วันจันทร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2555

Review: O.P.I Nail Laquer-Hopelessly In Love

ยาทาเล็บนี้...ซื้อเพราะชื่อสีจริงๆเลย มันแปลกดี ฮี่ๆๆ แต่พอทาจริงๆแล้ว เอิ่มมม มันก็ไม่ได้ทาง่ายอะไรขนาดนั้นนะ แปรงมันควักน้ำยาเยอะเกินด้วย ทาให้เรียบยากเลยอ่ะ ผลที่ได้ไม่เหมือนในรูปรีวิวเลยก็แล้วกัน มันดูทึบกว่า ส้มกว่าของเขาเยอะอ่ะ ในรูปสวยๆนั่นมันแอบใช้แปรงวิเศษช่วยป่าวหว่า เหอๆๆ

 
 


ลองอยู่นานมากกว่าจะรู้ว่าทายังงัยให้เรียบ ถ้าจะเขย่าขวดก็ต้องกลิ้งขวดเอา แล้วก็ทิ้งไว้สักพักให้ฟองอากาศมันแตกตัวนะจ้ะ ไม่งั้นฟองๆก็จะมาอยู่บนเล็บเรา งามไปเลย เหอๆๆ และก็ต้องทาสองชั้นถึงจะเรียบ ทาชั้นเดียวมันดูบางไปแล้วก็เกลี่ยให้เรียบยากมาก ทาสองชั้นกลบเกลื่อนความขี้เหร่ซะเลย 555 แต่พอแห้งแล้วก็ดูเงาๆสวยดีนา เรื่องความติดทนก็ธรรมดา เหมือนยาทาเล็บถูกๆทั่วไป แต่ล้างออกง่าย ไม่เลอะเทอะเกรอะกรังนิ้วไม่ว่าจะใช้น้ำยาล้างแย่แค่ไหนก็ตามจ้า
 
ซื้อต่อป่ะ "ซื้อก็บ้าแล้ว" 555 อะไร ขวดตั้งเกือบ 300 แล้วมันก็ไม่ได้วิเศษวิโสอะไรกว่าชาวบ้านเค้าเลย ถ้ามันทาง่ายมาก ดูสวยมาก ทนมาก แต่ล้างออกง่ายมากอะไรงี้ค่อยน่าหาเพื่อนเพิ่มหน่อย ตัวนี้ถือว่าสอบตกไม่มีชิ้นดีเลยจ้า

Review: Kate Gradical Eye-A (Gold)

สีทอง1 (รหัส GD-1) 
แบบว่าคันไม้คันมือ อยากได้สีทองมาวิ๊งๆที่เปลือกตาอ่ะนะ ไอ้สลีคส่วนมากจะออกน้ำตาลซะมากกว่า ก็เลยไปแสวงหามายกใหญ่ ตอนแรกเกือบจะเอา naked2 มาเลยทีเดียวแต่หยุดตัวเองทันที่ว่า ไม่ได้ต้องการเยอะขนาดนั้น และก็อยากพกไปไหนมาไหนด้วย ราคาก็ย่อมเยากว่าเยอะ เลยกลับหลังหันมาเล็งตัวนี้แทน แบบว่าไปลูบๆคลำๆที่วัตสันมาแล้วล่ะ สีก็ทองๆดีหรอก แต่ราคาไม่ลดเลย 450บาท เค้าทำใจซื้อไม่ลงอ่าาา

เว็บนี้ก็รู้ใจเราจริง มีเป็น rare item ซุกอยู่ในหมวดลดราคาด้วยนะฮะ เอาก็เฮ้ยย สีที่อยากได้มันมีว่ะ ราคาก็น่ารักมาก 300บาทเอ๊งง ไม่เอาได้งัยเนี่ย

