกว่ารึเปล่า เลยให้มาน้อยกว่า เหอๆๆ
เช่นเคย ได้มาก็ไม่ค่อยเห่ออะไร ขนาดอาบน้ำแล้วยังมาปัดขนตาอ่ะ จิ๊บๆ 555


ดูยาวขึ้นมั่งมั้ยเธอว์
 ดูแบบหน้ารวมๆมั่ง

ส่วนตัวเราชอบเนื้อมาสคาร่าของ cp มากกว่าเคทนะ มันเป็น fiber อะไรแบบนี้รึเปล่า รู้สึกว่าเนื้อมันเคลือบขนตาดีกว่า ต่อขนตาได้ยาวขึ้น แต่ความหนาไม่เท่าไร ดูหนาขึ้นนี๊ดดดดดดดเดียว และเราก็ไม่ได้มี special effect อะไรอีกแล้ว ผ่านไปแป๊บเดียว ขนตาก็เริ่มตก จนมันมาหยุดอยู่แนวราบ ดูเหมือนขนตาชี้ออกไปข้างหน้า ไม่ได้ชี้ขึ้นล่ะเธอว์

แต่ถามว่าซื้อต่อมั้ย ...อืมมม...ยัง 50-50 อยู่น่ะเธอว์ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ตอนที่จะซื้อก็แล้วกัน ถ้าไม่รู้จะซื้อยี่ห้อไหนก็คงกลับมาใช้อีก อาจจะเหมามาทั้งสองรุ่นเลยเป็นงัย เทียบกันข้างต่อข้างไปเลย เหอๆๆ

ปล. ตั้งแต่ใช้มาสคาร่ามา รู้สึกว่าขนตายาวขึ้นนิดๆแหละ แต่ก่อนขนตาสั้นม๊ากกกกก โดยเฉพาะข้างขวา เลยไม่กล้าใช้อ่ะ กลัวว่ามันจะทำให้ขนตาหลุดไปด้วย แต่พอใช้ๆไป เอออ ขนตาดูยาวขึ้นแฮะ แต่ก็ยังใช้ไม่บ่อยเพราะขี้เกียจดัดขนตา และก็มันล้างยากอ่ะนะ เศษๆมันชอบซุกอยู่ตามขอบตา เช็ดแรงเดี๋ยวเหี่ยวเร็วอีก เหอๆๆ ทีนี้เลยว่าจะลองใช้พวกมาสคาร่าใสล่ะ ไม่ต้องดัดก็ปัดได้ ไม่น่าจะล้างยาก และได้ช้อปของใหม่ด้วย อันนี้ปลื้มที่สุด 5555

Review: Cutepress JetSet Eyebrow Waterproof (01-dark brown)

ตัวนี้แหละ อยากตามชั้นกลับมาบ้าน อิอิ
จริงๆตั้งใจจะซื้อมาสคาร่า แต่คนขายเธอไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดมือ
"ตอนนี้สินค้ากลุ่มเดียวกัน ชิ้นที่สองลด 50% นะคะ"
แอร๊ยยยยย จี๊ดใจเจ๊
เราก็ดูๆแล้วตัวนี้ work สุด เพราะยังไม่เคยมีพวกเขียนคิ้ว
มีแปรงเปล่าอีกด้าน คนขายบอกว่าเอาไว้ปัดคิ้ว
แต่เราว่าจะเอามาปัดขนตาล่ะ

อ่า เสร็จสมอารมณ์หมาย ได้ยอดตามที่ต้องการ
แต่มันเกินกว่าที่ตั้งใจไปหน่อยนะ
เอาวะ ได้มาแล้ว ต้องใช้ๆๆๆ




ทำไมไม่ทำสีดำน้า ให้ตายเหอะ
อันนี้มันก็พอได้อ่ะ แต่ด้วยความที่เราไม่ได้ใช้สีนี้ทั้งคิ้ว
กะเอามาเติมตรงที่คิ้วบาง แต่คิ้วเดิมเราดำ
เจ้าตัวนี้สีน้ำตาลเข้ม
(ตั้งใจเลือกแล้วนะ มีอีกเบอร์เป็นน้ำตาลอ่อน ถ้าเอามานี่คงขาดใจตาย)
สีมันเลยกระดำกระด่าง ไม่ค่อยเข้ากันเท่าไร
เลยต้องค่อยๆเติม แล้วเอานิ้วถูๆให้มันเข้ากันแทน
ก็ดูพอถูไถไปได้ ใครถามก็แถเอาละกัน คิ้วชั้นมันลูกครึ่ง เหอๆๆ
ส่วนแปรงอีกด้าน ถูกใจมากกว่าอ่ะ
เคยคิดอยู่เหมือนกันว่าอยากได้แปรงมาสคาร่าเปล่าๆ
เอาไว้กระจายขนตาเวลาปาดมาสคาร่าแล้วขนตากระจุกตัว
ตอนแรกถึงได้เอาชุด ecotools มางัย เพราะว่าอยากได้แปรงขนตาอ่ะ
แต่ใช้ไปใช้มา มันก็กระจายได้ไม่ดีเท่าไร
เพราะว่าด้ามแปรงจะบังเวลาเขี่ยขนตา
มองไม่เห็นว่าเขี่ยดีแล้วหรือยัง
แถมมาสคาร่ายังไปแห้งติดแปรง
ล้างยากด้วยเพราะแปรงเล็กและซี่แปรงถี่