พอเห็นของแล้วก็ตามคาดนะฮะ เป็นของมาจากญี่ปุ่นเลย เพราะราคาไทยยังงัยก็ไม่น่าจะลดต่ำกว่า 300 ได้ เจ้าตัวที่เราได้มาเลยไม่มีวันผลิตซะด้วยสิ แต่ว่า made in japan อันนี้มีบอกชัดเจนอ่ะ




ชอบอ่ะ ซูมดูสีเนี่ย จัดแสงมาสามแบบตามอัธยาศัยนะจ้ะ แสงไฟห้องปรกติ แฟลชระยะไกล และแฟลชใกล้ เห็นวิ๊งๆทุกเม็ดเลยทีเดียว อิอิ
(17/09/2555)รายงานผลการใช้งานเจ้าค่ะ จะบอกว่าเราคิดไปเองรึเปล่าไม่รู้ แต่สีนี้เหมือนไม่ชัดเท่าโทนสีม่วงที่เคยซื้อมาก่อน (ซึ่งอันนั้นเริ่มยุบแล้วนะฮะ ดีใจมากเลย 555) เวลาอยู่บนเปลือกตาแล้วดูไม่ค่อยออกว่าแต่งตาแล้ว เห็นแต่วิ๊งๆเยอะกว่า สีก็กลืนไปกับหน้าเรามากเลย อืมมม ไม่เหมือนอย่างที่คิดเท่าไร แต่ก็เอามาแล้วนี่นะ ต้องใช้ๆกันไป รู้สึกเฉยๆขนาดอยากซื้อ naked2 มาประชดตัวเองเซี้ยะให้รู้แล้วรู้แร่ดไปเลย
 
ช่วงแรกๆก็เห่อ แต่งสีทองบ่อยๆ แต่พักหลังมานี่บางวันก็ตาแห้ง อยากหยอดตา บางวันก็นอนน้อย ตาปูดบวม ขืนแต่งตาจะยิ่งเน้นความบวมเข้าไปอีก ก็เลยไม่ค่อยได้แต่งตา พาลทำให้หายอยากได้ naked2 ไปเลยซะงั้น ถือว่าดีมั้ย?
 
Repeat buying? "Absolutely not" ไม่ใช่ว่าของเธอไม่ดีนะ เรียกว่าคุณภาพปานกลางแล้วกัน แต่เราใช้ของไม่หมดซะทีอ่ะ เห็นจนเบื่อแล้วเบื่ออีกก็ยังอยู่ จะทิ้งก็เสียดาย ขายต่อก็คงขายไม่ออก ส่งต่อให้คนอื่นก็ไม่มีใคร เลยต้องทนกล้ำกลืนฝืนทนจ้องหน้ากันต่อไปนะเธอว์

Review: Etude Aloha V-Line Slim Maker

เลือกมาได้แบบฟลุกๆ เพราะไม่ได้อยู่ใน list แต่แรก พึ่งจะ add to basket เป็นตัวสุดท้ายเลยมั้ง แบบว่าบังเอิญไปเห็นพอดี เอ้ย อยากได้ shading ง่ะ โอมจงมาๆ อิอิ

อ่านจากรีวิวแล้วก็น่าจะโอเค สีไม่เว่อร์ไม่แดงไม่ส้มเกิน มี highlight ด้วย น่าจะคุ้มดีอ่ะ

พอเห็นของจริงแล้วแบบว่า มันสวยเกินคาดอ่ะ กล่องก็สวย ตลับก็สวย เปิดออกมาสีและลายก็ยิ่งสวยใหญ่ กรี๊ดมากมายอ่ะ แถมแปรงน้อยให้อันนึงด้วยนะ ขนนิ่มประมาณนึง คงไม่ถึงกะข่วนหน้าแต่ก็ไม่ได้นิ่มเว่อร์ ตอนแรกนึกว่าจะลองหัดเฉดเลยก็เลยไม่กล้าแตะ ขอเก็บไว้ดูก่อน อิอิ อ้อ เราเอาเบอร์ 1 มานะ แต่ดูๆแล้วเหมือนของจริงจะเข้มกว่าในรูปแฮะ

แต่พอลองปัดจริงๆแล้ว มันไม่เห็นสีเลยง่ะ แทบปัดไม่ออกเลยดีกว่า ประมาณว่าอัดเนื้อแป้งมาแข็งมาก จะมาใช้แค่อีแปรงที่มันแถมมาน่ะเหรอ ชาตินี้ไม่มีทางควักขึ้นหรอก ต้องใช้แปรง eyeshadow ของ ecotools มาลองขยี้ดูน่ะ มันก็ดีตรงที่ลายสวยๆจะอยู่ได้นานหน่อย แต่แย่ตรงที่ใช้ประโยชน์จากตัวมันไม่ได้เนี่ยสิ ไม่เป็นไร น่าจะเหมาะกะมือใหม่ตรงที่สีไม่ชัดเนี่ยแหละ เมื่อเช้ารีบลองจนเฉดจมูกเบี้ยวไปแล้ว ดีที่สีไม่ชัดเลยไม่ต้องลบ
 







แบบว่าลายมันสวยอ่ะนะ เลยขอชักภาพไว้เยอะๆหน่อย อิอิ
(15/09/2012)ตอนแรกก็เห่อ ใช้แต่ฝั่งสีน้ำตาลจนลายหายไปก่อนเพื่อนเลย แบบว่าบ้าเฉดมาก ไปกินข้าวนอกบ้านใกล้นิดเดียวก็ต้องเฉด แบบว่าเห่อด้วยและก็พึ่งรู้สึกตัวว่าอ้วนขึ้นมากๆ ก็เลยอยากกลับไปหน้าเรียวๆเหมือนตอนยังสเลนอยู่น่ะเธอว์
 
ส่วนตอนนี้เหรอ แทบไม่ค่อยได้หยิบอ่ะ 5555 เราก็เป็นงี้ตลอด เห่ออะไรได้แป๊บเดียวก็หาย แล้วก็ปล่อยมันนอนแอ้งแม้งอยู่ในกองคสอ.ที่ไม่ค่อยได้ใช้สักอัน แถมยังไปหาเฉดดิ้งตัวใหม่มาเย้ยมันซะอีกนี่ (smashbox) แล้วจะเอางัยต่อล่ะเนี่ย
 
อ่า ข้อความต่อไปนี้จะเรียกว่าแก้ตัวดีมั้ยเนี่ย คือว่าเฉดดิ้งตัวนี้มันไม่ค่อยออกสีเลยอ่ะ ตั้งแต่เอาแปรงปาดก็แล้ว ฟาดก็แล้ว แทบจะเอาตะไบมาขูดออกแล้วใช้แบบผงแล้วนิ คือแคะเนื้อก็ไม่ออก สีก็ยิ่งไม่ค่อยออก แต่พอเริ่มเห็นสีแล้วก็โอเค มันดูเป็นธรรมชาติได้อยู่ ส่วน highlight ก็ค่อนข้างวาวมาก ลงสันจมูกนี่ออกเงาเลย ตอนแรกๆยังกะประมาณไม่ถูก ไปถึงที่ทำงานนี่แบบ เอ้ยยย จมูกชั้น ทำไมข้างมันดูเข้มดำ สันมันมันวาว ตลกมากอ่ะ
 
แต่ใช้ไปใช้มาก็เริ่มชินๆกะมันพอถูไถกันไปเรื่อยๆ เหมาะสำหรับวันที่รีบหรือไม่ต้องการความปราณีตอะไรมาก แบว่าหยิบมา ทาถูๆข้างแก้ม+ไล้ดั้งได้เลย มีกระจกให้ด้วย ส่องกันไปเต็มๆ อะไรเง้ เพราะถ้าใช้ smashbox มันต้องพิถีพิถันนิดนึง แบบสีเข้มแตะตรงนี้ สีกลางลูบตรงนี้ วุ้ย เยอะนิดนึง แต่ออกมาแล้วดูดีเลยแหละ
 