พอลองใช้อันนี้ โอ้ว! เยส! work!
รู้สึกว่าเหมือนมันจะแข็งกว่าแปรงมาสคาร่าจริงๆหน่อย
ก็เขาทำมาสำหรับคิ้วนี่เนอะ
แต่มันใช้กับขนตาได้อ่ะ ใช้ดีเลยทีเดียว
เยี่ยม! ช่างมาสคาร่ามันแล้ว จะเยิ้มรวบขนตาชั้นสักกี่กระจุกก็ไม่สน
ชั้นมีตัวกระจายย่ะ กลัวยังๆ ยอมยังๆ อิอิ

เราก็ลองแล้วล่ะ เอามาสคาร่าปาด (เดี๋ยวจะรีวิวต่อไปนะจ้ะ)
แล้วก็เอาแปรงเขี่ย
โอเค ขนตาไม่เป็นกระจุกแล้ว
แต่พอขนตาแยกตัวเป็นเส้นๆ มันก็อุ้มมาสคาร่าไว้น้อย
เลยดูเหมือนปาดน้อยเกินไป ทำซ้ำๆแล้วก็ยังไม่ดีขึ้นเท่าไร
แต่ก็...ช่างมันเห้อะ ดีกว่าปล่อยให้เป็นกระจุกๆ น่าเกลียดอ่ะ

Review: Cutepress baby pretty press powder spf 20 pa+++ (02)

ใกล้ถึงเดือนเกิด ต้องเช็คโปรวันเกิดแต่ละร้านซะหน่อย
ร้านนี้ก็เช็ค แล้วต้องซื้อด้วยเหรอ
เออเฮอะ...เช็คสิยะ เดี๋ยวนี้เธอเล่นจัดโปรตามยอดซื้อซะนี่
เราก็เกือบจะได้โปรขั้นที่สองแล้ว ก็เลยไปจัดเพิ่ม เอาโปรขั้นสองซะหน่อย
เรื่องมากอ่ะ brand นี้ แต่ก็ซื้อว่ะ มรึงงงง อิทาสการตลาด

อุดส่าห์ท่องมาจากบ้านดิบดีว่าชั้นเอาแค่สองชิ้น
ไหงมันงอกออกมาอีกชิ้นได้ล่ะยะ หืมมมมม?


ค่าเสียหาย T-T อาจจะดูไม่มากแต่ก้มีความหมายกะเค้ามากเลยนะ
ส่วนข้างล่าง แวะไปรับมาจาก op มันมากะแคตาล็อกอ่ะ สงสารพนักงานเหมือนกันพอเค้าถามว่าไม่รับอย่างอื่นด้วยเหรอ แต่เรายัง(มีเงิน)ไม่พร้อมก็เลยต้องตัดใจเดินออกมา
เอาแป้งก่อน คงไม่ต้องพูดอะไรกะมันมาก
มันคือเบอร์ 02 นะจ้ะ มิใช่ภาคสอง อิอิ
ถึงจะเคยรีวิวเบอร์ 01 ไปแล้ว แต่คราวนี้มีอีกเบอร์
ต้องจับมาชนช้างซะหน่อย







วันรุ่งขึ้น เห่อมากกก เอามาใช้จริงเลยซิ
เจ้าตลับเขียวที่ใช้อยู่ก็ใกล้หมด ควักไม่ค่อยจะขึ้นอยู่แล้วด้วย
แต่!!!.......เหมือนพักนี้ชีวิตมีแต่อุปสรรค
อิตัวนี้ก็ไม่ได้ดั่งใจชั้นอยู่ดีล่ะ ตบทับหน้ามันๆไปสักสองสามครั้ง
พอไปส่องกระจกทีนึง เหยยยยยย หน้าแก.........
ไปโดนของที่ไหนมาวะ ดำมาก T-T
ตอนซื้อก็คิดว่าน่าจะเหมือนตัวเก่า ที่สีมันเป๊ะกับหน้าเรามากกว่านี้
(หรือว่าตอนก่อนไม่เคยสนใจดูสีหน้า)

คือเวลาตบแป้ง สีมันเหมือนเนื้อเราเลยนะ
ตบเสร็จปุ๊บยังนึกว่าเป็นสี translucent อะไรงี้เลย
ที่ไหนได้ cp มีอะไรทำให้เราประหลาดใจเสมอ
สีแป้งอันนี้ ก็ดรอปได้เอง ทำหน้าเค้าหมองเฉยเลย
ไม่ยอมๆๆ เค้าจะฟ้องแม่ แงๆๆๆๆๆๆๆ

อุตส่าห์ตั้งความหวังให้เป็นตัวตายตัวแทนเมบาลีน...จบกัน!
เบอร์ 1 ก็ขาวไป เบอร์ 2 ก็ดำไป
สีผิวแบบชั้นมันไม่เหมาะกับแป้งเธอสักรุ่นเลยเหรอ T-T

----------------------ปล.----------------------ปล.----------------------
แถมนิดนึงจ้า ทำรูปมาเพิ่ม เปรียบเทียบสีกันหน่อยซิ
เพิ่มเติม -- หลังจากใช้เต็มวันมาสามวันก็ทนไม่ไหว หน้ากรูจะดำไปไหน เลยเนรเทศมันไปอยู่รวมๆกับแป้งดำทั้งหลาย เอาไว้ตบแทนแป้งฝุ่นตอนเช้าวันละครั้งพอ ส่วนระหว่างวันก็กลับมาซบเมบาลีนเหมือนเดิม คราวนี้ซึ้งแล้วว่า ไม่มีใครดีเท่าเธออีกแล้ววว อิอิ
 
ปล.2 เรามีแป้งดำ 3 ตลับแล้วหรือนี่
1. เคทน้ำแร่ จนกระทั่งซื้อเบอร์อ่อนมาทีหลังจนใช้หมดไปนานแล้ว อันเดิมยังเหลือเกือบครึ่ง!
2. cp snow เบอร์สอง มันขาวเหลืองตรงไหนฟระ ผิวเหลืองเฉยๆทาแล้วอาจจะคล้ำได้เลย นี่มันแป้งอัพสีผิว (ให้เข้มขึ้น) รึเปล่าหว่า
3. เจ้าตัวปัญหานี่แหละ
 
ปล.3 เดี๋ยวนี้ชอบใช้แป้งอัดแข็งแทนแป้งฝุ่นแล้วอ่ะ พึ่งรู้ตัวว่าบางทีหน้าเป็นคราบเพราะแป้งฝุ่นมันไม่ละเอียดพอ ก็เราเล่นเอาแป้งเด็กมาทำแป้งฝุ่น หวังประหยัดงบ ความเนียนเลยประหยัดตาม หน้าเป็นคราบทุกวันเลย T-T คราวนี้เลยเอาแป้งอัดแข็งนี่แหละวะ เลยไม่ชอบแป้งฝุ่นไปเลยอ่ะ มันฟุ้งเกิ๊น
 
แล้วก็ทดลองอีกอย่างคือ เราจะใช้
บีบี+แป้งฝุ่น หรือ
กันแดดธรรมดา+แป้งผสมรองพื้นเท่านั้น
จะไม่ใช้บีบี+แป้งผสมรองพื้นแล้ว คิดว่ามันหนักหน้าเกินไป ดูโบกเว่อร์และก็เป็นคราบง่ายด้วย (ตอนนี้หน้ามันมากเลยนะจ้ะ) แต่ตัดใจยากนิดนึงเพราะความเคยชิน ชอบโบกรองพื้น+แป้งรองพื้นเนี่ยสิ ไม่ได้ๆ ชั้นเบื่อหน้าเยิ้มเป็นเค้กแล้ว ต้องหาวิธีหน้าเนียนให้ได้! อิอิ


วันอังคารที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555

Review: Daiso Hair Roll

ได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างมานาน จัดมาลองหน่อยซิ
ไปตั้งสามสาขาเชียวนา กว่าจะได้มาเนี่ย
สาขาที่ 1 ของหมด
สาขาที่ 2 ย้ายทำเล ไม่รู้ไปตั้งตรงไหน พึ่งมานึกออกหลังจากนั้นหลายวัน (เอ๋อจริงเลยมรึงเนี่ย)

ก็เลยมาได้จากสาขาแถวที่ทำงานเนี่ยแหละ แขวนไว้เป็นแผงๆเลย จะเอาสักสามห่อก็เกรงใจ ยังไม่เคยใช้ เอามาลองแค่สองก่อนละกัน


พอสบโอกาสก็ต้องลองสักหน่อย ม้วนยากใช้ได้เลยนะเนี่ย
คิดซะว่าฝึกกล้ามแขนไปพลางๆ แล้วก็ไปเล่นเน็ตหลั่นล้าสามชั่วโมงได้
(ยังไม่กล้าทิ้งไว้ทั้งคืนอ่ะ กลัวคนนอนข้างๆจะแซว)
พอแกะออกมาแล้ว
............................(จะให้ลุ้นไปไหน -_-!)............................
ผมเละตุ้มเป๊ะมากอ่ะ ชี้ซ้ายชี้ขวาไม่เป็นทรงเลย
พยายามเอานิ้วม้วนๆจัดทรง ก็ได้ออกมาประมาณเนี้ย
คิดว่าผมเราคงยาวไม่พอ วิธีทำก็แบบดิบๆไปหน่อย มันเลยออกมางงๆหลงทางแบบนี้ เอาไว้ไปหาวิธีม้วนแจ่มๆกว่านี้แล้วจะมาลองใหม่นะ