ไม่นานมานี้ พึ่งค้นพบความดีของมันอย่างนึง และหวังว่าจะทำให้ฝั่งสีขาวยุบเร็วทันกะสีน้ำตาลบ้างรัยบ้าง แบบว่าตอนนี้บางทีก็ขี้เกียจเขียน eyeliner แบบจิ้มจุ่มเพราะว่ามันเสียเวลามาก เขียนลบๆ ช่วงปลายเส้นเนี่ยยากเพราะจะมีขนตามาขวาง บางทีลุ้นจนเหนื่อยเลย เหอๆๆ ทีนี้ บางวันก็เลยเอา eye shadow สีเข้มๆมากรีดขอบตาแทนซะ ใช้แปรงคิ้วเนี่ยแหละ เส้นเล็กเหมาะที่สุดแล้ว ส่วนเปลือกตาจะปล่อยโล่งๆก็กะไรอยู่ ก็จะปาดสีขาวเนี่ยแหละ แววออกเยอะนักใช่มั้ย มาอยู่บนเปลือกตาชั้นดีกว่า ปรากฎว่าซ่าไม่ออก พอใช้เป็น eye shadow จริงๆแล้วแทบมองไม่เห็นครับท่านแต่ก็ดีกว่าปล่อยเปลือยๆ อิอิ
 
หรือไม่บางทีลง eye shadow แบบครีมแล้วมันจะเป็นคราบ (ซึ่งเป็นแน่นอน) ก็จะเอาสีขาวเนี่ยแหละ กดทับเอาไว้ ได้ผลอ่ะ คราบแทบไม่มี เราก็ไม่ได้สังเกตุด้วย แต่ถ้าเราไม่รู้สึก ก็แสดงว่ามันเป็นคราบน้อยมากหรือไม่เป็นเลยนะแหละ
 
แล้วทีนี้ ซื้อต่อป่ะ ก็ไม่อ่ะ ไม่อยู่แล้วล่ะ ตลับนี้ก็อีกกีปีจะหมด เราก็มียี่ห้ออื่นรออยู่แล้วด้วย ส่วนใครที่เหมาะกับเจ้าสิ่งนี้ เราก็จะบอกว่าคนที่อยากลองหัดเฉดดิ้ง แบบเรางัย ตอนนี้ทำเป็นแล้วนะ ก็ได้ตลับนี้ช่วยด้วยแหละ ราคาก็พอคุยกันไหว 450 บาท จะว่าไป ถ้าใครอยากซื้อต่อก็อยากขายนะ อิอิ

Review: Etude Face Colour Corset

เป็นบลัชที่คิดว่าออกม่วงอีกตัว ชื่อสียังบอกว่า lavender fit เลย พอเห็นของจริงแล้วมันก็ดูม่วงกว่าดานาฮานหน่อย แต่เสียดายลายหน้าบลัชเลยทำใจอยู่นานกว่าจะกล้าใช้จริง เหอๆๆ

พอลองเอามาปัดแล้ว ต้องขยี้ๆๆแปรงลงไปเลยนะ ลายหน้าบลัชสวยๆหายหมดเลย เหอๆๆ พอเอามาแตะๆแก้มแล้วแบบว่า โหวววววว แปลกตามาก แก้มไม่เคยเป็นสีชมพูนมมาก่อน มันอ่อนๆ สว่างๆ แปลกๆ ไม่ชินหน้าอย่างแรงขนาดว่าต้องไปเอามาจอสีส้มมาปัดทับเลยน่ะ คนมันไม่เคยจริงๆ