ซื้อต่อมั้ย...เอิ่ม ถามว่าซื้อเพิ่มมั้ย จะดีกว่านะ ก็ไม่แน่อ่ะ ถ้าม้วนเก่งกว่านี้อาจจะซื้อเพิ่ม ม้วนกระจุกเล็กๆ น่าจะได้ลอนเล็ก อาจจะดูดีกว่ารูปข้างบนก็ได้ เหอๆๆๆ

วันจันทร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2555

Review: Hada Labo Super Hyaluronic Acid Moisturizing Milk

เลือกตัวนี้มาเพราะยังไม่เคยลอง ใช้แต่สีน้ำเงินก็รู้สึกว่าธรรมดา จะลองเอาสีขาวมาเทียบดูซิ เผื่อจะเห็นผลดีกว่า



เนื่องจากเจ้าสีน้ำเงินมันอึดมาก ใช้ยังงัยก็ไม่หมด ก็เลยยังไม่ได้ลองสีขาวจริงจังสักที เคยเอามาแอบใช้ได้ครั้งเดียว รู้สึกเหมือนมันจะเหลวกว่าสีน้ำเงินด้วยอ่ะ แต่ถ้าใช้ไปนานๆก็อาจจะข้นขึ้นก็ได้ อันนี้ก็ต้องลอง แต่เมื่อไรอ่ะ อิอิ

+++++++++++++++++++++
17/01/2013
ตอนที่ขวดน้ำเงินเหลือไม่มากแล้ว เราก็ส่งต่อให้น้องที่ทำงานไป ส่วนเราก็มาเปิดใช้สีขาวต่อ ซึ่งจริงๆก็ยังไม่แน่ใจว่าปลอดภัยสำหรับคนท้อง 100% รึเปล่า แต่ก็ใช้ๆไปก่อน ของมันมีเยอะ (เปิดใช้ตอนที่รู้ตัวว่าท้อง แต่ตอนนี้ไม่ท้องแล้วก็เลยใช้ต่อไป)

เนื้อโลชั่นเหลวกว่าสีน้ำเงินจริงแหละ ขาวจั๊วะน่าเจี๊ยะ (เอ๊ะยังงัย) ทาแล้วหน้าดูเปียกชุ่มมาก ถ้าไม่ทาแป้งก่อนนอนละคงรู้สึกหนึบหนามากเลย ผลที่ได้คือความชุ่มชื่น เรื่องอื่นไม่ได้สนใจ ตื่นมาแล้วหน้าไม่ลอก ดูชุ่มชื่น ไม่แห้ง ก็โอเคและ แต่ใช้กลางวันคงไม่ไหว มันต้องใช้เวลาในการทาและการรอให้ซึม เสียเวลาและหน้าอาจจะดูมันเกินไป ตอนนี้เราใช้ฮาดะโลชั่น(น้ำใสๆ)บวกเจลว่านหางสำหรับบำรุงตอนเช้าพอ มันซึมไม่เหนียวหน้าแล้วก็ลงรองพื้นหรือบีบีต่อก็ไม่หนักเกินไป

ถ้าหมดแล้วจะซื้ออีกมั้ย อืม ไม่แน่ใจอ่ะ ตอนนี้อยากลองรุ่นสีแดงมากเลย เดี๋ยวรอดูขวดนี้หมดก่อนค่อยว่ากัน อิอิ

Review: Hada Labo Super Hyaluronic Acid Lotion

แอบไปผลุบๆโผล่ๆ อยู่กับรีวิวคนอื่นตั้งนาน
พึ่งจะมีบทความของตัวเองก็คราวนี้ล่ะ
คราวนี้ยืนยันได้ว่าเป็นรีวิวจริงๆ เพราะใช้มาเกือบหมดขวดที่สองแล้ว
แถมซื้อขวดที่สามมาตุนแล้วด้วย ถึงจะขึ้นราคาอีกก็เหอะ
นับระยะเวลาก็ปีกว่า แอร๊ยยย ทำไมนานจัง
นี่ก็ใช้เช้า-เย็นเกือบทุกวันแล้วนะ มีบางวันเอาอย่างอื่นมาแทนบ้างรัยบ้าง
แบบว่ามันติดแล้วอ่ะ ไม่ใช้ตัวนี้แล้วกลัวหน้าขาดความชุ่มชื่นอย่างแรง
ยิ่งทายารักษาสิวหน้าก็ลอกเป็นหย่อมๆ ก็โบ๊ะตัวนี้ลงไปก่อนทายา
แต่ต้องบวก moisture อื่นๆด้วยล่ะ โลชั่นตัวเดียวก็เอาไม่อยู่เหมือนกัน
เอ้า! เจ้าขวดที่สาม ออกมาโชว์โฉมเต็มๆซิ


เทออกมาก็เหมือนน้ำใสๆแต่ขุ่นนิดๆ ไม่มีกลิ่น โปะบนหน้าแล้วจะรู้สึกหนึบๆนิดหน่อย สักพักก็ซึมแต่ยังรู้สึกหนึบอยู่ อืมมม อธิบายไม่ค่อยถูก มันไม่ได้ซึมหายแว้บเหมือนไม่ได้ทาอะไรเลยแบบจูจูนะ อันนี้ยังรู้สึกว่ามีอะไรบนหน้าอยู่ แต่ว่าเป็นความรู้สึกดีอ่ะ ไม่ใช่เหนียวหนักหน้ามากมายอะไรอย่างงั้น

ช่วยให้หน้าหายลอกมั้ย - ก็ "ช่วย" จริงๆนะ ไม่ได้ "ทำให้" หายลอก เพราะต้องลง moisture อื่นๆ ถึงจะไม่ลอก สำหรับเรา ต้องใช้สามอย่าง หน้าถึงจะหายลอก 1.hada labo 2.moisture 3.time อย่างที่สามไม่ต้องทา รออย่างเดียว เพราะทาครีมอะไรๆ แค่วันเดียวมันไม่หายลอกอ่ะ ต้องหลายๆวันหน่อยถึงจะค่อยๆดีขึ้นๆเรื่อยๆ (ไม้ยมกเยอะจัง อิอิ)

ซื้ออีกป่ะ - อ้ะ แน่นอน นี่ก็จะขึ้นขวดที่สามแล้ว และต้องมีขวดต่อๆไปอีกแน่ ถ้าราคายังไม่ขึ้นแพงเว่อร์ ก็จะซื้อไปเรื่อยๆเลยล่ะ

ปล. ไม่กล้าเอามาทำ lotion mask แบบตอนที่ซื้อมาครั้งแรกแล้วอ่ะ กลัวมันหมดเร็ว พอขึ้นราคาจาก 495 เป็น 520 เลยใช้ประหยัดขึ้นอีกเยอะเลยอ่ะ เหอๆๆ

วันศุกร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2555

DUC เสื้อใหม่ ราคาโดน

แบบว่าซื้อมาเพราะชอบป้ายลดราคามันอ่ะ ตลกป่ะ แค่เดินผ่านธรรมดา แล้วแม่หยิบๆดูบอกว่าสวยดี เราก็อืมๆ ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่มันมี size และราคามันทำให้หวั่นไหวสุดๆ นี่คือป้ายราคาจ้ะ
ชอบอ่ะ ดูง่าย รู้เลยว่าลดเยอะจริง อย่างงี้ก็เลยจัดมาซะหน่อย
 ยี่ห้อ zein อ่ะ ไม่คิดว่าจะมีเสื้อแบบนี้ด้วย เห็นมีแต่แบบคอกว้างมาก
ลงทุนตั้งกล้องจับเวลาถ่ายเลย อยากรู้เหมือนกันว่าส่งกระจกเองกับถ่ายรูปออกมาแล้วมันเป็นยังงัย พอเห็นรูปแล้วก็ อืมมมม ดูสมราคา 299 มากเลย เหอๆๆ เราว่ามันเหมือนเสื้อแม่บ้านใส่ไปตลาดอ่ะ ถ้าซื้อราคาเต็มมานี่คงเจ็บปวดน่าดู แต่เอาเหอะ เอาไว้ใส่ไปกินข้าวเย็นขำๆอะไรงี้ก็คงได้อยู่ ใส่นานๆคงไม่ไหวด้วยอ่ะเพราะว่ามันเป็นเนื้อทราย ขนาดใส่แป๊บๆยังรู้สึกยุบยิบเลย เรามันผิวบางซะด้วยสิ

วันพุธที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2555

Review: Boots Expert Sugaring Hair Remover

ชื่อยาวไปหน่อย แต่ว่าครบถ้วน ชัดเจน
ด้วยความที่เอือมขนขาเหลือเกิน แกจะดกดำหนา เหมือนขาผู้ชายไปถึงหนายยยย เลยต้องจัดการขั้นเด็ดขาดซะหน่อย ตอนแรกไปซื้อแบบเทปกาวมา แต่มันไม่ออก ก็เลยต้องเล่นตัวนี้ ซื้อเพราะโปร 1 แถม 1 ด้วยนั่นล่ะ ราคา 350 บาท ซื้อที่ร้านเค้าได้เลยจ้ะ อาจจะหายากบ้างก็ลองถามพนง.ดูนะ


ดูจากกระปุกก็รู้ นี่ไม่ได้พึ่งใช้นะจ้ะ เป็นกระปุกที่สามแล้วจ้า (รอซื้อโปร 1 แถม 1 ตามเคย) ตัวแวกซ์เป็นสีน้ำตาล แบบว่าตั้งใจจะให้เหมือนน้ำตาลล่ะมั้ง แต่ไม่กล้าชิมนะ ว่าหวานเหมือนกันรึเปล่า อิอิ
 
ไม่มีรูปตอนแวกซ์ให้ดูนะ เดี๋ยวจะตกใจ เดี๋ยวเห็นแล้วนอนไม่หลับกระสับกระส่าย ฝันร้ายขึ้นมาล่ะจะมาโทษคนโพสต์ อิอิ
 