ตอนเห็นแค่ตลับยังนึกว่าอีทูดี้น่าจะชนะ เพราะม่วงกว่า แต่พอลองปัดจริงๆแล้วเราชอบดานาฮานมากกว่านะ สีหวานกว่าเยอะอ่ะ

 มีซีลปิดฝาให้ด้วยนะ



อันนี้นึกสนุกเลยเอามาลองเทียบกันดู แมคที่เคยคิดว่าชมพูนมแล้ว ดูแดงไปเลยเมื่อเทียบกับอีกสองตัว

(15/09/2012) update การใช้งานบ้างอะไรบ้าง หลังจากอยู่ด้วยกันมา...โอ้ว ครึ่งปีแล้วรึ แต่ก็ไม่ค่อยได้ใช้เหมือนกันเพราะว่ามีของเยอะ ต้องเฉลี่ยๆเวลาให้แต่ละนางกันไป ตอนแรกที่บอกว่าปัดแล้วดูม่วงไปเลย พอหลังๆมานี่เรารู้สึกมันไม่ม่วงแล้วนะ ก็ดูเป็นชมพูอ่อนๆธรรมดา ไม่รู้ว่าเห็นจนชินหรือสีนางเปลี่ยนเองได้ แต่ก็โอนะ ตอนนี้เน้นเอาไว้พกไปเติมเวลาที่ลงบลัชครีมหรือบลัชสีแรงๆไว้แล้ว จะได้ไม่เว่อร์เกิน แต่ถ้าอยากบริหารกล้ามแขนต้องลองปัดตัวนี้เดี่ยวๆ เพราะกว่าจะเห็นสีบนแก้ม ก็คงได้กล้ามแขนแข็งแรงแถมไปทำงานสายด้วย 5555

จะซื้อต่อมั้ย...อืม ไม่อ่ะ ตัวนี้ตลับก็ใหญ่กว่าที่คิดแล้วนะ อีกกี่ปีจะหมดล่ะเนี่ย แถมไม่ค่อยชอบเนื้อบลัชเท่าไรด้วย มันแห้งๆดูแป้งๆมากเลย เวลาเอานิ้วปาดก็สีติดดีนะแต่ใช้แปรงนี่ยังงัยก็ขุดแทบไม่ขึ้น คงเจอกันครั้งหนึ่งก็พอนะจ้ะ

Review: Beauty Credit Danahan Looc Lovely Cheek

บลัชม่วง...ข้าอยากได้บลัชม่วงงงงงงงงงงงง

ตอนดูสีในเว็บ มั่นใจว่ามันต้องม่วงแน่ๆ ม่วงแบบนี้เลย

(กรุณาส่องบลัชที่อยู่มุมขวาล่างนะจ้ะ ม่วงมะล่ะ)

แต่พอได้ของจริงแล้ว....มันไม่ใช่อ่ะกิ๊บ ทำไมในรูปมันดูม๊วงงงงงงง ม่วง แต่ตัวจริงกลายเป็นชมพูซีดๆ แหม่ อยากรู้เหลือเกินว่าเว็บเขาใช้กล้องอะไรถ่าย สีมันต่างจากของจริงมากเลยอ่ะ เราก็แหม...แพ้คำว่า danahan จริงๆเลย เพราะเคยได้ tester เป็น eye cream ของยี่ห้อนี้แล้วมันหอมแบบที่เราชอบมาก พออยากมาซื้อขนาดจริงก็ไม่มีใครขายเลย เป็นอะไรที่หายากมาก พอเจอของยี่ห้อนี้เลยอ่อนไหวเป็นพิเศษ ต้องรีบกดซื้อ อิอิ

เปิดดูตอนแรกนึกว่าแม่ค้าส่งมาผิดสีป่าวเนี่ย พลิกดูข้างหลังก็ถูกเบอร์แล้วนี่หว่า (PK05-sugar pink ชื่อสีน่ารักมากกกกกกกก) ยังดีที่เป็น blue based อยู่ ลองปัดนิดๆแล้วก็โอเค ชมพูนมจริง แบ๊วจริง เอ้ออ ค่อยโล่งหน่อย