แต่วิธีทำไม่ยากเลย ตอนใช้ครั้งแรกเราก็อ่านข้างกล่องนี่แหละ แล้วก็ลงมือลุยโลด! สมมติเราจะแวกซ์ขนขานะจ้ะ
- ขนที่ท่านต้องการดึง ควรจะมีความยาว 4 มิลลิเมตรขึ้นไป
- ทาแป้งบริเวณที่จะแวกซ์
- ควักน้ำตาลมา ไม่ต้องเยอะมากนักเพราะเพิ่มได้
  ปาดตามแนวขน ย้ำ! ตามแนวขนเท่านั้น
- เอาผ้าดิบแปะลงไป ลูบไปตามแนวขนเบาๆก็ได้
  พอให้มั่นใจว่าปิดผ้าทั่วแล้ว
- ทำใจให้พร้อมแล้วก็ ดึง! ย้อน! ขน! เท่านั้น! มิฉะนั้นท่านอาจจะเจ็บตัวฟรี
  ขนก็ไม่หลุด มีแต่แวกซ์หลุดติดผ้า
 
ถ้าทำตามขั้นตอนที่ว่ามา ท่านจะเห็นขนที่ถูกดึงตามแนวแวกซ์ติดอยู่บนผ้าดิบอย่างสวยงาม พอหันไปดูที่ขา ท่านจะร้อง โอ้วววว มัน เนียน มาก อิอิ
 
ใช้สะดวกมากอ่ะ ไม่ต้องเอามาอุ่นร้อนอะไรทั้งนั้น ตอนที่แปะผ้าเสร็จปุ๊บ ก็ดึงออกได้เลย ไม่ต้องทิ้งไว้นาน เราทำกับขาสองข้าง ไม่เกิน 20 นาทีก็เสร็จและ อาบน้ำล้างแวกซ์ที่เหลือออกได้เลย แวกซ์ก็ล้างง่ายมาก แค่น้ำเปล่าก็หลุดหมดแล้ว ผ้าดิบที่ติดแวกซ์ก็ขยี้ซักกับน้ำเปล่าสักหน่อยก็สะอาดแล้ว
 
หลังจากอาบน้ำแล้วก็โบกครีมที่ขาสักหน่อยนะจ้ะ ใครผิวขาวจะเห็นรอยแดงตามรูขุมขนที่ถูกดึงเป็นจุดๆและอาจจะดูบวมๆเล็กน้อยก็ไม่เป็นไร ทาครีมไปก็สบายและ แต่ถ้ากังวล ไม่ชอบเห็นขาเป็นจ้ำแดงๆ ก็เอาถุงเย็นมาประคบก็ได้ รอยแดงจะหายเร็วขึ้นภายใน 1-2 ชั่วโมง แต่จริงๆ แค่โบกครีมแล้วนอนก็ไม่เห็นแล้วเนอะ ตื่นมารอยแดงก็หายหมดแล้วล่ะ สำหรับตัวเองก็ไม่มีขนคุดนะ
 
เราทำตามนี้มาตลอดตั้งแต่กระปุกแรก แต่ไม่ได้แวกซ์ทุกครั้งที่ขนยาวนะ บางทีก็โกนมั่ง ปล่อยให้ยาวนานๆไม่ทำอะไรมั่ง จนผ่านมาปีสองปี ขึ้นกระปุกที่สามแล้วก็เห็นได้ชัดว่าขนบางลงเยอะ คือรูขุมขนก็ยังอยู่เหมือนเดิม แต่บางรู ขนมันไม่ขึ้นแล้วง่ะ ดีมะ อิอิ
 
ข้อเสียที่นึกออกก็คือ อันนี้เราใช้แวกซ์ขนขาได้อย่างเดียว อย่างอื่นลองแล้วไม่โอเค อย่างขนจุ๊กกุเนี่ยไม่ได้เลย เพราะขนมันไม่สามัคคีกัน ดึงย้อนขนไปทางเดียวไม่ได้ เคยลองแล้ว ขนไม่หลุดสักเท่าไร เหนียวหนึบอีกตะหาก
 
แต่ยังไงก็ ซื้อต่อแน่นอนอ่ะ เฉพาะโปร 1 แถม 1 เท่านั้นนะ ตอนนี้ไม่ต้องดึงบ่อยนักแล้ว ถึงไม่มีใช้เราก็โกนรอไปพลางๆได้ แต่ชอบถอนรากถอนโคนมากกว่า มันสะใจดี เหอๆๆ

วันอังคารที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ซื้อเอามัน

ก็โปรมันยั่วววววว อิอิ
ได้คูปองซื้อ 1200 ลด 70 บาท + คืนเงินอีก 4% ของบัตรเครดิต
อย่างงี้ก็จัดมาเลยดีกว่า