อันนี้ปัดบนๆนิดเดียวนะฮะ ของเดิมคือ mac well dressed จ้ะ
(14/09/2555) ลายหน้าบลัช เอาแปรงขยี้ไม่กี่ครั้งก็จางแล้ว ตลับก็เป็นรอยง่าย ใช้ๆไปก็ดูก๊องแก๊งมากขึ้นๆ แต่สีบลัชน่ารักมาก ปัดเท่าไรก็ไม่เว่อร์ ยังคงความแบ๊วววววววใสของมันไปได้เรื่อยๆ เคยพกไปเที่ยวเกาะล้านครั้งนึง ถ่ายรูปมาก็ดูไม่ออกหรอก แต่เวลาส่องกระจกแล้วน่ารั๊กอ้ะ อิอิ ตอนนี้ก็ไม่ค่อยได้ใช้เท่าไร เพราะว่าเสียดาย กลัวหมด ในเว็บที่ซื้อมาเค้าไม่พร้อมส่งแล้วนะเออ ต้อง pre-order แอร๊ยย ถ้าอยากได้อีกต้องรอนานเลยเหรอเนี่ย เดี๋ยวปรั๊ด สะบับบ๊อบไปซื้อยี่ห้ออื่นซะเลยนิ (พูดหยั่งก๊ะจะใช้หมดเร็วๆนี้งั้นล่ะ 555)

Review: The Face Shop make up base

อดใจไม่ไหว อะไรฮิตต้องตามชาวบ้านตลอดๆ เจ้าตัวนี้สอยมาเพราะคิดเอาว่าสีผิวบนหน้าไม่สม่ำเสมอ หน้าผาก+จมูกเข้มกว่าแก้ม ก็น่าจะลองใช้เบสปรับสีดู

พอเห็นตัวจริง หลอดใหญ่กว่าที่คิดอ่ะ กะลังนอยเล็กๆว่าจะปลอมรึเปล่า เพราะพึ่งดูกระทู้ที่เค้าสงสัยของตัวเองอยู่ เพราะว่าหลอดมันป่อง ของเราพอดูหน้าหลังแล้วเลยรีบวางนอนดูความอวบซิ ปรากฎว่าไม่ป่องแฮะ ผอมๆตามรูปขนาดของมัน แต่ก็รู้สึกเต็มๆแบบว่ามีเนื้ออยู่เต็มหลอดประมาณนั้น เลยโล่งไป อีกอย่างก็เชื่อแม่ค้าด้วยแหละ เค้าว่าแท้เราก็ว่าแท้ อิอิ







ลองแกะซีลออกมาดูเนื้อซะหน่อย ปรากฎว่ามันเหลวอ่ะ ไหลออกมาซะเยอะเลย แบบว่านวดๆได้ทั้งหลังมือเลยอ่ะ ตอนแรกก็ดูผ่องๆอย่างที่เขาว่า สักพักลองเทียบกับมืออีกข้าง ปรากฎว่ามันขาวกว่ามากมายอ่ะ โหวววว ชักกลัว ไม่กล้าทาลงหน้าเดี่ยวๆ แล้วสิ นี่เราคิดว่าม่วงน่าจะวอกน้อยกว่าเขียวแล้วนะ

เริ่มใช้ครั้งแรก ลองผสมบีบีสีเข้ม ก็เข้าท่าอยู่ สีอ่อนลงทันทีแล้วก็เกลี่ยง่ายขึ้น หน้าแมทกว่าลงบีบีอย่างเดียวซะอีกง่ะ เลยชักจะชอบมันแล้วแฮะ

อีกวันต่อมาก็ลองผสมรองพื้นที่ค่อนข้างเข้ม ก็โอเคเลย เกลี่ยยากนิดนึงอันนี้โทษรองพื้นไว้ก่อนเพราะเบสมันเหลวมาก อิอิ หน้าก็ไม่เป็นคราบระหว่างวันนะ

และอีกวัน ยังสนุกอยู่ ทาเดี่ยวๆซะเลย แต่เน้นหน้าผากกะรอยแดง ก็โอเคนะ ดูผ่องขึ้น ค่อยขาวเท่าๆกะหน้าส่วนอื่นหน่อย ลงกันแดดผสมบีบีตามแล้วเนียนกริ๊บเลยทีเดียว ติดอยู่เรื่องนึง วันนี้ใช้เดี่ยวเลยพึ่งได้กลิ่นมันเนี่ยแหละ แบบว่าาาา เอิ่มม แปลกๆง่ะไม่หอมแน่ๆ เหมือนมีกลิ่นเคมีแนวๆนั้นอ่ะนะ แต่โดยรวมสรุปว่าชอบอ่ะ อาจจะซื้อต่อทั้งม่วงทั้งเขียว ถ้าหน้ามีปัญหามากขึ้นเช่น รอยแดงโผล่มากขึ้น หรือไปตากแดดคล้ำลง อะไรงี้ แถมราคามันน่ารักมากๆ ในเว็บขายกัน 100 กว่าบาทเอ๊ง ตัวเธอว์ว์ว์ว์ว์ว์

Review: Etude Moistfull Collagen Cream

หยิบออกมาดู กล่องใหญ่กว่าที่คิดแฮะ แต่เปิดดูแล้วน่ารักมากๆ รู้งี้น่าจะซื้อตั้งนานแล้ว อิอิ
มีนวดหน้ากับโทนเนอร์เล็กๆ แล้วก็พายตักครีมแถมมาด้วยอ่ะ แต่ตอนที่เปิดกล่องออกมา มันไม่มีพาย เหลือแต่ช่องว่างๆ นั่งงงตั้งนานกว่าจะคิดออกว่ามันควรจะเป็นอะไร ก็เลยลองเขย่าๆ อ้อ ค้างอยู่ในกล่องนี่เอง นึกว่างานเข้า ได้ชุดพิการมาซะแล้วว ตัวกระปุกครีมสวยมาก มีประกายวิ๊งๆด้วย ข้างในเป็นเนื้อเจลสีส้มอ่อน กลิ่นหอมมมากมาย นี่ขนาดน้ำหอมมาท้ายสุดในส่วนผสมเลยนะเนี่ย แต่แอลนี่ไม่แน่ใจว่ามีรึเปล่า เพราะมีแอลที่ไม่รู้จักอยู่ตัวนึง อยู่ในรายการส่วนผสมค่อนไปช่วงท้ายแล้ว แถมทาแล้วซึมดีกว่า moist surge เยอะเลย ก็เลยเดาว่าน่าจะมี แต่ไม่เยอะ 




(14/09/2555) ตอนนี้ใช้หมดกระปุกไปนานแล้วล่ะ แบบเจลนี่ใช้เปลืองมาก แต่ essense กับตัวนวดหน้าก็ยังอยู่ แบบว่าไม่ค่อยได้ใช้เลยง่ะ ส่วนเนื้อเจลก็สีส้มอ่อนๆใสๆ มีกลิ่นน้ำหอมค่อนข้างเยอะ แต่เราไม่แพ้แฮะ ก็ใช้ได้เรื่อยๆอ่ะ ทากลางวันกลางคืนก็ได้
 
ถามว่าซื้อต่อมั้ย ก็น่าสนนะ แต่ตอนนี้ขอลองอย่างอื่นไปเรื่อยๆก่อนได้ไหม นี่ก็ว่าจะสั่งแบบ emulsion มาลองมั่งล่ะ เพราะว่าปริมาณเยอะกว่าและถูกกว่า งกอีกตามเคยนะเรา อิอิ