เดี๋ยวนี้ tops ก็เกือบจะเหมือน watsons แล้วอ่ะ แผนกคสอ. ของหลากหลายใช้ได้เลย ที่สำคัญ มีโลชั่น hada ด้วย หามาหลายวัตสันแล้ว ไม่มีสักที่ ทั้งที่ขึ้นราคาแล้วนะเนี่ย ที่นี่ก็ราคาขึ้นแล้วเหมือนกัน แต่ตัว milk ลดราคา ก็เลยจัดมาคู่กันซะหน่อย ส่วนครีมก็เอามาให้ถึงยอด กะว่ามีหลอดใหญ่แล้วจะได้ทารอยผิวแตกซะที (แต่ก็ไม่รู้จะตัดใจไหวรึเปล่า มันแพงเหลื้อเกิ๊นนน)
ส่วนรีวิวแยกชิ้นก็ดูไปเรื่อยๆนะจ้ะ คงทำแค่ lotion กับ milk ส่วนสมูทอีเคยรีวิวไปแล้ว แต่จะไป update ผลการใช้งานทีหลังละกัน

Hoarding stuffs!

ไม่ได้กักตุนเพื่อหวังกำไรในอนาคตนะจ้ะ
เอาไว้ใช้เองทั้งนั้น
บางครั้งก็อยากขายนะ แต่ขี้เกียจอ่ะ ไหนจะต้องทำราคาสู้กับแม่ค้าคนอื่นๆ ไหนจะต้องตอบคำถามลูกค้า ไปส่งของ ฯลฯ ของเราก็ไม่ได้เยอะขนาดจะมาขายจริงจังด้วย

พักนี้อ่อนไหว ชอบซื้อตามโปร บางรายการก็เลยมีซ้ำๆ แต่บางอย่างก็ขาด แบบว่าใกล้หมดแล้วก็ยังไม่ซื้อ เพราะว่าตังค์หมด ซื้ออย่างอื่นหมดแล้ว แฮ่ๆๆ

มาดูกันว่า "ตุน" อะไรไว้มั่ง
ชอบจริงจังเลย เป๋าใบนี้เนี่ย จับฉลากได้จากงานปีใหม่ เป็นของเพื่อนที่นั่งติดกันเนี่ยแหละ จริงๆมันใส่กล่องข้าว แต่เราชอบลาย มันสวยดี เลยเอามาใส่ของสวยๆงามๆดีกว่า กล่องข้าวใส่ถุงไก่กาอะไรก็ได้ อิอิ


อร๊ากกกกกกกกก ตั้ง 9 ชิ้นเลยรึ มีอะไรมั่งยะเนี่ย
1. op cleansing milk
2. op cleansing cream
สองอย่างนี้ได้คูปองลด 30%

3. hada milk
4. hada lotion
ได้โปรคืนเงินจากบัตรเครดิต 4% มั้ง แถมได้คูปองลดอีก 70 บาทด้วย (อันนี้รวมข้อ 9 ด้วยนะ)

5. cp กันแดด
โปรครึ่งราคาวันเกิดตั้งแต่ปี 2011 เหลือเป็นตัวสุดท้ายทียังไม่ใช้เพราะมันมันอ่ะ กันแดดอื่นที่ใช้อยู่ก็ยังมีอีกเพียบเลย ก็เลยรอไปเรื่อยๆก่อนนะ

6. cca กันแดด
โปร 1 แถม 1 จ้า ชอบมากโปรเนี่ย อิอิ

7. แป้ง maybaline สุดเลิฟ
ซื้อลดราคามาจ้า จากซุปเปอร์หรือที่ไหนก็จำไม่ได้แล้วอ่ะ แต่ไม่กี่เดือนนี้เองแหละ ไม่ได้เก่าเก็บข้ามปีเหมือนตลับที่ใช้อยูนะ อิอิ

8. smooth-e หลอดเล็ก
ซื้อเอาสแตมป์จาก 7-11 ง่ะ

9. smooth-e หลอดใหญ่
ดูข้อ 3-4 ได้เลยจ้า

รวม 9 รายการ เป็นเงิน @#$%%$&%^* บาทค่ะ
แบบว่าไม่อยากคิด อิ๊อิ๊

พออัพรูปเสร็จแล้วพึ่งเห็น ยังมีสมูทอีเจลที่มาคู่กะของแถม โลชั่นวาสลีนสีชมพูที่ซื้อลดราคา กับขวดเหลืองเล็กที่ซื้อเอาแสตมป์อีกนะเนี่ย เฮ่อออออ จะเยอะไปไหน

เลยต้องเอามาโชว์เนี่ยแหละ จะได้ยั้งมือเวลาซื้อมั่ง ขยันซื้อแล้วขยันใช้ด้วยนะยะ จะได้ไม่ต้องคอยนับของตุน เดี๋ยวเก็บนานๆไปก็จะลืมว่ายังมีของ แล่นไปซื้อมาใหม่อีก เหอๆๆ

วันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2555

Review: CCA Active Sunscreen spf50 pa+++

เห็นมันลดราคาอยู่ตำตาตั้งนาน จนข่มใจไม่ไหว
ในที่สุดก็ยอม ซื้อแล้วจ้า อิอิ
ยังติดใจตัวที่แล้วอยู่ ซึ่งจริงๆก็มีนะ
แต่เราอยากลองแบบอื่นมั่งง่ะ
อีกอย่าง คิดไปเองว่า ราคามันแพงกว่า น่าจะดีกว่ามั้ง อิอิ
ราคา 349 บาท (ต่อสองหลอด) ซื้อมาจากแผนกขายยาในซีใหญ่แถวบ้าน
(งดโฆษณาสถานที่ซื้อนะ อิอิ)





 ระบุส่วนผสมทั้งที่กล่องและที่หลอด เลยถ่ายมาเทียบกันซะเลยว่าเหมือนกันมั้ย อิอิ
ของเก่าก็ยังเหลือ (แต่ก็ไม่มากแล้วนา ถึงกล้าซื้อหลอดใหม่งัย อิอิ) เลยจับมาลองปาดเทียบกันหน่อยซิ
ปรากฎว่าหลอดเทา เนื้อครีมออกเหลืองกว่า หลอดน้ำเงินเนี้อครีมขาวจั๊วะ แล้วเหมือนหลอดเทาจะเนื้อแข็งกว่า เกลี่ยยากกว่านิดๆ แต่นิดเดียว แทบไม่รู้สึกอะไรเลยจริงๆ

แอร๊ยยยย จับมาเรียงรายดูแบบนี้แล้วมีฟามสุข ฟินอ่ะคร่ะ (วิบัติเล็กน้อย)

เท่าที่ใช้มาสองสามครั้งก็โอเคนะ ปรกติดีไม่มีปัญหาอะไร หลอดเทาเหมือนจะมีความหนืดของครีมมากกว่า แต่ก็ไม่มากกว่าเท่าไร กลิ่นก็น้อยกว่าหลอดน้ำเงิน แต่เป็นกล้วยเน่าเหมือนกันอ่ะแหละ อิอิ ส่วนเรื่องกันแดดก็คิดเอาเองว่าน่าจะดีอยู่แล้ว เดี๋ยวว่าจะเอาไปเที่ยวทะเลด้วย แล้วค่อยกลับมาดูอีกทีละกัน

ทีนี้ หลอดเทากับหลอดน้ำเงินต่างกันตรงไหน
เห็น spf50 pa+++ เหมือนกัน
เค้าบรรยายไว้ว่าอย่างงี้

หลอดเทา - Light feel, dry touch lotion for an active outdoor, sporting lifestyle.
หลอดน้ำเงิน - Very high protection lotion which can help prevent premature skin aging, blemishes and darkening.

แปลว่า - แปลเอาเองดิ 5555
ขอกวนหน่อยเหอะ เบื่อพวกชอบถามโดยที่ตัวเองไม่พยายามหาความรู้มาก่อน ถามเอากูสะดวกเข้าว่า แต่คนถูกถามมันเหนื่อยโว้ยยยยยย

สรุปว่าหลอดเทาเหมาะกับทาไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง ส่วนหลอดน้ำเงินทาป้องกันกระ ฝ้า หรือสีผิวไม่สม่ำเสมอ

ทั้งสองหลอดทาหน้าและทาตัวได้หมดนะเธอว์ แต่ดูจากสภาพอากาศเมืองไทยแล้ว ทาหน้าอาจจะเหนียวไปหน่อย ทาตัวจะดีกว่าอ่ะ

เสียดายที่ลืมถ่ายหลอดแดงไว้ สรุปว่าเราก็ได้ใช้ครบทุกสูตรแล้วนะฮะ หลอดแดงก็จะเหมาะสำหรับทาหน้าอย่างเดียว หรือว่าเป็น daily sunscreen แบบเจอแดดนิดหน่อยตอนไปทำงาน อะไรงี้ เค้ามี spf แค่ 30 pa กี่บวกก็จำไม่ได้แล้ว แต่เราก็เอามาทาแขนทั้งหมดเนี่ยแหละ อิอิ รู้สึกหลอดแดงจะกลิ่นแรงที่สุดนะ กลิ่นกล้วยเน่าเหมือนกันหมดแหละ

ซื้อต่อมั้ย - เอาสิ อย่างน้อยเราก็ชอบเนื้อครีมมากกว่า banana boat นะ เราว่าครีมมันเหนียวน้อยกว่าก็เลยทาง่ายกว่า spf ก็สูสีกัน ยิ่งมีโปร 1 แถม 1 แบบนี้ล่ะต้องตุนๆๆๆ อิอิ

***อ้อ*** นึกได้แล้ว เดี๋ยวเอาของที่ตุนๆไว้มาเม้ามอยเล่นดีกว่า แบบว่าตุนไปตุนมาชักหลายสิ่ง เดี๋ยวจะจำไม่ได้ว่าตุนอะไรไว้มั่งแล้วจะไปซื้อซ้ำมาซะ อิอิ